สูตรเด็ด 7 เมนู เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อร่อยทำง่าย กินได้ทั้งครอบครัว
เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่การกิน ! วันนี้เราเลยมี สูตรอาหาร เมนูทำง่าย พ่อครัว-แม่ครัวมือใหม่ก็ทำได้ ทำครั้งเดียวก็อิ่มอร่อยได้ทั้งครอบครัว แถมยังเพิ่มความพิเศษใช่ช่วงที่สถานการณ์ โควิด-19 ระบาดแบบนี้ หลายๆ คนคงไม่อยากออกไปกินข้าวนอกบ้าน งั้นเราก็มาเข้าครัวกันเลย กับ 7 เมนูอาหาไทย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด-19 เอาล่ะค่ะตามเรามาดูกันเลยดีกว่ามีสูตรอะไรบ้าง
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย 7 เมนูให้คุณค่าทางโภชนาการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดีและธาตุเหล็ก ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
7 เมนู เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด-19
เมนูที่ 1 ไข่ยัดไส้
กินมะเขือเทศและแครอทให้ได้อย่างละ ½ ทัพพี จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์ และวิตามินเอ 43 เปอร์เซ็นต์
ขอบคุณสูตรจาก คุณ ทอฝัน
ดูวิธีทำเต็มๆ ที่ :ไข่ยัดไส้-เมนูปรุงน้อยอร่อยล้ำ
ส่วนผสม ไข่ยัดไส้ (สำหรับ 2 ที่)
- ไข่ไก่สำหรับห่อ 2 ฟอง
- มะเขือเทศหั่นเต๋า 1 ลูก
- แครอทหั่นเต๋า 1 ถ้วย
- หมูสับ 1 ถ้วย
- หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 1/2 ลูก
- กระเทียม 3-4 กลีบ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
เมนูที่ 2 ต้มเลือดหมู
กินผักกาดหอม ½ ทัพพี ตับหมู 1 ช้อนโต๊ะ เลือดหมู 1 ชิ้นและหมูสับ 1 ช้อนโต๊ะ จะได้รับธาตุเหล็ก 45 เปอร์เซ็นต์
ขอบคุณสูตรจาก คุณจรรยา เลิศพงษ์ไทย
ดูวิธีทำเต็มๆ ที่ : ต้มเลือดหมูความอร่อยที่ลงตัว
ส่วนผสม น้ำซุป
- กระดูกหมูสำหรับต้มซุป หรือเล้ง 500 กรัม
- หัวไชเท้าปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้น 300 กรัม
- รากผักชี 50 กรัม
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- กระเทียมกลีบใหญ่ปอกเปลือกแล้ว 15 กลีบ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 1,500 กรัม
ส่วนผสม ต้มเลือดหมู
- เครื่องใน เช่น ไส้ต้มสุก ตับสดหั่นเป็นชิ้น กระเพาะ (เลือกตามชอบ)
- เนื้อหมูสดหั่นเป็นชิ้นบางๆ และนำไปหมักกับน้ำมันหอย
- หมูบด
- เลือดหมูต้มสุก หั่นเป็นชิ้น
- หมูกรอบหั่นชิ้น
- ใบขึ้นฉ่ายล้างหั่น
- ใบตำลึง, ผักกาดหอม
เครื่องปรุง
- กระเทียมเจียว
- ตั้งฉ่าย
- พริกน้ำส้ม
- พริกป่น น้ำปลา
เมนูที่ 3 ต้มยำปลาทู
เมนูนี้มีมะเขือเทศและน้ำมะนาวเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์
ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง
▼
ส่วนผสม ต้มยำปลาทู
- ปลาทู 2 ตัว
- ข่าอ่อน 5-6 ชิ้น
- ตะไคร้ 2 ต้นใหญ่
- หอมแดง 4 หัว
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกสด 1 ถ้วยเล็ก
- ใบกะเพรา 1 ถ้วย
🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก Youtube : TomJoke FoodTV
เมนูที่ 4 ต้มจืดตำลึงเต้าหู้ไข่
มีส่วนผสมของแครอท ½ ทัพพี และตำลึง 2 ทัพพี จะได้รับวิตามินเอ 42 เปอร์เซ็นต์
ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง
▼
ส่วนผสม ต้มจืดตำลึงเต้าหู้ไข่
- เต้าหู้ไข่ 2 หลอด
- ยอดอ่อนใบตำลึง 1 กำ
- เห็ดหอม 2 ดอก
- หมูสับ
- น้ำสต๊อก หรือ น้ำเปล่าใส่ซุปก้อน
- ซีอิ๊วขาว
- กระเทียมเจียว
🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก
- Facebook : ครัวพิศพิไล
- Youtube : ครัวพิศพิไล
เมนูที่ 5 ปลานึ่งขิง
หากใช้ปลาทับทิมเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินดี 20 เปอร์เซ็นต์
ดูสูตรเต็มๆ ที่ : สูตร ปลากระพงนึ่งซีอิ้ว พร้อมเทคนิคทำให้หอมอร่อย แบบน้ำมันน้อย
ส่วนผสม ปลากระพงนึ่งซีอิ้ว
- ปลากระพง 1 ตัว(800-1000 กรัม)
- ขิงแก่ 1 แง่ง
- ต้นหอม 5 ต้น
- ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
- พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด
- น้ำมันสำหรับผัด 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
เมนูที่ 6 ปลาผัดเปรี้ยวหวาน
มีส่วนผสมของมะเขือเทศ 1/2 ทัพพี และพริกหวาน 1 ลูก จะได้รับวิตามินซีเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง
▼
ส่วนผสม ปลาผัดเปรี้ยวหวาน
- ปลาทับทิม 1 ตัว ( 1,000 กรัม)
- แป้งสาลีอเนกประสงค์
- หอมใหญ่ 50 กรัม
- แตงกวา 70 กรัม
- พริกหวาน 3 สี 50 กรัม
- สับปะรด 70 กรัม
- ต้นหอม 20 กรัม
- ซอสผัดเปรี้ยวหวาน 170 กรัม
🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก
- FB : กินได้อร่อยด้วย
- Youtube : กินได้อร่อยด้วย
เมนูที่ 7 ผัดหอยลาย
มีส่วนผสมของเนื้อหอยลาย ได้รับธาตุเหล็ก 33 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน
ดูสูตรเต็มๆ ที่ : สูตรทำ หอยลายผัดน้ำพริกเผา อร่อยจัดจ้าน หมดจานไม่รู้ตัว
ส่วนผสม หอยลายผัดพริกเผา
- หอยลาย 1 กิโลกรัม
- กระเทียมสับหยาบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกเผา (เลือกยี่ห้อตามชอบ) 3 ช้อนโต๊ะ
- น้้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าน้ำพริกเผาหวานแล้วไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้)
- ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- พริกขี้หนู
- ใบโหระพา
🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก
ทั้งนี้ การปรุงประกอบอาหาร ควรเลือกวัตถุดิบที่สด สะอาด และปรุงอาหารให้สุกใหม่ทุกครั้ง ลดกินหวาน มัน เค็ม นอกจากนี้ ควรมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมเพื่อเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน เช่น ทำงานบ้าน เต้นแอโรบิกในบ้าน หรือมีกิจกรรมผ่อนคลายเพื่อลดภาวะเครียด เช่น การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนังออนไลน์ เล่นเกม รวมทั้งดื่มน้ำสะอาด 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง มีสุขภาพดีในระยะยาว...อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ที่มา : สสส. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (กรมอนามัย)