น้ำมันมะกอก มีกี่ชนิด เอามาทำเมนูอะไรดี เลือกใช้ยังไงให้ได้ประโยชน์
น้ำมันมะกอกแบบไหน ใช้ทำอาหารเมนูอะไรดี ทุกคนคงรู้ดีว่าน้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาน แต่เชื่อเลยว่าหลายๆ คนคงต้องมีความงงเกิดขึ้นกันบ้าง กับการเลือกใช้น้ำมันมะกอกให้ถูกชนิด เพราะอย่างที่รู้กันว่าบางชนิดก็ต้องใส่สลัดเท่านั้น บางชนิดต้องเอามาผ่านความร้อนก่อน แล้วจะเอาน้ำมันมะกอกมาทำเมนูอะไรดีถึงจะอร่อยและได้ปนะโยชน์สูงสุด วันนี้ตามเรามาดูกันเลยค่ะ รับรองว่าเก็ท!!
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก
อย่างที่รู้กันดีว่าน้ำมันมะกอก เป็นอีกหนึ่งชนิดของน้ำมันที่ให้ประโยชน์มากกว่าโทษ เกิดจากการสกัดเอาน้ำมันจากลูกมะกอกนั่นเองค่ะ น้ำมันมะกอกสามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายทั้งเมนูผัด ทอด หรือทำน้ำสลัด น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันพืชที่ให้กรดไขมันดี (HDL) มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีวิตามินต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งเมนูผัด ทอด รวมไปถึงทำน้ำสลัด
- ช่วยลดระดับไขมันเลวในร่างกายลง
- ช่วยควบคุมคอเรสเตอรอล ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากระดับไขมันในเลือดสูง
- มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือกของผู้ป่วยเบาหวาน
- มีให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดน้ำหนักตัว
- ช่วยลดระดับความดันโลหิต (ในระดับที่ไม่รุนแรง)
- ในน้ำมันมะกอกมีสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
- มีส่วนช่วยในการบำบัดรักษาอาการท้องผูก ขับถ่ายลำบาก
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
- ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร โรคแผลในกระเพาะอาหารได้
- มีสารช่วยลดความเครียด ลดภาวะเสื่อมถอยของสมอง
- ช่วยบำรุงผิวและเส้นผม
น้ำมันมะกอกมีกี่แบบ เอามาทำอาหารเมนูอะไรดี ?
น้ำมันมะกอกที่วางขายตามท้องตลาด สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ ตามกระบวนการการสกัด ปริมาณกรดไขมัน และความบริสุทธิ์ของน้ำมันมะกอก
1. น้ำมันมะกอก ชนิด Extra-Virgin Olive Oil
Extra-Virgin Olive Oil เป็นน้ำมันมะกอกที่หาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ มีสีเขียวเข้ม กลิ่นมะกอกชัด น้ำมันมะกอกชนิดนี้เหมาะสำหรับการทำสลัด ทำซอส หรือเอามาใส่ในอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน สาเหตุที่ไม่ควรนำมาปรุงอาหารแบบผ่านความร้อนก็เพราะน้ำมันมะกอกชนิดนี้ผลิตโดยวิธีสกัดเย็น เพื่อให้วิตามินจากธรรมชาติ รสชาติ และกลิ่นหอมยังคงอยู่ มีราคาสูง ดังนั้นเมื่อนำน้ำมันมะกอกชนิด Extra-Virgin Olive Oil มาปรุงอาหารที่ผ่านความร้อน จะทำให้วิตามินต่างๆ ระเหยไป และสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไปนั่นเองค่ะ
- เมนูสลัด : เหมาะสม 💚🥗
- เมนูผัด : ไม่เหมาะ 💔🥘
- เมนูทอด : ไม่เหมาะ 💔🍗
2. น้ำมันมะกอก ชนิด Pure Olive Oil
Pure Olive Oil หรือ Olive Oil เป็นน้ำมันมะกอกผสม ที่เกิดจากการผสมกันของ Extra-Virgin Olive Oil กับ น้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีารกลั่นเพื่อเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไปแล้ว เป็นน้ำมันมะกอกชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินอี มีความสามารถในการทนความร้อนแบบเร็วๆ เช่น การนำมาทำเมนูผัดต่างๆ แต่น้ำมันมะกอกชนิดนี้ก็ไม่เหมาะที่จะนำมาทำเมนูทอดอยู่ดี เพราะคุณค่าทางโภชนาการบางอย่างอาจจะหายไปกับความร้อนได้ และกลายเป็นไขมันที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- เมนูสลัด : ไม่เหมาะสม 💔🥗
- เมนูผัด : เหมาะ 💚🥘
- เมนูทอด : ไม่เหมาะ 💔🍗
3. น้ำมันมะกอก ชนิด Light Olive Oil
น้ำมันมะกอกแบบ Light Olive Oil หรือ Extra Light Olive Oil หรือ Refined Olive Oil เป็นน้ำมันมะกอกชนิดที่สกัดออกมาด้วยกรรมวิธีทางเคมีผ่านความร้อน เพื่อให้ได้น้ำมันมะอกที่มีความใส ส่งผลให้ สีธรรมชาติ รสชาติ และกลิ่นหอม หายไปค่อนข้างมาก แต่ยังคงเป็นน้ำมันชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และสารอาหารอยู่บ้าง ทำให้น้ำมันมะกอกชนิดนี้มีราคาที่ไม่สูงมาก สามารถทนต่อความร้อนได้สูงและเป็นเวลานาน สามารถนำมาทำเมนูทอดและผัดได้ แต่ไม่ควรนำมาใส่สลัด หรือทานกับเมนูที่ไม่ผ่านความร้อน
- เมนูสลัด : ไม่เหมาะสม 💔🥗
- เมนูผัด : ใช้ได้ 💛🥘
- เมนูทอด : เหมาะ 💚🍗
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ทำความรู้จัก 10 น้ำมันทำอาหาร น้ำมันแต่ละชนิด ใช้ต่างกันอย่างไร ?
- แชร์เคล็ดลับ วิธีทำ น้ำมันหมู ให้ใส ไม่ขุ่น เก็บไว้ใช้ได้นานเป็นปี !
- 10 เรื่องต้องรู้ของคนชอบกินอะโวคาโด