3 คาเฟ่โตเกียว สไตล์ย้อนยุค Retro Cafe เดินทางง่ายผ่านรถไฟสายยามาโนเตะ

     ใครกำลังมองหา คาเฟ่สไตล์ย้อนยุค Retro Cafe ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตามเรามาดูลิสต์นี้เลย เพราะคาเฟ่มินิมอล คาเฟ่น่ารัก หรือคาเฟ่ตีมแปลกๆ อาจหาพบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ไม่อยากให้พลาดเลยคือ คาเฟ่เรโทรสไตล์ย้อนยุค ที่พอได้ก้าวเข้าไปแล้ว เหมือนย้อนเวลากลับไปอยู่ในญี่ปุ่นยุคโชวะอย่างไรอย่างนั้น! นอกจากบรรยากาศอบอุ่นน่านั่งแล้ว เมนูอาหารและขนมของร้านก็อร่อยไม่แพ้กันเลย และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทัวร์ 3 คาเฟ่เรโทรชื่อดัง ที่สามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟสาย ยามาโนเตะ (Yamanote Line) ถ้าพร้อมแล้วลุยเลย!

คาเฟ่โตเกียว สไตล์ย้อนยุค Retro Cafe

     อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า ช่วงนี้วัยรุ่นญี่ปุ่นกำลังหลงใหลกับ คาเฟ่สไตล์เรโทร (Retro Café レトロカフェ) กันอย่างมาก จริง ๆ แล้วในอดีต “คาเฟ่” หรือร้านกาแฟในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า คิซะเทน (喫茶店) ไม่ใช่คำว่า “คาเฟ่ (カフェ)” อย่างที่ใช้กันในปัจจุบัน ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คาเฟ่สไตล์เรโทรกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในยุคโชวะ ตั้งแต่การตกแต่งร้านด้วยของวินเทจ กลิ่นหอมของกาแฟคั่วใหม่ ไปจนถึงกลิ่นอุ่น ๆ ของแซนด์วิชที่เพิ่งอบเสร็จ—all เหล่านี้สร้างบรรยากาศอบอุ่นที่ทำให้ใคร ๆ ก็หลงรักได้ไม่ยาก

     ยุคโชวะ (ค.ศ. 1926 – 1989) ถือเป็นช่วงรัชกาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น (ยาวถึง 62 ปี 14 วัน) และเป็นยุคแห่งการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านอุตสาหกรรม รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ช่วงเวลานี้ยังเป็นจุดที่ญี่ปุ่นรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกมาผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นในเครื่องใช้ ของตกแต่ง และแม้แต่อาหารการกินในยุคนั้นด้วย

1. คิซาเทน โอโจ (Ojo Coffee 珈琲王城)

Ueno (อุเอโนะ)

     ร้าน คิซาเทน โอโจ ตั้งอยู่หลังห้างสรรพสินค้า มารุอิ ตรงข้ามกับสถานีรถไฟอุเอโนะเลย ถือเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน เปิดบริการมา 50 ปี หากย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ผู้คนยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือ เครื่องมือสื่อสารอย่างปัจจุบัน ร้าน คิซาเทน โอโจ ถือเป็นจุดนัดพบของผู้คนสมัยนั้น ที่มาพบปะ ดื่มกาแฟ และทานอาหารกัน บรรยากาศภายในร้านยังคงบรรยากาศเดิมไว้ อาจจะมีปรับปรุงใหม่ในบางส่วน แต่ก็ยังถือว่ายังมีความวินเทจอย่างแท้จริง โต๊ะไม้วางคู่ไปกับโซฟาบุพรมลวดลายละเอียด มีโคมไฟดวงใหญ่อยู่กลางร้าน สร้างบรรยากาศอบอุ่น ชวนให้นึกถึงวันเก่าๆ

     2-3 ปีมานี้ช่วงที่ทุกคนกลับมาฮิตเรโทร คาเฟ่ ขนมหวานอย่างพาเฟ่ต์ที่ใส่วิปครีมล้นถ้วยของ คิซาเทน โอโจ เป็นที่พูดถึงอย่างมากในออนไลน์ และยังมีอาหารมื้อเบา ของว่างต่างๆอย่างเช่น แซนวิชไข่ และ ขนมปังปิ้งชิ้นหนา ก็ถือเป็นเมนูขายดีของทางร้านที่ลูกค้าทุกคนการันตีว่าดีทั้งรสชาติ และ หน้าตา นอกจากนี้ที่พลาดไม่ได้เลยคือเจ้า ครีมโซดา (クリームソーダ) หรือ ที่เรียกว่า เมล่อนโซดา (เครื่องดื่มหวานๆ เมล่อน โค้ก หรือ กาแฟ โปะด้วย ไอศครีมสวานิลา ด้านบน) ฉบับออริจินอลที่ถือเป็นเมนูตัวแทนแห่งยุคโชวะเลยทีเดียว อีกเมนูที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านคิซาเทน หรือ คาเฟ่สไตล์เรโทร คือ นัปโปริตัน (Naporitan ナポリタン) สปาเก็ตตี้ผัดกับซอสมะเขื่อเทศ ใส่ไส้กรอกและพริกหยวกญี่ปุ่น รสชาติสุดคลาสสิกที่หากมาเยื่อนญี่ปุ่นแล้วอยากให้ทุกคนมาลองให้ได้ เมล่อนโซดาถูกเสิร์ฟมาในแก้วทรงกลมสูง ประดับด้วยเชอร์รี่สีแดงสดตัดกับสีเขียวของน้ำเมล่อน ยิ่งทานควบคู่ไปกับสปาเก็ตตี้ที่เสิร์ฟมาพร้อมผงพาเมซานชีสแล้วละก็ เข้ากันดีมากๆ !

     เนื่องจาก คิซาเทน โอโจ (Kissaten Ojo) ตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะ ซึ่งเป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา หากมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจต้องต่อคิวรอหน้า店ก่อนถึงจะได้เข้าใช้บริการ ทางเราขอแนะนำว่า หากอยากหลีกเลี่ยงช่วงคนเยอะ ควรแวะมาในวันธรรมดา เพราะคิวจะสั้นกว่ามาก หรือบางครั้งอาจโชคดีได้เข้าไปนั่งจิบกาแฟทันทีโดยไม่ต้องรอเลยก็ได้

คิซาเทน โอโจ (Ojo Coffee)

• ที่ตั้ง : 6-8-15 Ueno, Taito City, Tokyo
• พิกัด : เดินจากสถานีรถไฟอุเอโนะ (JR / TokyoMetro) ประมาณ 2 นาที / สถานีรถไฟอุเอโนะ (Keisei Ueno) 3 นาที
• เวลาทำการ : 08.00 - 19.00 น.

2. คิซาเทน ลัมบุรุ (L’ambre Coffee 名曲・珈琲 らんぶる)

Shinjuku (ชินจุกุ)

     ร้าน คิซาเทน ลัมบุรุ (Kissaten LAMBUL) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี ชินจูกุ ซันโจเมะ (Shinjuku-sanchōme) สามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งจากสถานี JR ชินจูกุ หรือรถไฟใต้ดินชินจูกุ ซันโจเมะ เมื่อเดินผ่านหน้าร้านเข้าไป ภายนอกอาจดูเหมือนร้านกาแฟทั่วไป แต่ภายในกลับซ่อนบรรยากาศสุดคลาสสิกไว้ด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนล็อบบี้ของโรงแรมหรูในยุคเก่าก่อน

     คิซาเทน ลัมบุรุ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 หรือกว่า 70 ปีมาแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ภายในร้านยังคงกลิ่นอายของยุคเดิมไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะไม้ เก้าอี้ บันได และการตกแต่งโดยรวม ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปยังชินจูกุในวันวาน ถือเป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่คู่กับย่านนี้มาอย่างยาวนาน

     เมนูขึ้นชื่อของ คิซาเทน ลัมบุรุ ได้แก่ แซนวิช ขนมปังปิ้ง พาร์เฟ่ต์ และเค้ก ซึ่งล้วนเป็นเมนูยอดนิยมของลูกค้าประจำ แต่ในวันนี้ โซเฟีย (สตาฟจากทีม JapanKuru) ในฐานะชาวอเมริกันผู้ชื่นชอบเมนู โซดาโฟลต และ สปาเก็ตตี้ เป็นพิเศษ ได้ลองสั่ง เมลอนโซดา คู่กับ สปาเก็ตตี้โบโลเนส มาชิม หลังจากทานเสร็จเธอแอบกระซิบว่า “ควรจะสั่งเมนูแนะนำของร้านตั้งแต่แรกเลยน่าจะดีกว่า” หากคุณเป็นสายคาเฟ่ การได้มาสัมผัสบรรยากาศคาเฟ่สไตล์เรโทรในญี่ปุ่นแบบนี้ ก็นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์สนุก ๆ ที่ไม่ควรพลาดในทริปเลยทีเดียว!

คิซาเทน ลัมบุรุ (L'ambre 名曲・珈琲 らんぶる)

• ที่ตั้ง : 3-31-3 Shinjuku, Shinjuku City, Tokyo
• พิกัด : เดินจากสถานีรถไฟ ชินกุจุ ซันโจเม (Shinjuku-sanchōme) ประมาณ 2 นาที / สถานีรถไฟ ชินจุกุ (JR) 3 นาที
• เวลาทำการ : 08.00 - 18.00 น.

3. คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman 喫茶ロマン)

Takadanobaba (ทาคาดะโนะบาบะ)

     คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman) ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอย่าง ทาคาดะโนะบาบะ นั่งรถไฟออกมาจากชินกุจุไม่ถึงห้านาที ถือเป็นร้านที่ถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำละครบ่อยๆ อย่างเรื่อง People Who Do Not Rent ที่แสดงโดย มัสสึดะ ทาคาฮิสะ จากค่ายจอห์นนี่ หรือเป็นสถานที่ถ่ายภาพโฟโต้บุ๊คของ ดาราสาวอย่าง อากิโกะ คิคุจิ .. คิซาเทน โรมานซ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่แคบยาวด้วย บรรยากาศเงียบสงบ มีหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวด้านนอกถนน มีทั้งโต๊ะริมหน้าต่างที่บรรยากาศดีสุดๆ และโต๊ะกาแฟแบบธรรมดา

     คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 ยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบเรโทรและบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะสำหรับวันที่อยากพักผ่อนชิล ๆ จิบกาแฟท่ามกลางความเงียบสงบของย่านทาคาดะโนะบาบะ เมนูอาหารและเครื่องดื่มของที่นี่ก็ถือว่ารสชาติดีไม่แพ้ใคร เหมาะทั้งสำหรับมื้อเบา ๆ หรือช่วงเวลาพักผ่อนระหว่างวัน หากต้องการนั่งชมวิวริมหน้าต่าง ซึ่งเป็นมุมยอดนิยมของร้าน แนะนำให้โทรจองล่วงหน้าไว้ก่อน เพื่อไม่ให้พลาดที่นั่งสุดพิเศษนี้

คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman 名曲・珈琲 らんぶる)

• ที่ตั้ง : 1-18-11 Takadanobaba, Shinjuku City, Tokyo
• พิกัด : เดินจากสถานีรถไฟ ทาคาดะโนะบาบะ ประมาณ 1 นาที
• เวลาทำการ : 11.30 - 21.00 น.

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 13 คาเฟ่โตเกียว ใกล้สถานีรถไฟ ที่ต้องแวะ 2025 พิกัดยอดฮิต เดินทางง่าย
• เช็กอิน คาเฟ่มัทฉะ ในสนามบินฮาเนดะ แวะช้อป แวะชิม ก่อนกลับไทย