7 วิธีดับกลิ่นคาวเนื้อหมู เครื่องในหมู วิธีทำความสะอาดเนื้อหมู พร้อมวิธีปรุงเนื้อหมูอย่างไร ให้อร่อย
จากรายการ MasterChef Thailand season 4 ออนแอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยการใช้วัตถุดิบเนื้อหมูและเครื่องในหมู เราเลยจะมาแชร์เทคนิค 7 วิธีดับกลิ่นคาวเนื้อหมู วิธีดับกลิ่นเครื่องในหมู วิธีทำความสะอาดเนื้อหมู พร้อมวิธีปรุงเนื้อหมูอย่างไร ให้อร่อย เรียกว่าเป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่ใครก็ชื่นชอบ นำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย จึงไม่แปลกที่เนื้อหมูจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก แต่ปัญหาก็คือ เนื้อหมู และโดยเฉพาะเครื่องในหมู มักจะมีกลิ่นแรง กลิ่นเฉพาะตัว ที่แม้จะนำไปปรุงสุก ก็ไม่สามารถดับกลิ่นได้ เราเลยจะมาแชร์ 7 วิธีดับกลิ่นคาว รวมไปถึง บอกเคล็ดลับการใช้เนื้อหมูแต่ละส่วนในการประกอบอาหารให้อร่อย บอกเลยว่าทั้งหมดที่เรานำมาฝากครั้งนี้ จะทำให้ทุกคนรู้จักเนื้อหมูได้ดีขึ้นแน่นอน จะมีเกร็ดน่ารู้อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
วิธีดับกลิ่นคาวหมู เครื่องในหมู ทำความสะอาดเนื้อหมู
รู้จักแต่ละส่วนของเนื้อหมู
1. ใช้น้ำสมสายชูและแป้งมัน
วิธีทำ : นำเนื้อหมูหรือเครื่องใน ล้างด้วยน้ำสะอาด 1 ครั้ง จากนั้นนำไปแช่ด้วยน้ำส้มสายชู ผสมแป้งมันเล็กน้อย ค่อยๆ ล้างทำความสะอาดอย่างน้อย 2-3 นาที จากนั้นนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
2. ใช้เหล้าขาว (เหล้า 28 ดีกรี)
วิธีทำ : นำเนื้อหมูหรือเครื่องใน มาคลุกเคล้าด้วยเหล้าขาว โดยทำการล้างทีละชิ้น หรือทีละน้อย ให้เหล้าขาวได้ซึมทั่วทั้งชิ้น ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนหมด จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นอันเสร็จ
3. เกลือป่น
วิธีทำ : นำเนื้อหมูหรือเครื่องในไปล้างน้ำสะอาด 1-2 รอบ จากนั้นนำเกลือป่นลงไปขยำกับเนื้อหมู หรือเครื่องใน โดยใช้เวลาขยำประมาณ 30-45 วินาที จากนั้นนำไปล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ไม่ควรแช่ทิ้งไว้ เพราะจะทำให้เนื้อหมูเสียรสชาติ
4. น้ำซาวข้าว
วิธีทำ : นำเนื้อหมูหรือเครื่องใน ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้นนำไปแช่ในน้ำซาวข้าวหรือเป็นน้ำศาวข้าวเหนียวก็ได้เช่นกัน แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ไม่ควรนานกว่านั้น เพราะจะทำให้เนื้อหมูเสียรสชาติ จากนั้นนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
5. แอปเปิ้ล
วิธีทำ : นำเนื้อหมูหรือเครื่องใน ล้างด้วยน้ำสะอาด 1-2 รอบ จากนั้นนำแอปเปิ้ลมาสไลด์บาง วางไว้บนเนื้อหมูให้ทั่ว ทิ้งไว้ 10-15 นาที หรือจะนำแอปเปิ้ลไปผัดกับเนื้อหมูก็สามารถดับกลิ่นคาวได้เช่นกัน แถมไม่ทำให้เนื้อหมูเสียรสชาติอีกด้วย
6. มะกรูด
วิธีทำ : นำเนื้อหมูหรือเครื่องในล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นนำมะกรูดมาผ่าครึ่ง นำมาล้างที่ตัวเนื้อหมูหรือเครื่องในหมู โดยใช้วิธีถูที่ตัวเนื้อหมูจนทั่ว เสร็จแล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง โดยปริมาณที่ใช้คือ มะกรูด 5-10 ลูกต่อเนื้อหมู 1 กิโลกรัม
7. สมุนไพรไทย (ขิง กระเทียม อบเชย พริกไทย)
วิธีทำ : นำเนื้อหมูหรือเครื่องใน ล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นนำสมุนไพรไทยต่างๆ เช่น ขิง ข่า กระเทียม อบเชย พริกไทย มาบดให้ละเอียด จากนั้นนำไปหมักบนเนื้อหมูหรือเครื่องในหมู ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก็จะทำให้เนื้อหมูไม่มีกลิ่นคาว แถมได้ความหอมของสมุนไพรไทยอีกด้วย
วิธีปรุงเนื้อหมูอย่างไรให้อร่อย
1. ใช้แต่ละส่วนได้อย่างถูกต้อง
เป็นที่รู้กันว่าเนื้อหมูนั้นสามารถใช้ปรุงอาหารได้เกือบทุกส่วน เราเลยจะมาจำแนกแต่ละส่วนของเนื้อหมูอย่างคร่าวๆ ว่าส่วนนี้มีลักษณะแบบไหน และควรนำไปปรุงแบบใด เพื่อให้ได้รับรสชาติเนื้อหมูได้อย่างเต็มที่
- หมูสันใน เป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุดและนิ่มที่สุด ไม่เหนียว เป็นส่วนที่ทำอาหารได้แทบทุกประเภท แต่ไม่ควรผ่านความร้อนมากเพราะจะทำให้เนื้อยุ่ยหรือเละได้
- หมูสันนอก มีลักษณะไม่นุ่มหรือเหนียวจนเกินไป สามารถทำอาหารให้ได้แทบทุกประเภทเช่นกัน แต่ข้อแนะนำคือควรหมักก่อนปรุงเพื่อให้หมูนุ่มและมีรสชาติมากขึ้น
- หมูสามชั้น เป็นส่วนที่หลายคนชื่นชอบที่สุด เพราะเนื้อนุ่ม แทรกมันให้ชุ่มลิ้น ส่วนนี้สามารถปรุงได้แทบทุกอย่าง เพราะตัวเนื้อมีรสชาติและนุ่มในตัวอยู่แล้ว แต่ข้อเสียคือค่อนข้างมันเยอะ และทำให้เลี่ยนได้
- หมูสันคอ เป็นส่วนที่มีมันแทรกเยอะและละเอียดมาก เนื้อหมูจะมีความนุ่มแต่ยังเด้งสู้ฟัน สามารถนำมาทำได้หลากหลาย ทั้งย่าง ผัด ทอด เป็นส่วนที่จะหมักหรือไม่หมักก่อนปรุงก็ได้ เพราะมีรสชาติในตัวอยู่แล้ว
- หมูสะโพก เป็นส่วนที่เหนียวที่สุด เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก เพราะไม่มีไขมันปนอยู่เลย ส่วนใหญ่นิยมนำมาต้ม หรือตุ๋น เพื่อให้เนื้อมีความนุ่มให้ได้มากที่สุด และเนื้อส่วนนี้นิยมนำไปแปรรูปเป็นลูกชิ้น ไส้กรอก อีกด้วย หากจะนำมาปรุงสุก แนะนำให้หมักด้วยเครื่องปรุงที่ช่วยทำให้เนื้อหมูนุ่มก่อน
- เครื่องในหมู เป็นที่รู้กันว่าเครื่องในหมูแทบจะกินได้ทุกส่วน ส่วนใหญ่นิยมนำมาผัด ต้ม ให้ผ่านความร้อนจนสุกดี เพื่อให้กลิ่นคาวให้ไปจนหมด ไม่นิยมนำไปย่าง หรือต้มภายในเวลาอันสั้น เพราะจะมีความเหนียว และมีกลิ่นสาป ส่วนใหญ่เครื่องในหมูต้องล้างให้สะอาด ดับกลิ่นคาวด้วยเครื่องสมุนไพรปริมาณมาก ก่อนจะนำมาปรุงสุกและรับประทานได้
2. การหมักเนื้อหมู
แน่นอนว่าเนื้อหมูถือเป็นวัตถุดิบเบสิกที่รับประทานง่าย แต่มีข้อควรระวังค่อนข้างเยอะ เพราะหากปรุงสุกไปก็จะทำให้หมูเหนียว ปรุงดิบไปก็รับประทานไม่ได้ รวมไปถึงเนื้อหมูบางส่วนก็เหนียวและไม่นุ่ม เพราะมันแทรกน้อย เพราะฉะนั้นเราควรเริ่มจากการหมักเนื้อหมูให้ถูกวิธีก่อนนำไปปรุงป่านความร้อน โดยใช้วัตถุดิบที่ช่วยให้เนื้อหมูนุ่มได้ง่ายๆ คือ
- น้ำสับปะรด
- โซดา
- น้ำอัดลม
- น้ำมันงา
- ซอสหอยนางรม
- แป้งมันสำปะหลัง หรือแป้งข้าวโพด
- เบกกิ้งโซดา หรือผงฟู
- น้ำตาลทราย
- นมสด
- กะทิ
- ไข่ขาว หรือไข่ไก่
- หอมใหญ่
3. เทคนิคการหมักเนื้อหมูให้อร่อย
- การหั่นเนื้อหมู ควรหั่นตามแนวขวางของเส้น ไม่หั่นตามแนวยาว และควรแล่ความหนาไม่เกิน 1-2 เซนติเมตรต่อชิ้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้หมูหนาเกินไป สุกยากและเคี้ยวยาก
- หมักเนื้อหมูทิ้งไว้ในตู้เย็น จะทำให้เนื้อหมูและซอสซึมเข้าเนื้อได้ดีกว่า หรือถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ควรนำไปแช่ในถังน้ำแข็ง เพราะความเย็นจะทั่วถึงและซึมเข้าเนื้อได้ดีกว่า และควรหมักอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
- ก่อนหมักควรจิ้มเนื้อหมูให้เป็นรูด้วยส้อม หรือไม้จิ้มฟัน เพราะเนื้อหมูมีมวลกล้ามเนื้อค่อนข้างหนา สิ่งนี้จะทำให้ซอสที่หมักซึมเข้าเนื้อหมูได้ดียิ่งขึ้น
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เคล็ดลับ การเลือกซื้อเนื้อหมู และการเก็บรักษาเนื้อหมูให้ถูกวิธี!
- ทำความรู้จัก เนื้อหมูส่วนต่างๆ เนื้อหมูส่วนไหน เอาไปทำเมนูอะไรอร่อย 🐖
- รู้จัก หมูชีวา เนื้อหมูออร์แกนิค มีโอเมก้า 3 เนื้อนุ่มพิเศษ ดีต่อใจสายรักสุขภาพ!
---------------------------
อัพเดทคาเฟ่สุดชิล รีวิวร้านอร่อยร้านดัง แจกสูตรอาหารเด็ดๆ
มาพูดคุยแชร์รูปยั่วน้ำลาย ให้สายกินต้องอิจฉา
ที่แอปทรูไอดี คลิกเลย > TrueID Food Community <