12 ผักรสหวาน อร่อยทานง่าย กินได้ทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์คนไม่กินผัก

ผักอะไรที่ไม่ขม พืชผักรสหวาน มีอะไรบ้าง วันนี้เราขอพาสายกิน ที่ไม่ชอบทานผัก มาเช็กลิสต์ 12 ผักรสหวาน ยิ่งทำสุกก็ยิ่งหวานอร่อย ไม่ขม ไม่ฝาด ไม่เผ็ด ไม่เปรี้ยว แถมมีประโยชน์มาแบบแน่นๆ ไม่ว่าจะหามานทานเอง หรือหาเป็นอาหารสำหรับเด็กก็บอกเลยว่าตอบโจทย์ได้ทั้งหมด
ผักที่มีรสหวาน มีอะไรบ้าง
1. แครอท
แครอท เป็นผักรสหวานที่สามารถทานได้ทั้งแบบดิบและแบบปรุงสุก อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาและผิวพรรณ นอกจากนี้ยังมีเส้นใยอาหารที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
2. ฟักทอง
ฟักทอง อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และยังมีวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และเป็นพืชที่มีใยอาหารสูงทำให้อิ่มนาน ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย และมีความหวานจากธรรมชาติ และมีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
3. หัวหอมใหญ่
หอมหัวใหญ่ หรือ หอมใหญ่ เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ฟลาโวนอยด์ และ เควอซิติน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังมี พรีไบโอติก ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้และระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น เมื่อปรุงสุกแล้วหอมหัวใหญ่จะเป็นผักที่ให้รสหวานมากๆ นิยมนำมาใส่ในน้ำซุป เพราะจะช่วยให้น้ำซุปมีรสหวานกลมกล่อม
4. แตงกวา
แตงกวา เป็นพืชที่มีปริมาณน้ำสูง มีฤทธิ์เย็น จึงช่วยให้ร่างกายสดชื่น คลายความร้อนได้ดี นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินเคที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และมีใยอาหารที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และลดเลือนริ้วรอย มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำ
5. กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลี อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะ วิตามินซี และ วิตามินเค ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงกระดูก นอกจากนี้ยังมีใยอาหารสูงที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย และมีสาร กลูโคซิโนเลต ที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรง
6. ข้าวโพดหวาน
ข้าวโพดหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ กรดเฟรูลิก และ ลูทีน ซึ่งช่วยบำรุงสายตา และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังมีใยอาหารสูงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูก อีกทั้งให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนช่วยให้อิ่มท้องได้นาน ช่วยบำรุงสมอง ชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์
7. ถั่วลันเตาหวาน
ถั่วลันเตาหวาน หรือ ถั่วหวาน เป็นอีกหนึ่งผักที่อุดมไปด้วยโปรตีนและใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้อิ่มนาน และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย ทั้งยังมี วิตามินเค ที่จำเป็นต่อการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
8. มันฝรั่ง
มันฝรั่ง เป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และโพแทสเซียม ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ นอกจากนี้ยังมีใยอาหารสูงเมื่อกินทั้งเปลือก ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และรู้สึกอิ่มนาน อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง
9. มันเทศ
มันเทศ หรือ มันหวาน คือพืชที่จัดเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีจากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีใยอาหารสูงช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและดีต่อระบบขับถ่าย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน และ วิตามินซี ที่ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เมื่อปรุงสุกจะมีรสหวานสามารถนำมาทานเล่นได้เลย
10. ถั่วแขก
ถั่วแขก เป็นผักที่มีใยอาหารสูงมาก ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้อิ่มได้นาน ทั้งยังมีวิตามินซีและวิตามินเคที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ป้องกันโรคกระดูกพรุน รวมถึงมีโปรตีนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย
11. หัวไชเท้า
หัวไชเท้า มีเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับกระหายและขับสารพิษออกจากร่างกาย และยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และมี เอ็นไซม์ไดแอสเตส ที่ช่วยย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตได้ดี รวมถึงช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เมื่อนำมาทำให้สุกจะมีรสชาติหวาน เป็นอีกหนึ่งผักที่นิยมนำมาต้มเป็นเบสท์น้ำซุป
12. พริกหวาน
พริกหวาน อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง ลูทีน และ ซีแซนทีน ที่ช่วยบำรุงสายตาให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจก และโรคจอประสาทตาเสื่อม รวมถึงมีใยอาหารที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ช่วยลด
ใครที่กำลังมองหาแหล่งซื้อผักสด และวัตถุดิบในการทำอาหารต่างๆ สามารถไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้ที่ แม็คโคร Makro รับรองว่าได้วัตถุดิบครบจบตรงใจ ในที่เดียว พิเศษสำหรับลูกค้าทรู
คลิกแลกทรูพอยท์ รับส่วนลด แม็คโคร ได้ที่นี่
ผักแต่ละชนิดมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป การเลือกรับประทานผักอย่างหลากหลายจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการดูแลสุขภาพ เพราะนอกจากจะช่วยให้มื้ออาหารมีสีสันแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย และป้องกันโรคได้อีกด้วย สำหรับใครที่ไม่ชอบทานผัก อาจจะเริ่มจากการทานผักรสหวาน หรือผักที่ไม่มีรสขม รับรองว่าจะติดใจการกินผักได้อย่างแน่นอน
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ให้โทษมากกว่าประโยชน์ เช็คชื่อ ผัก 12 ชนิดที่ไม่ควรกินดิบ เตือนแล้วนะ !
- 5 วิธี ล้างผัก ผลไม้ อย่างไร ให้สะอาด ปลอดภัยจากสารตกค้าง และเชื้อโรค
- 9 ผักที่ควรกินสุก มากกว่ากินดิบ ได้สารอาหารเพิ่ม ประโยชน์เพียบ