กินไรดี ที่ อาโอโมริ 5 ของกินท้องถิ่น อยากกินต้องไปให้ถึง

กินไรดี ที่ อาโอโมริ 5 ของกินท้องถิ่น อยากกินต้องไปให้ถึง
Muzika
13 กันยายน 2562 ( 19:00 )
2.2K

     อาโอโมริ เป็นอีกจังหวัดของญี่ปุ่นที่อากาศหนาวมากกกก เพราะตั้งอยู่บนสุดของเกาะฮอนชูเลย (ข้ามไปอีกฝั่งก็เป็นฮอกไกโดแล้ว) แถมพระอาทิตย์ยังตกเร็วกว่าที่อื่นด้วย ยิ่งทวีความเย็นให้มาเร็วกว่าเดิมอีก แต่สิ่งที่ช่วยให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เขามีแรงใจที่จะสู้ต่อ ก็คือ "อาหาร" นั่นเองครับ คนที่นี่เขาคิดค้นเมนูที่ช่วยให้ความอบอุ่นกับทั้งร่างกาย และจิตใจ จนมีเรี่ยวมีแรงออกไปทำงานในวันหนาวๆ ได้ครับ

 

 

     อาหารท้องถิ่นของจังหวัดอาโอโมริ มีดังต่อไปนี้

 

 

1. ราเมงมิโสะนมสด (Miso Curry Milk Ramen)

 

 

     ด้วยความที่อาโอโมรินั้นอยู่ใกล้กับฮอกไกโดมาก เลยไม่แปลกที่อาหารบางอย่างจะได้รับอิทธิพลมา รวมถึงเมนูราเมงมิโสะนมสดนี่ด้วย แม้จะมีความคล้ายกับมิโสะราเมงสูตรของฮอกไกโดมาก แต่ด้วยความที่ใช้นมสด และเนยสดโปะหน้า ยิ่งเป็นการชูรสชาติแบบ "อูมามิ" ขึ้นไปอีกขั้น เพิ่มความเข้มข้นหอมหวลของน้ำซุปมิโสะได้เป็นอย่างดี เป็นของกินที่ให้ความอบอุ่นได้ในช่วงฤดูหนาว เมนูนี้มีตามร้านราเมงทั่วไปในอาโอโมริเลยครับ ไปถึงแล้วอย่าลิมสั่งล่ะ

 

 

2. แอปเปิ้ลอาโอโมริ

 

 

     ของขึ้นชื่อประจำจังหวัดที่ส่งขายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น แอปเปิ้ลกว่าครึ่งประเทศถูกส่งออกมาจากจังหวัดนี้โดยเฉพาะ ถึงขนาดมีคำกล่าวว่าถ้าได้กินแอปเปิ้ลฟูจิที่มีความหวานกรอบ ให้เดาได้เลยว่ามาจากอาโอโมริเป็นแน่แท้ โดยมีศูนย์กลางการผลิตอยู่ในเมืองฮิโรซากินั่นเอง

 

     นอกเหนือจากแอปเปิ้ลแล้ว ตามร้านขายของฝากต่างๆ เราจะพบของกินที่มีส่วนประกอบเป็นแอปเปิ้ลอยู่มากมาย ตั้งแต่เค้กแอปเปิ้ล น้ำแอปเปิ้ล แกงกะหรี่แอปเปิ้ล ฯลฯ ถ้าไปซื้อเฉยๆ ยังไม่เร้าใจพอ ที่นี่มีทัวร์เก็บแอปเปิ้ลให้เราเข้าไปเด็ดสดๆ จากต้น แถมยังมีพายแอปเปิ้ลอบใหม่ๆ และน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์สดให้ลอง และไม่ไกลจากเมืองฮิโรซากินัก นั่งรถประมาณ 30 นาทีไปที่เมืองฮิราคาวะ จะมีบ่อน้ำร้อน "ออนเซ็นแอปเปิ้ล" ให้แช่ด้วย ฟินสุดแน่นอน

 

 

3. บาระยากิ (Barayaki)

 

 

     เนื้อย่างขึ้นชื่อประจำเมืองโทวาดะ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองอาโอโมริ 1 ชั่วโมง ไกลหน่อยแต่ก็คุ้มค่าที่จะไปนะครับ เพราะบาระยากินี่แหละ เป็นการนำเอาเนื้อวัวส่วนซี่โครงสไลด์ ผัดกับหัวหอม แม้ส่วนผสมจะดูธรรมดาแต่กลับให้ผลลัพธ์ที่เกินจะทานทนได้ แค่กลิ่นหอมๆ ที่โชยออกมาตอนผัดก็ยั่วน้ำลายแล้ว โดยเขาจะมีซอสผัดสำหรับเมนูนี้โดยเฉพาะที่เรียกว่า "ทาเระ" ครับ ใครอยากลิ้มลองต้องไปที่โทวาดะเท่านั้น

 

 

4. เซนเบ้ จิรุ (Senbei-jiru)

 

 

     เมนูต่อมาส่งประกวดโดยเมืองฮะจิโนะเฮะ (Hachinohe) เป็นอาหารท้องถิ่นที่ได้รับการแนะนำจากชาวอาโอโมริมากที่สุด ว่าถ้าได้มาแล้วจะต้องไปกินอาหารจานนี้ที่เมืองฮะจิโนะเฮะให้ได้ เดินทางจากตัวเมืองอาโอโมริไปประมาณ 2 ชั่วโมง และแน่นอนฤดูที่เหมาะจะรับประทานเซนเบ้ จิรุ มากที่สุดก็คือช่วงหน้าหนาวนี่แหละครับ

 

     เซนเบ้ จิรุ เป็นการนำเซนเบ้ หรือก็คือแครกเกอร์ข้าวหลากหลายรส ทั้งกุ้ง ปู ถั่ว ฯลฯ ไปใส่ลงในน้ำซุปใส ซึ่งมีให้เลือกหลายประเภท เช่น ซุปต้นหอม ซุปโชยุ ซุปปลา ฯลฯ สูตรน้ำซุปนี้ก็จะมีหลายแบบหลายสไตล์ แล้วแต่ร้านเขาจะทำมาแบบไหน เพราะเมนูนี้เขากินกันมาตั้งแต่ยุคเอโดะแล้ว จะมีหลายแบบก็ไม่แปลก แล้วเวลาที่เจ้าเซนเบ้มันดูดซับน้ำซุปเข้าไปจนพองยุ่ยแล้ว จะเป็นการเพิ่มทั้งรสชาติ และความร้อนให้กับทุกชิ้น เหมาะจะกินคลายหนาวจริงๆ

 

 

5. บานิกุ (Baniku)

 

 

     ถัดมาจากเมืองฮะจิโนะเฮะ ประมาณ 20 นาที จะถึงเมือง โกะโนะเฮะ (Gonohe) เมืองทำฟาร์มเล็กๆ ที่มีการเลี้ยงม้ากันมากว่า 200 ปีแล้ว สำหรับส่งให้เหล่าซามูไรได้ใช้กัน จวบจนถึงปัจจุบันนี้ จึงถูกเลี้ยงให้กลายเป็นอาหารนั่นเอง (จริงๆ ก็กินกันตั้งแต่สมัยก่อนแล้วแหละ)

 

     รสชาติขอเนื้อม้าที่นี่ ว่ากันว่ามีความหวานเล็กน้อย และมีรสสัมผัสคล้ายเนื้อวัวผสมเนื้อกวาง ซึ่งสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบ หรือที่เรียกว่า บาซาชิ (Basashi) และแบบหม้อไฟ ซึ่งหาได้ทั่วไปในอาโอโมริเลย

===============

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิพิเศษแนะนำ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิพิเศษแนะนำ

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี