ประโยชน์ของ ข้าวโอ๊ต ธัญพืชโปรตีนสูง คุณค่าที่มาจากต้นหญ้า

        ข้าวโอ๊ต ธัญพืชไม่ขัดสี มีโปรตีนสูง และมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เป็นธัญพืชสุดโปรคู่ใจของใครหลายๆ คนที่กำลังควบคุมน้ำหนักนั่นเองค่ะ เรารู้ดีกันว่า กินข้าวโอ๊ตไม่อ้วน แต่ประโยชน์ของ ข้าวโอ๊ต จะมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง และมีข้อควรระวังในการทานอย่างไร วันนี้เราจะพาไปดูกันค่ะ อร่อยได้หลากหลายเมนู แถมยังให้คุณค่าทางอาหารที่ดีแบบนี้ คนรักสุขภาพต้องห้ามพลาดแล้วค่ะ ตามมาดูกันเลย

ลักษณะของ ข้าวโอ๊ต

        ข้าวโอ๊ต แท้จริงแล้วคือ ต้นหญ้าที่เกิดแทรกขึ้นมาในนาข้าวข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ ทำให้ถูกเก็บเกี่ยวมากับข้าวด้วย จากนั้นได้ใช้กินเป็นธัญพืช และถูกใช้เป็นอาหารสัตว์ พื้นที่ที่นิยมปลูกข้าวโอ๊ตกันมาก อยู่ในเขตยุโรปตอนเหนือที่อากาศค่อนข้างหนาวและมีแสงแดดน้อย โดยเฉพาะเยอรมันตอนเหนือ กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย และรัสเซีย

คุณค่าทางโภชนาการของ ข้าวโอ๊ตดิบ 100 กรัม

• พลังงาน 389 กิโลแคลอรี่
• น้ำ 8.22 กรัม
• โปรตีน 16.89 กรัม
• เส้นใย 10.6 กรัม
• ไขมันรวม 6.90 กรัม
• คาร์โบไฮเดรต 66.27 กรัม
• แคลเซียม 54 มิลลิกรัม
• เหล็ก 4.72 มิลลิกรัม
• แมกนีเซียม 177 มิลลิกรัม
• ฟอสฟอรัส 523 มิลลิกรัม
• โพแทสเซียม 429 มิลลิกรัม
• โซเดียม 2 มิลลิกรัม
• สังกะสี 3.97 มิลลิกรัม
• วิตามินบี 1 0.763 มิลลิกรัม
• วิตามินบี 2 0.139 มิลลิกรัม
• วิตามินบี 3 0.961 มิลลิกรัม
• วิตามินบี 6 0.119 มิลลิกรัม
• โฟเลต 56 ไมโครกรัม

ประโยชน์ของ ข้าวโอ๊ต

1. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย นักวิจัยจากประเทศอิตาลีพบว่าเบต้ากลูแคนที่มีอยู่ในข้าวโอ๊ต สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายในการต่อสู้กับแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส และปรสิตได้เป็นอย่างดี
2. ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความอ้วน ข้าวโอ๊ตมีเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำสูง มีแคลอรีต่ำ กากใยนี้เมื่อทานเข้าไปจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำ ที่ช่วยดูดซับน้ำเมื่ออาหารตกผ่านลงไปในท้อง จึงช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว เมื่อเริ่มต้นกระบวนการย่อยในลำไส้ ข้าวโอ๊ตจะช่วยในการดูดซึมอาหาร กากใยที่มีอยู่จะก่อตัวเป็นเจล แล้วจะค่อยๆ ซึมซับคาร์โบไฮเดรต รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และมีโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน  เมื่อกินข้าวโอ๊ตเข้าไป ร่างกายจึงได้ทั้งคุณค่าและกากใยที่ทำหน้าที่ที่ดีต่อร่างกาย ทำให้อิ่มเร็ว และไม่อ้วน
3. ช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้น การกินอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์อย่างข้าวโอ๊ตจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น และยังทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำเล็ก ๆ ที่ช่วยดูดซับคอเลสเตอรอลในลำไส้เล็กและขับออกจากร่างกาย
4. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด จากการศึกษาวิจัยเรื่องสารอาหารในข้าวโอ๊ต พบว่า ข้าวโอ๊ตมีสารอาหารและเส้นใยที่ช่วยป้องกันโรคภัยได้หลายชนิด เคยมีผู้ผลิตมันฝรั่งแผ่นทอดผสมกับข้าวโอ๊ตกินทุกวันเพื่อลดไขมันเลวและคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งคนอเมริกันเป็นกันมาก
5. ช่วยเพิ่มพลังงานก่อนออกกำลังกาย หากทานข้าวโอ๊ตก่อนการออกกำลังประมาณ 2 ชั่วโมง จะสามารถนำพลังงานไปใช้ในการออกกำลังกายได้เพิ่มขึ้นอีก เพราะข้าวโอ๊ตเป็นอาหารที่ย่อยง่าย จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารและนำสารอาหารเหล่านั้นมาเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว
6. ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน นายแพทย์เจมส์ แอนเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร ให้คำแนะนำว่า การทานอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์อย่างข้าวโอ๊ตจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

ข้อควรระวังในการทานข้าวโอ๊ต

• ในข้าวโอ๊ตมีโปรตีนอะวีนิน ใครที่แพ้โปรตีนชนิดนี้ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในปากและลำคอ คันตา ถ้าหากแพ้รุนแรงอาจทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก และเป็นอันตรายถึงชีวิต
• ข้าวโอ๊ตอุดมด้วยเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและทำให้ท้องอืด รวมถึงทำให้ท้องเป็นตะคริวได้ในบางคน
• ผู้ที่เป็นโรคเซลิแอคและผู้ที่แพ้กลูเตนควรเลือกผลิตภัณฑ์ข้าวโอ๊ตที่ผ่านการรับรองว่าปราศจากกลูเตนเท่านั้น เนื่องจากบางครั้งข้าวโอ๊ตอาจปนเปื้อนกับธัญพืชอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดอาการแพ้ได้

🙏 ข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ,โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 88