12 ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว สรรพคุณไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย !

12 ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว สรรพคุณไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย !
Maysylvie
19 มกราคม 2566 ( 14:00 )
41K

        เรียกว่าเป็นผักที่คนไทยหลายคนชื่นชอบกับ กระเจี๊ยบเขียว เราเลยจะมาบอกถึง 12 ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่มีประโยชน์และสรรพคุณมากมายที่ดีต่อร่างกาย และเพราะสรรพคุณเจ๋งๆ ของกระเจี๊ยบเขียวนี่แหละ ที่ทำให้ใครต่อใครก็หามาทานกันมากมาย จะมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง มาดูกันเลย

 

 

ประโยชน์ สรรพคุณ ของ กระเจี๊ยบเขียว

คุณค่าทางโภชนาการ กระเจี๊ยบเขียว

100 กรัม (เฉพาะฝัก)

  • พลังงาน 26 กิโลแคลอรี
  • น้ำ 90.8 กรัม
  • โปรตีน 1.5 กรัม
  • ไขมัน 0.2 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 4.5 กรัม
  • ไฟเบอร์ 4.2 กรัม
  • แคลเซียม 11 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 2 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม
  • เบต้าเคโรทีน 335 ไมโครกรัม
  • วิตามินเอ 56 ไมโครกรัม
  • วิตามินอี 0.55 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 14 มิลลิกรัม

 

 

ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว

1. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และคนที่กำลังควบคุมน้ำตาล-น้ำหนัก

2. ลดอาการท้องผูก เพราะมีเมือกที่ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวขึ้น และยังมีใยอาหารที่ดีต่อการขับถ่าย

3. ลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย

4. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระเพาะอาหาร เยื่อบุกระเพาะอาหารอักเสบ และลำอักเสบได้

5. ใครที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้ว การทานกระเจี๊ยบเขียวพร้อมเมือกเหนียวๆ ใสๆ จะช่วยเข้าไปเคลือบแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

6. ฝักกระเจี๊ยบต้มเกลืออ่อนๆ สามารถแก้อาการกรดไหลย้อนได้

 

 

7. มีโฟเลตสูง ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง และเป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นจึงเหมาะกับหญิงมีครรภ์

8. บำรุงรักษาทางเดินปัสสาวะและโรคเกี่ยวกับเพศ

9. รักษาโรคพยาธิตัวจี๊ด เมื่อรับประทานติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์

10. เพิ่มจำนวนแบคทีเรียมีประโยชน์ (พรีไบโอติก) เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งช่วยลดแบคทีเรียชนิดไม่ดีในลำไส้ได้

11. เป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (กลูต้าไธโอน) มีส่วนช่วยในการต้านมะเร็ง

12. มีสารเพคตินมาก มีส่วนช่วยในการสมานผลภายในของสตรีหลังการคลอดบุตร

 

 

วิธีรับประทาน กระเจี๊ยบเขียว

      สามารถหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ทานสดได้เลย หรือจะนำไปประกอบอาหารกับเมนูอื่นๆ เช่น การนำไปย่างด้วยไฟอ่อน หรือจะทานผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมะนาว หรือไอศกรีมก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ให้นำกระเจี๊ยบเขียวมาหั่น ตากแดด พอแห้งแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นตักผงกระเจี๊ยบเขียว 1 ช้อนโต๊ะ มาละลายในน้ำต้มสุก นม น้ำผลไม้ หรืออาหารอ่อนๆ กินวันละ 3-4 ครั้งหลังอาหาร จะทำให้ได้รับสารอาหาร และประโยชน์อย่างครบถ้วน

 

 

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : ศูนย์สารนิเทศทางอาหาร , Assumtion College

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

ยอดนิยมในตอนนี้