วิธีการเลือกซื้อผลไม้ ให้ได้สุกพอดี รสชาติอร่อย สดใหม่ไม่เก่า

วิธีเลือกผลไม้ เลือกยังไงให้อร่อย ? บอกเลยว่า ผลไม้ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก ! เพราะผลไม้บ้านเราทั้งราคาถูก และก็รสชาติอร่อยที่สุดแล้วค่ะ ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็มีผลไม้อร่อยๆ ออกมาให้เลือกซื้อเลือกชิมกันมากมาย แต่เคยไหมคะไปตลาดแล้วเลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องเลือกยังไง วันนี้เรารวมมาให้แล้ว กับ วิธีการเลือกซื้อผลไม้ ให้ได้สุกพอดี รสชาติอร่อย แบบไหนจะอร่อยถูกใจ สดใหม่เหมือนไปเด็ดชิมตามสวนผลไม้ที่ระยอง หรือจันทบุรี เลือกยังไงให้ได้ผลไม้คุณภาพดี ไม่เน่าเสีย ไม่อ่อนไป ไม่ไปสุกเกินไป ตามเรามาดูกันเลยค่ะ
วิธีการเลือกซื้อผลไม้ให้อร่อย สดใหม่
1. วิธีเลือกซื้อมะม่วง
วิธีเลือกซื้อมะม่วงสุก
- ควรเลือกมะม่วงที่แก่จัด ผิวนวล แต่การดูสีบางทีไม่แน่นอน เพราะปัจจุบันใช้วิธีบ่มแก๊ส ทำให้มีผิวเหลืองสวย ทั้งๆที่บางทียังไม่แก่จัด
- มะม่วงที่ไม่สุกแก่ แต่นำมาบ่มแก๊สขาย จะมีลักษณะผิวสีเหลืองสวย เต่งตึง รสชาติเปรี้ยว เหม็นกลิ่นแก๊ส หากบ่มธรรมชาติ ผิวจะไม่สวย ไม่เต่งตึง สีไม่สม่ำเสมอ และรสชาติไม่หวาน
- มะม่วงที่สุกแก่พอดีตามธรรมชาติ จะมีผิวสีเหลืองเข้มสวย สม่ำเสมอ เต่งตึง (ผิวอาจจะมีรอยบ้าง) แต่ไม่ช้ำ ขั้วผลเรียบเต่งตึง รสชาติหวานฉ่ำอร่อย
- มีกลิ่นหอมมะม่วงสุก
วิธีเลือกซื้อมะม่วงดิบ
- ควรเลือกมะม่วงที่ขั้วมีสีน้ำตาลเข้ม เปลือกสีเขียวเข้มกำลังดี (แล้วแต่สายพันธุ์)
- อย่าเลือกมะม่วงลูกที่อ่อนจนเกินไป เพราะจะทำให้มะม่วงมีรสชาติเปรี้ยวโดด ไม่เข้มข้น
- ลองดีดมะม่วงดูเบาๆ จะรู้สึกถึงความความแน่นของเนื้อ ไม่เป็นเสียงโล่งๆ
2. วิธีเลือกซื้อทุเรียน
- ทุเรียนที่แก่จัด ปากปลิงจะพองโตเห็นรอยชัดเจน ปลายหนามจะออกสีน้ำตาลเข้ม เมื่อบีบหลายหนาม 2 หนามเข้าหากัน จะมีลักษณะยืดหยุ่นเหมือนมีสปริง
- ขั้วทุเรียน ด้านบนผลทุเรียนสีจะมันและแห้ง ร่องพูจะเป็นสีน้ำตาลปนเหลือง หรือใช้วิธีชิมปลิง โดยตัดขั้วผลหรือปลิง ทุเรียนแก่จะเห็นน้ำใสที่ขั้วผล ไม่ข้นเหนียวเหมือนทุเรียนอ่อน เมื่อชิมดูจะมีรสหวาน รอยตัดขั้วผลจะเป็นวงแหวนสีเหลืองระหว่างแกนกับเปลือก
- หากลองเคาะที่โกรกหนาม ทุเรียนแก่จะมีเสียงโพรกดังหลวมๆ ไม่ทึบ
- การเลือกซื้อทุเรียนควรซื้อที่ตัดมาจากสวนใหม่ๆ หากเป็นไปได้แวะไปที่สวนผลไม้ที่เปิดให้เข้าชม จะได้ทุเรียนที่ตัดมาสดๆ นำไปเป่าพัดลมไล่น้ำ 3-5 ชั่วโมง เนื้อทุเรียนจะไม่อมน้ำ ทำให้อร่อยยิ่งขึ้น
- หากซื้อทุเรียนที่ตัดตอนแก่ พันธุ์ชะนีให้ทิ้งข้ามคืน 3 คืน ส่วนหมอนทองให้ทิ้งไว้ 5 คืน จะได้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
- การใช้มีดผ่าทุเรียน ควรใช้มีดขนาดกระชับมือ มีความคมเป็นพิเศษ ผ่าตามร่องพู และค่อยๆ บิเปลือกออกให้แกะง่ายขึ้น สำหรับทุเรียนที่สุกมาก สามารถใช้มีดเจาะที่ก้นผลแล้วบิเปลือกออกทำให้แกะง่ายขึ้น
ดูเพิ่มเติม : วิธีเลือกทุเรียน ทุเรียนเนื้อดีเลือกยังไง แบบไหนคือสุกกำลังดี ?!
3. วิธีเลือกซื้อมังคุด
- มังคุดที่ใหม่ขั้วมังคุดต้องมีสีเขียว ไม่เหี่ยวหรือแห้งเป็นสีน้ำตาล
- เลือกเปลือกสีม่วงแดงเข้ม ไม่แข็ง เมื่อปอกเปลือกออกเนื้อจะเป็นพูขาวนวล รสหวานอมเปรี้ยว หากเป็นเนื้อใสและแข็ง เรียกว่ามังคุดแก้ว เกิดจากต้นมังคุดถูกฝนตกหนักก่อนเก็บ
- เลือกซื้อมังคุดที่เปลือกนิ่มไม่แข็งมาก เพราะมังคุดที่เปลือกแข็งๆ คือมังคุดเก่า
- เลือกมังคุดที่ผลกลมสวย มังคุดที่มีรอยแตกหรือแข็งมาก มีรอยยุบหรือมีทรายติด ไม่ควรซื้อ เพราะเป็นมังคุดที่ตกจากต้น
- ถ้าจะทานมังคุดที่มีรสชาติหวาน ให้เลือกมังคุดที่มีผิวสีม่วงเข้ม ถ้าจะทานมังคุดแบบหวานอมเปรี้ยว ให้เลือกมังคุดที่มีผิวสีแดง
- มังคุดผลเล็กจะมีรสชาติดีกว่ามังคุดผลใหญ่ และไม่ค่อยมีเมล็ดเวลาทาน
- ไม่ควรเลือกซื้อมังคุดที่มีรอยของยางสีเหลืองติดที่เปลือก เพราะอาจเกิดจากโรคผลแตกยางไหล ทำให้เนื้อมังคุดมีรสชาติขมฝาด ไม่อร่อย
- การแกะมังคุดให้ใช้มีดผ่าเป็นเส้นกากบาทที่ก้นผล แล้วบิดออกจะทำให้เนื้อไม่ช้ำและไม่เสียรสชาติ
4. วิธีเลือกซื้อเงาะ
- เลือกดูผลที่ใหญ่เพราะจะได้เนื้อมากกว่า
- เลือกเปลือกและขนเงาะที่มีสีสด ไม่แห้งดำ ขนาดผลโดยเฉลี่ยใกล้กัน
- เงาะโรงเรียนปลายขนจะมีสีเขียวอ่อน ส่วนเงาะสีชมพูปลายจะมีสีแดงอมชมพู
- เนื้อเงาะต้องล่อนดี ไม่ติดเมล็ด และไม่น้ำแฉะจนเกินไป
- เลือกซื้อเงาะที่ไม่โดนพรมน้ำ เพราะการพรมน้ำจะช่วยให้เงาะดูสด แต่จะเน่าเสียง่ายกว่าปกติ
- เลือกเงาะลูกที่ไม่มีรอยเจาะ ไม่ลีบ และไม่ช้ำ ไม่เหี่ยว
5. วิธีเลือกซื้อส้ม
- ผิวส้มจะต้องเรียบและเต่งตึง
- ลูกส้มกลมสวยไม่มีรอยบุ๋ม หรือเบี้ยวจนผิดรูป
- เลือกซื้อส้มที่มีเปลือกบางเรียบ ไม่หนาจนเกินไป
- เลือกส้มที่มีน้ำหนัก อย่าเลือกลูกที่เบา เพราะถ้าเบาเกินไปแสดงว่าในลูกส้มมีน้ำน้อย ไม่มีรสชาติ และเนื้อฟ่าม
- ลองกดที่ลูกส้มดูเบาๆ จะต้องรู้สึกถึงความตึง ไม่นิ่มและยวบจนเกินไป
- ขั้วส้มจะต้องไม่หลุด และไม่นูนออกมา เพราะถ้านูนเกินไปจะแสดงว่าส้มลูกนั้นฟ่าม คือ ส้มมีรสชาติจืด น้ำน้อย เนื้อกระด้าง ไม่มีกลิ่นหอม หรือบางผลอาจจะมีกลิ่นบูดได้
- ที่ด้านก้นหรือสะดือของส้ม (ด้านที่ไม่มีขั้ว) จะต้องเต่งตึงบุ๋มเล็กน้อย ไม่บุ๋มลึกเกินไป และต้องไม่นูนออก
- เลือกผิวส้มที่มีรอยจุดดำในผิว หรือเรียกว่าขี้มด เพราะจะเป็นตัวบ่งบอกว่าส้มมีรสหวาน แต่ต้องไม่ใช่จุดเน่า
ดูเพิ่มเติม : เคล็ดลับ เลือกส้มให้อร่อย ได้ส้มหวานฉ่ำ ไม่ฟ่าม ไม่เปรี้ยว แบบไม่ต้องลุ้น
6. วิธีเลือกซื้อชมพู่
- เลือกชมพู่ที่มีเนื้อกรอบและหวาน ควรเลือกผลที่มีลักษณะเป็นรูประฆังคว่ำ ผิวสวยไม่โดนเจาะ ด้านบนขั้วไม่ลีบเล็กจนเกินไป
- สังเกตรอยแฉกใต้ลูกชมพู่ รอยแฉกใต้ลูกชมพู่ ควรมีลักษณะที่ค่อนข้างลึกและกว้างได้รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส เพราะถ้ารอยแฉกใต้ลูกชมพู่เบี้ยว มีรอยแฉกตื้น ชมพู่ลูกนั้นมักจะมีเนื้อนิ่มและมีรสฝาด
- ชมพู่ที่แก่ ผิวของชมพูต้องขึ้นเส้น สามารถมองเห็นเป็นเส้นขึ้นตามลูกในแนวดิ่งลง
- มองรอบๆ ผลชมพู่ พยายามเลือกชมพู่ที่ผิวสวย อย่าเลือกชมพู่ที่มีรอยช้ำ เพราะชมพู่เป็นผลไม้เปลือกบาง จึงเกิดการช้ำและเน่าเสียได้ง่าย
ดูเพิ่มเติม : ประโยชน์ของชมพู่ ผลไม้ฉ่ำน้ำ หวานกรอบ อร่อยชื่นใจ แถมดีต่อร่างกาย
7. วิธีเลือกซื้อลิ้นจี่
- ลิ้นจี่มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกทาน แต่ละพันธุ์มีรสชาติแตกต่างกัน ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม มีผิวสีแดงเข้มคล้ำปนดำ เห็นหนามชัดเจน ขนาดลูกไม่ใหญ่นัก รสชาติหวาน ติดรสฝาดเล็กน้อย ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวย มีผิวสีชมพู หนามไม่ค่อยแหลม ขนาดผลใหญ่กว่าพันธุ์ค่อม รสชาติหวานหอม ติดอมเปรี้ยวบ้าง ลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิ ผลโต เมล็ดใหญ่ รสชาติฉ่ำน้ำ
- ลิ้นจี่ที่ยังไม่สุกดี สีจะไม่เป็นชมพูสดสวย แต่อมเหลืองหรือซีด หนามยังค่อนข้ามคม ไม่มนเหมือนลิ้นจี่แก่จัด
- เลือกลิ้นจี่ที่มีเปลือกบาง
- สีของเปลือกลิ้นจี่จะต้องไม่แดงเข้มมาก และเปลือกต้องมีรอยขรุขระบ้าง เพราะจะทำให้ลิ้นจี่มีรสหวานมากขึ้น
ดูเพิ่มเติม : ประโยชน์ของลิ้นจี่ สรรพคุณดี วิตามินซีสูง สดชื่น แก้กระหายน้ำได้ดี
8. วิธีเลือกซื้อลองกอง
- วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือขอแม่ค้าชิมก่อนว่าลองกองหวานหรือไม่
- เลือกลองกองผิวเรียบ ไม่มีรอยด่างดำมากเกินไป และควรมีขนาดผลใกล้เคียงกัน
- เลือกลองกองที่ยังเป็นพวง ไม่มีเม็ดหลุดออกมา
- สังเกตุดูที่ก้านของพวงลองกองว่ามีการมัดยางหรือไม่ เพราะบางร้านอาจจะนำลองกองที่ร่วงแล้วมามัดรวมกันให้เป็นพวงสวยงาม
- ผลลองกองจะมีลักษณะใกล้เคียงกับลางสาด ให้สังเกตผิวเปลือก ลางสาดผิวจะมันและเล็กกว่าลองกอง หากแกะเปลือกออกจะมียางสีขาวๆ แต่ลองกองจะไม่มียาง
9. วิธีเลือกซื้อสละ
- โดยทั่วไปสละแต่ละพันธุ์มีลักษณะไม่แตกต่างกันมาก จะต่างกันที่บางพันธุ์มีลักษณะพิเศษคือ ลำต้นไม่มีหนามและบางพันธุ์ผลจะมีลักษณะยาวรี และเปลือกมีสีน้ำตาลเข้ม เช่น สละพันธุ์เนินวง
- สละจะมีรสชาติหอมหวาน ส่วนระกำจะมีรสเปรี้ยวอมหวาน ผลระกำจะมีเมล็ด 2-3 เมล็ด แต่สละจะมีเพียง 1-2 เมล็ด
- สละนิยมทานผลสด แต่ระกำนิยมนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหาร เช่น ปลาทูต้มระกำ
- การแกะเปลือกสละและระกำ ให้เปิดเปลือกจากก้นผลแล้ววนรอบผล จะแกะง่ายและไม่ทำให้เนื้อช้ำ แต่ถ้าเปลือกล่อนเป็นชิ้นๆ แสดงว่าไม่สดเพราะเปลือกแห้งเกินไป
10. วิธีเลือกซื้อฝรั่ง
- การเลือกฝรั่งเนื้อหวานกรอบ ให้เลือกผลที่มีรูปร่างกลมแป้น ผิวเรียบมันวาว ไม่ขรุขระ
- เลือกฝรั่งที่ผิวมีสีเขียวอมเหลือง อย่าเลือกฝรั่งที่สีเขียวเกินไป เมื่อลองดีดดูเสียงจะดังโป๊ะๆ ไม่แน่นมากไป
- ผิวของฝรั่งต้องไม่ช้ำ อย่าเลือกฝรั่งที่มีรอยช้ำสีน้ำตาลเยอะจนเกินไป เพราะฝรั่งจะเริ่มเน่าเสียแล้ว
- การเลือกฝรั่งเนื้อนิ่ม จะเป็นฝรั่งที่มีรสชาติหวานที่สุด เมื่อลองดีดดูจะได้ยินเสียงดังแปะๆ ลองบีบเบาๆ จะรู้สึกว่าฝรั่งไม่แข็งมาก
- ฝรั่งที่มีก้านและใบติด จะเป็นฝรั่งที่สดใหม่มากกว่าฝรั่งที่ก้านหลุด
11. วิธีเลือกซื้อแตงโม
- แตงโมที่สุกแล้ว เมื่อลองดีดดูที่บริเวณกลางลูก จะรู้สึกได้ถึงความแน่น ไม่กลวง
- ดูที่ก้านแตงโมบริเวณขั้ว ถ้าตรงก้านมีลักษณะม้วนมาก แสดงว่าแตงโมลูกนั้นแก่จัด และจะมีรสชาติหวานฉ่ำ ถ้าก้านตรงแสดงว่าแตงโมลูกนั้นยังไม่แก่ รสชาติอาจจะไม่หวานเท่าที่ควร
- ควรเลือกแตงโมที่ขั้วเริมมีสีเหลืองแล้ว เพราะถ้าขั้วมีสีเขียวแสดงว่าแตงโมลูกนั้นยังอ่อนอยู่
- เลือกแตงโมที่มีเปลือกบาง โดนสังเกตุจากบริเวญก้นของแตงโม ลานเส้นจะต้องชิดกัน ยิ่งชิดมากแสดงว่าแตงโมลูกนั้นสุกแล้ว
- ดูที่ผิวของแตงโม ถ้าเปลือกแตงโมมีรอยสีน้ำตาล (ที่ไม่ใช่รอยช้ำ) แตงโมลูกนั้นจะมีความหวานแน่นอน
- เลือกแตงโมเมล็ดน้อยให้ดูลายของแตงโม ถ้าแตงโมลูกไหนมีลายเส้นที่ห่างกัน แนวของเมล็ดแตงโมด้านในก็จะห่างเช่นกัน
12. วิธีเลือกซื้อแก้วมังกร
- แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่จะมีกลีบ(หนวด)อยู่ที่ผล ซึ่งการเลือกแก้วมังกรให้อร่อย มีรสหวานฉ่ำ ควรสังเกตุ
- ตรงกลีบอย่าให้มีสีเขียวอยู่มาก เพราะยิ่งกลีบมีสีแดงไล่ขึ้นมาเท่าไหร่ ก็จะแสดงว่าแก้วมังกรลูกนั้นสุกแล้วและมีรสหวาน
- สีของเปลือกจะต้องเป็นสีแดงชมพู ไม่มีสีเขียวปน เพราะถ้ามีสีเขียวแสดงว่าแก้วมังกรลูกนั้นยังไม่แก่
- ควรเลือกแก้วมังกรที่มีรูปทรงเรียวเหมือนไข่ไก่ ลูกกลมเต่งตึง และหนวดไม่ยาวมาก
- เลือกแก้วมังกรที่มีขนาดกลางๆ เพราะจะเป็นขนาดที่กำลังดี เมื่อสุกแล้วจะมีรสชาติหวานทั้งลูก
- เลือกซื้อแก้วมังกรที่มีเปลือกบาง และหนวดไม่แข็งมาก จะเป็นแก้วมังกรที่หวาน
- ผิวของเปลือกต้องเต่งตึง ไม่เหี่ยว และหนวดไม่มีรอยหัก รอยช้ำ
13. วิธีเลือกซื้ออะโวคาโด
- ถ้าสัมผัสด้วยมือ ควรมีความนิ่ม กดจากเปลือกข้างนอกแล้วมีความยุบลง นั่นแสดงว่า อะโวคาโดสุกพร้อมกินแล้ว
- สังเกตที่ขั้วของอะโวคาโด ถ้าเป็นขั้วสีน้ำตาลเข้มจะสุกเกินไป ขั่วสีเขียว อ่อนเกินไป ถ้าสุกพอดี ขั้วควรออกสีน้ำตาล
- ดูจากสี ถ้าเป็นสีเขียวแปลว่ายังไม่สุก กินแล้วจะทำให้ปวดหัวได้
- อะโวคาโดที่พร้อมทานจะต้องออกสีเข้มทั้งลูก
ดูเพิ่มเติม : ประโยชน์ของ อะโวคาโด ผลไม้ไขมันดี กินทุกวันดีไหม กินตอนไหนดีสุด
14. วิธีเลือกซื้อกระท้อน
- เลือกกระท้อนที่มีสีเหลืองทอง ไม่มีสีเขียวปนอยู่มากนัก เพราะผิวของกระท้อนที่แก่และสุกจะมีสีเหลืองทอง ถ้ากระท้อนที่มีสีเขียวแสดงว่ากระท้อนลูกนั้นยังไม่แก่จัด จะทำให้มีรสฝาดและเปรี้ยว
- เลือกกระท้อนที่ผิวสวย ไม่เลือกผิวกระท้อนที่มีรู หรือมีรอบเจาะ เพราะนั่นอาจจะเป็นรอยที่โดนแมลง หรือหนอนเจาะ เมื่อผ่าอาจจะเจอหนอน หรือเนื้อกระท้อนเน่าเสียได้
- ถ้าอยากได้กระท้อนรสชาติหวาน เนื้อนุ่ม ให้เลือกกระท้อนที่มีลักษณะกลมแป้น แต่กระท้อนทรงแป้นจะมีเม็ดมากกระกระท้อนทรงจุก
ถ้าอยากได้กระท้อนรสชาติอมเปรี้ยว แต่เนื้อฟูนุ่ม เนื้อเยอะมีเม็ดน้อย ให้เลือกระท้อนที่มีขั้วนูนเป็นจุก
เลือกซื้อกระท้อนที่มีเปลือกบาง เพราะกระท้อนที่ผิวบางเนื้อด้านในจะนุ่ม
15. วิธีเลือกซื้อลำไย
- ดูที่ลูกลำไย ให้เลือกลำไยพวงที่ลูกโตๆ เพราะลำไยลูกโตคือลูกที่แก่แล้วนั่นเอง
- ดูที่เปลือกของลำไย ให้เลือกลำไยที่ลายสีน้ำตาลเข้มห่างออกจากกัน เพราะจะหมายความว่าลำไยพวงนั้นแก่แล้ว จะทำให้ได้ลำไยที่รสชาติดี หวานจัด และเนื้อหนา
- เลือกลำไยที่เปลือกเรียบ ไม่มีรอยแผล หรือรอยเจาะของแมลง
- วิธีดูว่าลำไยที่แก่ เนื้อบริเวณข้างๆ ขั้วของลำไยจะต้องนูนขึ้นมา คล้ายรูปหัวใจ
- ถ้าลองกดเบาๆ ที่ขั้วลำไย จะต้องรู้สึกว่าเนื้อแน่นเต็มเปลือก ไม่บุ๋มลงไปเป็นโพรง
- เลือกซื้อลำไยที่ผิวตึง ไม่นิ่มเกินไป และต้องไม่มีน้ำออกมา เพราะจะหมายความว่าเป็นลำไยที่โดนพรมน้ำ มีโอกาสเน่าเสียได้
- วิธีดูว่าลำไยใหม่ ไม่เก่าเก็บ ให้กดเบาๆ ที่ลูกลำไย จะต้องรู้สึกว่าเปลือกมีความยืดหยุ่น เด้งสู้มือ ไม่แข็งแห้งกร้าน
บทความที่คุณอาจสนใจ
- วิธีเลือกซื้อผักใบเขียว เลือกอย่างไรกินปลอดภัย สดใหม่ ได้คุณภาพ
- รวม 20 สวนผลไม้ 5 จังหวัด ภาคตะวันออก ชิมผลไม้สดๆ จากต้น
- จดลิสต์ ผลไม้ตามฤดูกาล เดือนไหนกินผลไม้อะไรดี ทั้งอร่อย และไม่แพง 🍍🍊
- เก็บกล้วยยังไงให้อยู่ได้นาน ? วิธีเก็บกล้วย ให้สดอร่อย ไม่สุกงอมเร็ว 🍌
- ซื้อตุนได้เลย ! วิธีเก็บทุเรียนที่แกะแล้ว ให้เก็บได้นาน สดอร่อยเหมือนวันแรก 😍