ทำความรู้จัก 9 น้ำตาลแต่ละชนิด น้ำตาลสำหรับทำอาหาร มีอะไรบ้าง?

ทำความรู้จัก 9 น้ำตาลแต่ละชนิด น้ำตาลสำหรับทำอาหาร มีอะไรบ้าง?
Maysylvie
26 พฤษภาคม 2565 ( 17:00 )
24.3K

       น้ำตาล ถือเป็นวัตถุดิบ ส่วนประกอบสำคัญของอาหารทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว หรืออาหารหวาน เป็นรสชาติตัวกลางที่คอยเชื่อมรสชาติ เผ็ด เค็ม เปรี้ยว ให้กลมกล่อม นอกจากนี้น้ำตาลยังเป็นส่วนประกอบหลักของการทำขนม ไม่ว่าจะเป็นขนมไทย หรือเบเกอรี่อีกด้วย เราเลยรวบรวม 9 ชนิดของน้ำตาล ว่ามีอะไรบ้าง แต่ละชนิดใช้ต่างกันอย่างไร มีรสชาติแบบไหน สายเข้าครัวต้องตามมาจดจ้า!

 

 

น้ำตาลแต่ละชนิด น้ำตาลทำอาหาร มีอะไรบ้าง

 

1. น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์  (Refined sugar)

 

      น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ เป็นน้ำตาลยอดนิยมของคนทั่วไป มีลักษณะเป็นเกล็ดใส สีขาว ปราศจากสีของกากน้ำตาล มีความชื้นน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย นิยมใช้ทั่วไปทั้งเมนูอาหารและขนม เพราะหาซื้อง่าย ละลายง่าย มีความหวานเด่นชัด และน้ำตาลชนิดนี้ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงกำลัง รวมไปถึงอุตสาหกรรมยาอีกด้วย เรียกว่าเป็นน้ำตาลที่ใช้ง่ายที่สุด

 

2. น้ำตาลทรายธรรมชาติ (Natural Sugar)

 

       น้ำตาลทรายธรรมชาติ เป็นน้ำตาลที่ได้จากอ้อย 100% มีลักษณะเม็ดไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่มีสีน้ำตาลอ่อน หรือเข้มตามแต่ละพื้นที่ เนื่องจากไม่ผ่านการขัดสีเป็นน้ำตาลอ้อยบริสุทธิ์ ความชื้นเล็กน้อย เกล็ดของน้ำตาลจับตัวกันไม่แน่น และมีรสชาติหวานละมุนกว่าน้ำตาลทรายขาว สามารถปรุงได้ทั้งของคาว ของหวาน รวมไปถึงเครื่องดื่มด้วย

 

 

3. น้ำตาลทรายแดง (Soft brown sugar)

 

      น้ำตาลทรายแดง เป็นน้ำตาลที่ได้จากน้ำอ้อยแบบเดียวกับน้ำตาลทรายธรรมชาติ รสชาติใกล้เคียงกัน แต่มีลักษณะเป็นผงละเอียด ละลายง่ายกว่าหากโดนน้ำหรือของเหลว มีความชื้นสูง จับตัวเป็นก้อนได้ง่าย มีกลิ่นชัดเจนกว่าน้ำตาลทรายธรรมชาติเล็กน้อย นิยมใช้ในอุตสาหกรรมผลิตซีอิ๊ว ผลิตน้ำตาลมะพร้าว รวมไปถึงผสมในอาหารและขนมหลากหลายชนิด เช่น เฉาก๊วย เต้าฮวย เป็นต้น

 

 

4. น้ำตาลกรวด (Crystalline sugar)

 

      น้ำตาลกรวด เป็นน้ำตาลที่ได้จากการนำน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์มาละลาย โดยผ่านกระบวนการตกผลึกอย่างช้าๆ ไม่มีการฟอกสี หรือได้จากน้ำเชื่อมของอ้อย มีลักษณะเป็นสีเหลี่ยมกลมๆ เรียวๆ คล้ายสารส้ม แต่มีรสหวานกลมกล่อม ไม่หวานโดดเท่าน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ นิยมนำมาใช้กับการทำอาหารที่ต้องพิถีพิถัน เช่น การเชื่อมผลไม้ การต้มยาจีน เป็นต้น

 

 

5. น้ำตาลไอซิ่ง  (Icing sugar)

 

      น้ำตาลไอซิ่ง มีลักษณะขาวและเป็นผงละเอียดคล้ายแป้ง ได้มาจากการบดน้ำตาลทรายขาวให้ละเอียด มีการเติมส่วนผสมของแป้งข้าวโพด หรือแป้งมันสำมะหลังเข้าไปในกระบวนการผลิตน้ำตาลไอซิ่ง เพื่อช่วยลดการจับตัวเป็นก้อน ละลายน้ำหรือของเหลวได้รวดเร็ว เพราะมีลักษณะบางเบา เหมาะสำหรับการทำขนมประเภทเบเกอรี่ หรือไว้สำหรับตกแต่งหน้าของขนม

 

 

6. น้ำตาลก้อน (Cube sugar)

 

       น้ำตาลก้อน ลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมสีขาว คนไทยมักไม่นิยมหรือไม่คุ้นชินกันมากนัก โดยน้ำตาลก้อน หรือน้ำตาลปอนด์ เกิดจากการอัดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นก้อนแข็งๆ แล้วอบด้วยความร้อนจากแสงอินฟาเรดเพื่อลดความชื้นในน้ำตาล เป็นน้ำตาลที่มีรสหวานโดดคล้ายน้ำตาลทรายขาว นิยมใช้กับเครื่องดื่มประเภทชาร้อน กาแฟร้อน เป็นต้น

 

 

7. น้ำตาลโตนด

 

        น้ำตาลโตนด มีสีออกน้ำตาลอ่อน เป็นน้ำตาลที่ได้มาจากน้ำหวานของช่อดอกต้นตาล เคี่ยวจนมีความงวด แล้วหยอดลงแม่พิมพ์ ให้มีลักษณะเป็นก้อนๆ เนื้อสัมผัสละเอียด และเมื่อโดนความร้อนก็จะคืนตัวกลับไปเหลวได้ง่าย มีเนื้อสัมผัสละเอียด แต่ถ้าโดนความร้อนก็จะคืนตัวกลับไปเหลวได้ง่ายเช่นกัน นิยมนำมาใช้กับขนมไทยน้ำกะทิ เช่น กล้วบวชชี หรืออาหารที่มีกะทิเป็นส่วนผสมหลักก็ได้เช่นกัน

 

 

8. น้ำตาลอ้อย

 

      น้ำตาลอ้อย มีลักษณะ และรสชาติไม่ต่างจากน้ำตาลโตนดมากนัก เกิดจากการนำลำอ้อยสดมารีดเอาน้ำออก แล้วจึงนำน้ำอ้อยนั้นไปเคี่ยวในกระทะใบบัวจนเหนียวได้ที่ เทลงพิมพ์ให้จับตัวเป็นก้อน มีความหวานน้อยกว่าน้ำตาลโตนดแต่หวานมากกว่าน้ำตาลมะพร้าว มีความหอมเฉพาะตัว จึงนิยมนำมาใช้เป็นอาหารประเภทเครื่องเทศที่ต้องใช้ความหอมชัดของรสชาติ แถมเต็มไปด้วยกากใยอาหารอีกด้วย

 

 

9. น้ำตาลมะพร้าว

 

     น้ำตาลมะพร้าว ปิดท้ายด้วยน้ำตาลมะพร้าว เป็นน้ำตาลสดที่รองมาจากงวงมะพร้าว หรือช่อดอกของต้นมะพร้าว แล้วนำมาเคี่ยวจนเดือด และเทใส่พิมพ์ให้จับตัวเป็นก้อนเช่นกัน มีสีน้ำตาลนวลๆ ไม่เข้มมาก มีรสชาติหวานอ่อนกว่าน้ำตาลทรายขาว จะมีความหวานละมุนๆ แต่มีกลิ่นหอมที่เด่นชัดกว่า นิยมนำมาทำขนมไทย อาหารไทย จะได้ทำให้รสชาติกลมกลืนและกลมกล่อมมากขึ้น

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ยอดนิยมในตอนนี้