9 ผักที่ควรกินสุก มากกว่ากินดิบ ได้สารอาหารเพิ่ม ประโยชน์เพียบ

ผักที่ควรกินสุก มีอะไรบ้าง หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า กินผักสดจะได้วิตามินมากกว่า วันนี้เราคัดมาให้แล้วกับ 9 ผักยอดนิยมที่ควรกินแบบปรุงสุก เพราะความจริงแล้วผักบางชนิด กินสุกจะดีกว่ากินดิบ เนื่องจากผักเมื่อผ่านความร้อนกลับปล่อย สารอาหารสำคัญ ออกมาได้มากขึ้น แถมยังลดสารที่อาจเป็นอันตรายกับร่างกายอีกด้วย สุขภาพดีเริ่มได้จากจานอาหาร ตามมาดูกันเลย ว่าจะมีผักชนิดไหนบ้าง
ผักที่ควรกินสุก มากกว่ากินดิบ
1. มะเขือเทศ
มะเขือเทศ : ไลโคปีนเพิ่มขึ้นเมื่อผ่านความร้อน
มะเขือเทศขึ้นชื่อเรื่อง ไลโคปีน (Lycopene) สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดและบำรุงผิวพรรณ แต่เจ้าไลโคปีนนี้จะถูกปล่อยออกมาและร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้นเมื่อผ่านความร้อน การนำมะเขือเทศไปผัดหรือทำเป็นซอสจึงเป็นวิธีที่ดีกว่าการกินสดๆ นั่นเอง
2. แครอท
แครอท : ดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ดีกว่าเมื่อปรุงสุก
แครอทอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ เมื่อเรานำแครอทไปต้มหรือผัด ผนังเซลล์ของแครอทจะอ่อนตัวลง ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ง่ายขึ้น
3. พริกหวาน
พริกหวาน : เพิ่มการดูดซึมแคโรทีนอยด์
พริกหวานมีสาร แคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยบำรุงผิวและสายตา การนำพริกหวานไปผัดหรืออบจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารเหล่านี้ได้มากขึ้น แถมยังทำให้รสชาติหวานอร่อยยิ่งขึ้นด้วย
4. ถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาว : ทำลายสารพิษที่ย่อยยาก
ถั่วฝักยาวดิบมีสารที่เรียกว่า เลคติน (Lectin) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อยหรือท้องเสียได้ แต่เมื่อนำไปต้มหรือผัด สารเลคตินจะถูกทำลายไป ทำให้ปลอดภัยและย่อยง่ายขึ้น
5. มันฝรั่ง
มันฝรั่ง : เพิ่มความปลอดภัยและย่อยง่าย
มันฝรั่งดิบมี โซลานีน (Solanine) ซึ่งเป็นสารพิษตามธรรมชาติ และมีปริมาณแป้งที่ย่อยยากมาก การนำไปต้ม อบ หรือทอดจึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อทำลายโซลานีนและทำให้แป้งอ่อนตัวลง ทำให้ร่างกายย่อยและดูดซึมได้ง่ายและปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น
6. หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่ง : ปลดปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระ
หน่อไม้ฝรั่ง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น วิตามิน A, C, E, กลูตาไธโอน (Glutathione) การปรุงให้สุก ด้วยการลวกหรือนึ่งเบาๆ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ได้ดีขึ้น
7. เห็ดต่างๆ
เห็ด : ลดสารไฮดราซีนและเพิ่มการดูดซึมโปรตีน
เห็ดบางชนิดมีสารที่เรียกว่า ไฮดราซีน (Hydrazine) ซึ่งอาจเป็นพิษเล็กน้อย แต่จะสลายไปเมื่อถูกความร้อน นอกจากนี้การปรุงสุกยังช่วยให้ผนังเซลล์ของเห็ดแตกตัว ทำให้ร่างกายย่อยและดูดซึม โปรตีนและแร่ธาตุ ได้ดีขึ้นมาก
8. ผักโขม
ผักโขม : ลดกรดออกซาลิกและเพิ่มการดูดซึมเหล็ก
ผักโขมมี กรดออกซาลิก ที่อาจขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็กในร่างกายได้ แต่เมื่อนำไปลวกหรือผัด กรดออกซาลิกจะลดลง ทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงได้เต็มที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามิน A และ E ได้ดีขึ้นอีกด้วย
9. กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลี : ย่อยง่ายขึ้นและลดแก๊สในกระเพาะ
กะหล่ำปลีดิบมีสารบางอย่างที่อาจทำให้เกิดแก๊สและท้องอืดได้ในบางคน การนำไปนึ่ง ผัด หรือต้มจะช่วยทำลายสารเหล่านี้ ทำให้ย่อยง่ายขึ้นและลดอาการไม่สบายท้อง แถมยังได้สารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามิน K ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
ใครที่กำลังมองหาแหล่งซื้อผักสด และวัตถุดิบในการทำอาหารต่างๆ สามารถไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้ที่ แม็คโคร Makro รับรองว่าได้วัตถุดิบครบจบตรงใจ ในที่เดียว พิเศษสำหรับลูกค้าทรู
คลิกแลกทรูพอยท์ เพื่อรับส่วนลดที่ แม็คโคร ได้ที่นี่
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ไขข้อข้องใจ เนื้อสัตว์ประเภทไหน กินดิบได้ กินดิบไม่ได้? สายเข้าครัวต้องจด!
- ให้โทษมากกว่าประโยชน์ เช็คชื่อ ผัก 12 ชนิดที่ไม่ควรกินดิบ เตือนแล้วนะ !
- 5 วิธี ล้างผัก ผลไม้ อย่างไร ให้สะอาด ปลอดภัยจาก Covid-19
- 8 ผักสดเก็บได้นาน พร้อมวิธีการเก็บผักสดให้ถูกต้อง ไม่เน่าไม่เสียเป็นอาทิตย์