กล้วยน้ำว้า ทำอะไรดี 9 สูตรขนม เมนูกล้วยน้ำว้า อร่อยง่ายแบบกล้วยๆ

กล้วยน้ำว้า ทำอะไรดี 9 สูตรขนม เมนูกล้วยน้ำว้า อร่อยง่ายแบบกล้วยๆ
nnanthisin
19 มิถุนายน 2568 ( 18:15 )
488

        กล้วยน้ำว้า ทำอะไรดี ผลไม้บ้านๆ ที่หาง่าย ราคาถูก แต่แฝงไปด้วยคุณประโยชน์และความหวานอร่อย วันนี้ขอพาทุกคนมาอร่อยกับ 9 สูตรขนม เมนูขนมกล้วยน้ำว้า ทำง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำตามได้ ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยดั้งเดิมอย่างกล้วยบวชชี ข้าวต้มมัด ไปจนถึงขนมหวานสมัยใหม่อย่างเค้กกล้วยหอมและวาฟเฟิลกล้วย แถมแต่ละสูตรยังเน้นวัตถุดิบง่าย ไม่ยุ่งยาก มือใหม่ก็ทำได้สบายๆ บอกเลยว่า อร่อยง่ายแบบกล้วยๆ ของจริง!

 

 

9 สูตรขนม เมนูกล้วยน้ำว้า

 

1. ขนมกล้วย

 

ส่วนผสม ขนมกล้วย

  • กล้วยน้ำว้าสุกงอม 5 ลูก (บดละเอียด)
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย (ปรับลดได้ตามความหวานของกล้วย)
  • เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  • มะพร้าวขูดขาว (ขูดเส้นยาว) ½ ถ้วย
  • มะพร้าวขูดสำหรับโรยหน้า ¼ ถ้วย
  • ใบตองหรือถ้วยตะไล สำหรับนึ่ง

 

 

วิธีทำ ขนมกล้วย

  1. บดกล้วยน้ำว้า ให้ละเอียด (ใช้ส้อมหรือเครื่องปั่นก็ได้)
  2. ใส่ น้ำตาล, เกลือ, แป้งข้าวเจ้า, แป้งมัน ลงในกล้วยที่บด คนให้เข้ากันจนเนียน
  3. เติมมะพร้าวขูด ลงไป คนให้กระจายทั่ว
  4. ตักใส่ถ้วยตะไลหรือห่อใบตอง โรยหน้าด้วย มะพร้าวขูด
  5. นึ่งในลังถึงที่น้ำเดือดจัด ประมาณ 25–30 นาที หรือจนขนมสุก (สังเกตว่าเนื้อใสและตึงขึ้น)
  6. พักให้เย็นเล็กน้อย แล้วนำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ

 

 

2. กล้วยบวชชี

 

ส่วนผสม กล้วยบวชชี

  • กล้วยน้ำว้าห่าม 6 ลูก (ปอกเปลือก หั่นท่อนขนาดพอดีคำ)
  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • หางกะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 2–3 ช้อนโต๊ะ (หรือผสมน้ำตาลทรายได้)
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • ใบเตย 2 ใบ (มัดเป็นปม)

 

วิธีทำ กล้วยบวชชี

  1. ต้มกล้วย ในน้ำเปล่าหรือต้มกับหางกะทิให้พอท่วม ใส่ใบเตยลงไป เคี่ยวด้วยไฟกลาง 10–15 นาที จนกล้วยนุ่ม (แต่ไม่เละ)
  2. เติม หัวกะทิ, น้ำตาลปี๊บ และเกลือ คนเบาๆ ให้ละลายดี
  3. เคี่ยวต่อ ด้วยไฟอ่อน อีกประมาณ 5–10 นาที จนรสเข้ากันดีและกะทิเริ่มข้นเล็กน้อย
  4. ปิดไฟ พักให้เย็นเล็กน้อย แล้วเสิร์ฟ ร้อนหรือเย็นก็อร่อย

 

 

3. กล้วยเชื่อม

 

ส่วนผสม กล้วยเชื่อม

  • กล้วยน้ำว้าห่าม 6 ลูก (ปอกเปลือก ผ่าครึ่งตามยาว หรือตัดครึ่ง)
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • ใบเตย 2 ใบ (มัดเป็นปม)
  • น้ำมะนาว เล็กน้อย (ช่วยให้สีสวย ไม่ดำ)

 

วิธีทำ กล้วยเชื่อม

  1. ใส่น้ำเปล่า น้ำตาล และใบเตย ลงหม้อ ตั้งไฟกลางจนเดือด และน้ำตาลละลายหมด
  2. ใส่กล้วยลงต้มในน้ำเชื่อม ด้วยไฟอ่อน ประมาณ 20–30 นาที (เคี่ยวจนกล้วยเปลี่ยนเป็น สีแดงทอง และดูเงา)
  3. หากต้องการสีเข้มขึ้น ให้เคี่ยวต่ออีกนิด และใส่น้ำมะนาวเล็กน้อยตอนท้าย
  4. ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น หรือเสิร์ฟอุ่นก็ได้

 

 

4. กล้วยทอด (กล้วยแขก)

 

ส่วนผสม กล้วยทอด

  • กล้วยน้ำว้าห่าม 6 ลูก (ผ่าครึ่งตามยาว หรือหั่นบางตามชอบ)
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ ½ ถ้วย
  • มะพร้าวขูดขาว ½ ถ้วย (ไม่ใส่ก็ได้ แต่ช่วยให้กรอบหอม)
  • น้ำตาลทราย 2–3 ช้อนโต๊ะ
  • งาขาว 1–2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  • น้ำปูนใส ½ ถ้วย (ช่วยให้แป้งกรอบ)
  • น้ำเปล่า ประมาณ ½ ถ้วย (หรือพอให้แป้งข้นพอชุบได้)
  • น้ำมันพืช สำหรับทอด

 

วิธีทำ กล้วยทอด กล้วยแขก

  1. เตรียมกล้วย : ปอกกล้วย แล้วผ่าครึ่งหรือหั่นบางตามชอบ พักไว้
  2. ทำแป้งชุบทอด : ผสมแป้งข้าวเจ้า + แป้งสาลี + น้ำตาล + เกลือ + งาขาว + มะพร้าวขูด คนให้เข้ากัน
    จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำปูนใสและน้ำเปล่า จนได้แป้งข้น (พอให้ชุบติดกล้วย)
  3. ชุบกล้วย : นำกล้วยลงชุบแป้งให้เคลือบทั่ว
  4. ทอด : ตั้งน้ำมันไฟกลางค่อนไปทางร้อน ใส่กล้วยลงทอดครั้งละไม่มากนัก พลิกกลับให้เหลืองกรอบทั่วกัน
    ใช้เวลาประมาณ 3–5 นาทีต่อชุด
  5. ตักขึ้น พักสะเด็ดน้ำมัน บนตะแกรงหรือกระดาษซับมัน

 

 

5. กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิ

 

ส่วนผสม กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิ

  • กล้วยน้ำว้าห่าม 6–8 ลูก (เลือกที่เปลือกเริ่มเหลือง เนื้อแน่น ไม่เละ)
  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มความหอมหวานกลมกล่อม)
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (ละลายน้ำเล็กน้อย สำหรับให้ข้น)
  • ใบเตย 1–2 ใบ (มัดเป็นปม)

 

วิธีทำ กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิ

  1. ปอกกล้วย แล้วบั้งเล็กน้อยบนผิวกล้วย (ให้ความร้อนเข้าเนื้อ) ปิ้งบนเตาถ่าน กระทะเทฟลอน หรือหม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้ไฟกลาง กลับทุกด้านจนผิวไหม้เกรียมเล็กน้อย และมีกลิ่นหอม (ประมาณ 10–15 นาที)
  2. ทำน้ำราดกะทิ ใส่หัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ ใบเตย ลงในหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนส่วนผสมละลายและมีกลิ่นหอม เติมแป้งข้าวเจ้าละลายน้ำ คนให้เข้ากันจนข้นเล็กน้อย ยกออกจากเตา พักให้อุ่น
  3. บีบหรือกดกล้วยที่ปิ้งแล้วให้แบนเล็กน้อย (จะดูดซึมน้ำราดดี) จัดใส่จาน แล้วราดด้วยน้ำกะทิร้อนๆ ถ้าชอบ หวานจัด สามารถราดน้ำตาลเคี่ยวเข้มข้นก่อนแล้วค่อยราดกะทิซ้ำอีกชั้นได้

 

 

6. เค้กกล้วยน้ำว้า

 

ส่วนผสม เค้กกล้วยน้ำว้า

  • กล้วยน้ำว้าสุกงอม 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 4–5 ลูก บดละเอียด)
  • แป้งเค้ก หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย (ร่อนแล้ว)
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 2)
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วย (หรือลดได้ตามความหวานของกล้วย)
  • น้ำมันพืช หรือเนยละลาย ½ ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา (ถ้ามี)
  • เกลือป่น ¼ ช้อนชา

 

วิธีทำ เค้กกล้วยน้ำว้า

 

  1. บดกล้วยน้ำว้า ให้ละเอียด พักไว้
  2. ตีไข่ น้ำตาล เกลือ วานิลลา ให้เข้ากันดี (ใช้ตะกร้อมือหรือเครื่องตี)
  3. เติมน้ำมัน แล้วตีให้เข้ากันอีกครั้ง
  4. ใส่กล้วยบดลงไป คนให้เข้ากัน
  5. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา ลงในชาม แล้วคนพอเข้ากัน (อย่าคนนาน เดี๋ยวเค้กเหนียว)
  6. เทใส่พิมพ์ที่ทาเนยหรือรองกระดาษไขไว้แล้ว(ใส่ถ้วยมัฟฟินก็ได้)
  7. นำเข้าอบที่ อุณหภูมิ 170°C (ไฟบน-ล่าง)
    ถ้าใช้พิมพ์ใหญ่ : อบประมาณ 30–40 นาที
    ถ้าใช้ถ้วยเล็ก : ประมาณ 20–25 นาที
  8. เช็กด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าไม่มีเศษแป้งติด แสดงว่าสุกแล้ว

 

 

7. กล้วยตาก

 

ส่วนผสม กล้วยตาก

  • กล้วยน้ำว้าห่าม 10–15 ลูก (เลือกที่เปลือกเริ่มเหลือง เนื้อแน่น ไม่เละ)

อุปกรณ์ที่ใช้

  • ตะแกรงตาก / กระด้ง / ถาดสแตนเลส
  • ผ้าขาวบางหรือมุ้งตาข่าย (กันแมลง)

 

วิธีทำ กล้วยตาก

 

วิธีที่ 1 : ตากแดดธรรมชาติ (กล้วยตากแบบดั้งเดิม)

  1. ปอกกล้วยน้ำว้า แล้ววางเรียงบนตะแกรงให้ห่างกันเล็กน้อย
  2. ตากแดดแรง (แดดกลางวัน) วันละ 6–8 ชั่วโมง ใช้เวลาตากประมาณ 3–5 วัน จนกล้วยหดตัว สีเข้มขึ้น และเหนียวนุ่ม กลับด้านกล้วยทุกวัน เพื่อให้แห้งสม่ำเสมอ (หากอยากให้กล้วยเงาและนุ่ม ให้ อบด้วยเตาอบไฟอ่อน 80–100°C อีก 1–2 ชั่วโมงหลังจากตากแดด)

วิธีที่ 2 : ทำกล้วยตากในเตาอบ (เหมาะกับไม่มีแดด)

  1. ปอกกล้วย แล้ววางเรียงบนตะแกรงในเตาอบ
  2. อบที่อุณหภูมิ 80–100°C เปิดพัดลม (ถ้ามี) ประมาณ 6–8 ชั่วโมง ควรเปิดฝาเตาเล็กน้อยให้ไอน้ำระบายออก พลิกด้านทุก 2–3 ชั่วโมง

 

 

8. ข้าวต้มมัด

 

ส่วนผสม ข้าวต้มมัด

  • ข้าวเหนียวขาว 2 ถ้วย (แช่น้ำอย่างน้อย 3–4 ชม. หรือข้ามคืน)
  • หัวกะทิ 1½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วย (หรือตามชอบ)
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • กล้วยน้ำว้าห่าม – สุก 6 ลูก (ปอกเปลือก ผ่าครึ่งตามยาว)
  • ถั่วดำต้มสุก ½ ถ้วย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

อุปกรณ์ที่ใช้

  • ใบตอง (ล้างสะอาด ตากแดด/ลนไฟให้นิ่ม)
  • เชือกกล้วย/ตอกไม้ไผ่ สำหรับมัด

 

วิธีทำ ข้าวต้มมัด

 

  1. เตรียมข้าวเหนียว ผสมน้ำตาล เกลือ และกะทิในหม้อ เคี่ยวพอร้อน (อย่าให้เดือดจัด)
  2. เทใส่ข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้ (สะเด็ดน้ำแล้ว) คลุกเคล้าให้ข้าวดูดน้ำกะทิ พักไว้ 30 นาที – 1 ชั่วโมงให้กะทิเข้าเนื้อ
  3. ตัดใบตองเป็นแผ่นขนาดพอเหมาะ (ประมาณ 8x10 นิ้ว) ซ้อน 2 ชั้น
  4. วางข้าวเหนียวลงตรงกลางใบตอง (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)
  5. วางกล้วย 1 ชิ้น และถั่วดำเล็กน้อย (ถ้าใช้) บนข้าว
  6. ปิดด้วยข้าวเหนียวอีกชั้นบางๆ ห่อเป็นทรงกระบอก หรือพับหัวท้ายแล้วมัดเป็นมัดคู่ด้วยเชือกกล้วย
  7. นำไปนึ่ง โดยวางข้าวต้มมัดเรียงในซึ้งรองด้วยใบตอง (กันติด) นึ่งด้วยไฟกลาง–แรง ประมาณ 45–60 นาที
  8. ยกลงพักให้คลายร้อน พร้อมเสิร์ฟ

 

 

9. วาฟเฟิลกล้วยน้ำว้า

 

ส่วนผสม วาฟเฟิลกล้วย

  • กล้วยน้ำว้าสุกงอมบดละเอียด 2 ลูก (ประมาณ ½ ถ้วย)
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • นมสดหรือนมอัลมอนด์ ½ ถ้วย
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา (เพิ่มความกรอบ)
  • น้ำมันพืช/น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายหรือน้ำผึ้ง 1–2 ช้อนโต๊ะ (หรือลด/งดตามชอบ)
  • เกลือเล็กน้อย
  • กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา (ถ้ามี)

 

วิธีทำ วาฟเฟิลกล้วย

  1. บดกล้วย ให้เนียนในชามผสม
  2. ตีไข่ แล้วผสมลงในกล้วย ใส่นม น้ำมัน วานิลลา น้ำตาล/น้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน
  3. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือเข้าด้วยกัน แล้วใส่ลงในส่วนผสมของเหลว คนเบาๆ พอให้เข้ากัน (อย่าคนนาน)
  4. ตั้งเครื่องวาฟเฟิลให้ร้อน ทาน้ำมันบางๆ
  5. ตักแป้งใส่พิมพ์ ปิดฝา อบประมาณ 3–5 นาที (หรือจนเหลืองกรอบ)
  6. เสิร์ฟพร้อมกล้วยหั่น น้ำผึ้ง นมข้น หรือโยเกิร์ตตามชอบ

 

 

ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า

  • ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย : กระตุ้นการทำงานของลำไส้ แก้อาการท้องผูกได้ดี โดยเฉพาะกล้วยสุกงอมจะมีฤทธิ์เหมือนยาระบายอ่อนๆ
  • บำรุงสมองและระบบประสาท : อุดมด้วย วิตามินบี 6 ช่วยสร้างสารสื่อประสาท ทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น และช่วยลดความเครียด
  • ให้พลังงานเร็ว ย่อยง่าย :  มีน้ำตาลธรรมชาติ (กลูโคส ฟรุกโตส ซูโครส) ให้พลังงานรวดเร็ว เหมาะกับการทานก่อนออกกำลังกายหรือมื้อว่าง
  • ลดกรดในกระเพาะ : กล้วยน้ำว้ามีฤทธิ์เป็นด่างเล็กน้อย ช่วยเคลือบกระเพาะ และบรรเทาอาการกรดไหลย้อน
  • ช่วยลดอาการหิวจุบจิบ : กล้วยมีใยอาหารและน้ำตาลธรรมชาติ ช่วยให้อิ่มนาน ลดการอยากของหวาน

 

     ใครที่กำลังมองหาแหล่งซื้อกล้วย และผลไม้อีกมากมายหลายชนิด พร้อมวัตถุดิบต่างๆ ในการทำเมนูอร่อย สามารถหาไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้ที่ แม็คโคร Makro รับรองว่าได้วัตถุดิบครบจบตรงใจ ในที่เดียว พิเศษสำหรับลูกค้าทรู 

ลิกแลกทรูพอยท์ เพื่อรับส่วนลดที่ แม็คโคร ได้ที่นี่

 

บทความที่คุณอาจสนใจ