วิธีเลือกซื้อ สับปะรด ให้ได้คุณภาพ หวานฉ่ำ พร้อมวิธีเก็บรักษา
Maysylvie
20 กุมภาพันธ์ 2566 ( 14:30 )
15.7K
สับปะรด ผลไม้รสหวานฉ่ำที่คนไทยหลายคนชื่นชอบ เราเลยจะมาบอกต่อ วิธีเลือกซื้อ สับปะรด ให้ได้คุณภาพ หวานฉ่ำ พร้อมวิธีเก็บรักษาสับปะรดให้อยู่ได้นาน ไม่เน่า ไม่ช้ำ คงความหวานอร่อยไว้ได้ บอกเลยว่าเป็นผลไม้ที่เหมาะแก่การกินในหน้าร้อนสุดๆ ยิ่งแช่เย็นยิ่งฟิน ตามมาจดวิธีการเลือกซื้อสับปะรดด้วย 3 เทคนิคง่ายๆ รับรองว่าจะได้สับปะรดคุณภาพดีกลับบ้านทุกลูกแน่นอน
วิธีเลือกซื้อ สับปะรด
1. จากการสัมผัส
- เมื่อเราลองเอามือบีบสับปปะรด สับปะรดที่ดีจะมีเนื้อแน่น แต่ก็นุ่มพอที่จะกดลงไปได้นิดหน่อย แต่ไม่นุ่มจนกดแล้วบุ๋มลงไป
- เมื่อยกขึ้นแล้วมีน้ำหนัก แปลว่าสับปะรดมีน้ำเยอะ ฉ่ำ ไม่จำเป็นต้องลูกใหญ่ ขอให้มีน้ำหนักก็ถือว่าเป็นสับปะรดที่มีคุณภาพแล้ว
- เมื่อลองเด็ดใบด้านบนสับปะรด ถ้าสับปะรดสุกพร้อมทาน จะสามารถเด็ดใบออกมาได้โดยไม่ต้องออกแรง แต่ในขณะเดียวกันถ้าใบหลุดออกมาง่ายเกินไป แสดงว่าสับปะรดลูกนั้นเน่าแล้วนั่นเอง
- ใช้วิธีการดีด ถ้าดีดแล้วเสียงดังแปะๆ เหมือนดีดของนิ่ม แสดงว่าเนื้อจะฉ่ำ น้ำเยอะ และหวานอร่อย
2. จากการดม
- สับปะรดที่สุกพร้อมทานจะมีกลิ่นหอมหวาน แต่ถ้าไม่มีกลิ่นอะไรเลย แสดงว่ามันยังไม่สุก
- สับปะรดที่ดี ไม่ควรมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเหมือนของหมัก ถ้าเจอสับปะรดที่มีกลิ่นแบบนี้ แปลว่าสับปะรดลูกนั้นเน่าแล้ว
3. จากการมองดูภายนอก
- สังเกตขั้วของสับปะรด และใบของหัวด้านบนสับปะรด ไม่ควรเหี่ยว หรือออกสีน้ำตาลเข้ม ควรมีใบสีเขียว
- สับปะรดที่ไม่ดี คือสับปะรดที่มีผิวเหี่ยวย่น มีสีน้ำตาลแดง มีรอยแตกหรือรอยรั่ว ขึ้นรา หรือมีใบเหี่ยวเป็นสีน้ำตาลนั่นเอง
- ผิวด้านนอกของสับปะรดควรมีตากว้างและแบน ขนาดเท่าๆ กัน
วิธีเก็บรักษา สับปะรด
1. สับปะรดที่ยังไม่ปลอกเปลือก สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องไม่เกิน 3 วัน
2. สับปะรดที่ยังไม่ปลอกเปลือก หากแช่ตู้เย็น จะเก็บได้นานถึง 2 อาทิตย์
3. เมื่อหั่นสับปะรดออกมาเป็นชิ้นๆ แล้ว ไม่ควรวางไว้ในอุณภูมิห้อง หากนำแช่ตู้เย็น เก็บได้นานสุด 1 อาทิตย์
4. หากนำสับปะรดที่หั่นเป็นชิ้น นำแช่ช่องแข็ง สามารถเก็บได้นานถึง 6 เดือน