สูตรทำ ข้าวกะเพราเนื้อวากิว โรยหอมเจียว พร้อมเคล็ดลับการเลือกเนื้อให้อร่อยฟิน!
สำหรับใครที่กำลังมองหาเมนูอาหารไทยง่ายๆ แต่ไม่ธรรมดา แถมมีรสชาติอร่อยเข้มข้น ปรุงเองได้ที่บ้านและใช้เวลาไม่นานเพียง 30 นาที วันนี้เรามี สูตรอาหาร จากเนื้อวัวออสเตรเลียขนานแท้ (True Aussie Beef) มาฝากกันค่ะ นั่นก็คือ สูตรทำ ข้าวกะเพราเนื้อวากิวโรยหอมเจียว บอกเลยว่าการันตีความอร่อยเข้มข้น หอมหวนถูกใจคนไทยแน่นอน ตามมาจดสูตร พร้อมดูเคล็ดลับวิธีการเลือกเนื้อให้อร่อยฟินกันเถอะ!
สูตรทำ กะเพราเนื้อวากิวโรยหอมเจียว
วัตถุดิบ ข้าวกะเพราไข่ดาวเนื้อวากิว
- เนื้อสันใน 300 กรัม
- หอมแดง 100 กรัม
- ข้าวหุงสุก 400 กรัม (อุณหภูมิห้อง)
- กระเทียม 10 กรัม
- รากผักชี 10 กรัม
- พริกไทยขาว 10 กรัม
- ใบกะเพรา 100 กรัม
- พริกแห้ง 50 กรัม
- ข้าวโพดหวาน 50 กรัม (ถ้ามี)
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ไข่ 1 ฟอง
- น้ำมันปรุงอาหาร
วิธีทำ ข้าวกะเพราไข่ดาวเนื้อวากิว
ข้าวผัดกะเพราและไข่ดาว
- ตำกระเทียม รากผักชี และพริกไทยขาวให้ละเอียด
- ตั้งน้ำมันไฟกลาง ใส่เครื่องแกงที่ตำไว้และพริกแห้งลงไป ผัดจนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่ข้าวแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา ผัดนาน 2 นาที
- หลังจากนั้นใส่ข้าวโพดและใบกะเพราลงไปผัด ต่ออีก 1 นาทีแล้วนำออกจากกระทะ
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน ตอกไข่ลงไป ทอดจนด้านล่างเป็นสีทองและขอบดูกรอบ จากนั้นปรุงด้วยพริกตามความชอบของคุณ
สเต็กเนื้อวากิวเทนเดอร์ลอยน์
- ตั้งกระทะไฟปานกลาง
- ทาเกลือบนเนื้อเล็กน้อย
- ย่างบนกระทะด้านละ 2-4 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาของเนื้อ
- เสร็จแล้วนำเนื้อสเต็กขึ้นพัก 3-5 นาที ก่อนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
หอมเจียว
- หั่นหอมแดงเป็นแว่นบาง ๆ ตากให้แห้งอย่างน้อย 15 นาที
- ทอดด้วยไฟอ่อน คนเบา ๆ ตลอดเวลา
- นำขึ้นก่อนที่จะสุกจนเป็นสีน้ำตาลทองและพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
เคล็ดลับการเลือกเนื้อให้อร่อย
แหล่งผลิตเนื้อเป็นตัวกำหนดรสชาติ ว่าแหล่งที่มาของเนื้อส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและคุณภาพของเนื้อ เพราะวัวที่ได้รับการเอาใจใส่และเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติจะให้เนื้อที่มีคุณภาพสูง ซึ่งประเทศออสเตรเลียได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในด้านการทำฟาร์มที่ดีที่สุด เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ในสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์ สัตว์ได้เดินเล่นอย่างอิสระจึงมีความเครียดน้อย และเลี้ยงด้วยหญ้าหรือเมล็ดพืชที่ดีที่สุดเท่านั้น
เนื้อแผ่นกลมเหมาะกับการทำอาหาร ควรเลือกเนื้อสันในที่ตัดเป็นแผ่นกลมเพื่อความสุกที่สม่ำเสมอ เนื้อที่ถูกตัดให้มีรูปทรงไม่เท่ากันจะทำให้สุกไม่ทั่วถึง ส่วนที่บางกว่าจะสุกมากเกินไป และส่วนที่หนากว่าจะไม่ค่อยสุก ซึ่งความหนาที่กำลังดีอยู่ที่ประมาณ 4-5 ซม. โดยคุณสามารถสอบถามเทคนิคการหั่นเนื้อได้ที่ได้เคาน์เตอร์เนื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายเนื้อชั้นนำทั่วไป
มีเดียมแรร์คือที่สุดของความอร่อย เนื้อสันในเป็นเนื้อที่นุ่มที่สุดและไม่มีไขมัน ถ้าปรุงสุกเกินไปจะทำให้เนื้อสัมผัสแห้งและเหนียว ดังนั้น เพื่อให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลที่สุดควรปรุงแบบมีเดียมแรร์ สำหรับมือใหม่ที่อยากได้ระดับความสุกของเนื้อตามที่ต้องการ สามารถใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิได้โดยให้เนื้อไม่สุกเกิน 60°C
การพักเนื้อ เมื่อปรุงสเต็กเนื้อเสร็จแล้วห้ามหั่นเป็นชิ้น ๆ ในทันที ต้องนำเนื้อขึ้นมาพักบนจานอุ่นหรือถาดเสิร์ฟ คลุมด้วยกระดาษฟอยล์หลวม ๆ (ถ้าแน่นเกินไปจะทำให้เนื้อร้อนมีเหงื่อและสูญเสียความชุ่มชื้น) การพักเนื้อจะช่วยให้น้ำในเนื้อกระจายไปตามกล้ามเนื้อ ช่วยให้สเต็กชิ้นนั้นมีความนุ่มชุ่มลิ้นมากขึ้น สำหรับเวลาการพักสามารถคำนวณง่าย ๆ คือใช้เวลาพักราว 1 นาทีต่อเนื้อ 100 กรัม (สำหรับเมนูนี้ใช้เวลาพัก 3-5 นาที)
บทความที่คุณอาจสนใจ
- แจกสูตร 22 เมนูกะเพรา รสเด็ด เปลี่ยนเมนูสิ้นคิดให้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป!
- 20 สูตรอาหาร เมนูเนื้อ หลากหลายไอเดีย ทำง่าย เอาใจคนรักเนื้อวัว 🐂
- 20 ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง เนื้อวากิว ในกรุงเทพ ฟินกับเนื้อคุณภาพดี อร่อยต้องไป