ซูชิ ซาชิมิ จัดเต็ม แวะเที่ยว 7 ตลาดปลาชื่อดัง จากทั่วโลก ที่ต้องไปสักครั้งก่อนตาย

ซูชิ ซาชิมิ จัดเต็ม แวะเที่ยว 7 ตลาดปลาชื่อดัง จากทั่วโลก ที่ต้องไปสักครั้งก่อนตาย
เอิงเอย
30 สิงหาคม 2561 ( 05:07 )
2.5K
3

      เมื่อได้ยินคำว่า ตลาดปลา แน่นอนว่าสิ่งที่เรานึกถึงก่อนเป็นที่แรกเลยก็น่าจะเป็น ตลาดปลาสึคิจิ ที่ญี่ปุ่นใช่ไหมล่ะคะ แต่จริงๆ แล้ว ยังมีตลาดปลาอีกหลายที่ที่น่าสนใจและน่าไปเที่ยวไม่น้อยไปกว่ากันเลยทีเดียว ตามเรามาเช็คอิน 7 ตลาดปลาชื่อดัง จากทั่วโลก ที่ต้องไปสักครั้งก่อนตาย ! ที่เป็นทั้งแหล่งรวบรวมวัตถุดิบอาหารทะเลมาไว้สำหรับขาย มีทั้งจุดบริการรับปรุงอาหาร ร้านอาหาร เคาน์เตอร์ทานอาหาร และแบบใส่ในแพ็คไว้บริการ สายกินบอกเลยว่าต้องไม่พลาดแวะไปเช็คอินสักครั้งก่อนตายให้ได้เลยนะจ๊ะ !

 

 

 


7. ตลาด Pike Place

เมืองซีแอทเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

cdrin / Shutterstock.com

 

       ตลาดนี้เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงมาก ให้บรรยากาศแบบวินเทจสุดๆ เพราะมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ที่นี่เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบสดใหม่มากมายทั้งผัก ผลไม้ เนื้อชั้นดี และโดยเฉพาะอาหารทะเลสดใหม่จากเขตแดนอลาสก้า จากฟาร์มเล็ก ใหญ่ เหล่าเกษตรกร ช่างฝีมือมารวมตัวกันมากมาย

       ใน 1 ปีมักจะมีผู้คนมาเยี่ยมชมตลาดแห่งนี้จำนวนมากถึง 10 ล้านคนเลยทีเดียว ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นย่านการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของซีแอทเทิลเลยแถมที่นี่ยังมีร้าน Starbucks ที่เป็นสาขาแรกของโลกอีกด้วย

 

f11photo / Shutterstock.com

 

       เดินเข้าไปจะเห็นเลยว่าคนต่อคิวยาวมากๆ ก็เป็นสาขาแรกของโลกเลยนี่เนอะ แถมด้านในยังมีการอนุรักษ์บรรยากาศดั้งเดิมของร้านเอาไว้อีกด้วย แฟน Starbucks คนไหนได้ไปถ่ายภาพเก็บไว้คงปลื้มสุดๆ

       ส่วนใครที่เข้าไปเดินในโซนตลาดคงไม่พลาดร้านดังของที่นี่เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ประจำ Pike Place อย่างร้านขายปลาที่มีการโยนปลากันไปมาอย่างกับเล่นลิงชิงบอลเลยทีเดียว ร้านนี้จะค่อนข้างเฮฮา และคนมุงเยอะเพราะได้ออกทีวีอยู่บ่อยๆ ค่ะ ย่านนี้เรียกได้ว่าครบรสใครมารับรองไม่ผิดหวัง มีแต่ของอร่อย บรรยากาศดีๆ ผู้คนเป็นมิตร ทะลึ่งแต่ตลกเฮฮา ลองไปสัมผัสดูสักครั้งนะคะ

 

เปิดบริการ : จันทร์-เสาร์ 09.00-18.00 น. และ อาทิตย์ 09.00-17.00 น. ควรไปถึงก่อนเที่ยงตรง ร้านอาหาร ร้านขนม และร้านสินค้าฝีมือต่างๆ จะเปิดในช่วงสาย (เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันขอบคุณพระเจ้าและวันคริสต์มาส)
ลักษณะของตลาด : ตลาดในร่ม
การแต่งกาย : รองเท้ากันลื่น

====================

 

 

6. ตลาด Torvehallerne

เมืองโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก

 

Kiev.Victor / Shutterstock.com


       ที่นี่เป็นตลาดที่มีชื่อเสียง และผู้คนคึกคักมาก ส่วนหน้าตาตลาดจะไม่ใช่ตลาดสดท่าเรืออย่างที่เรานึกภาพกันแต่เป็นตึกขนาด 2 ชั้นคล้ายห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ภายในจะมีร้านค้าขายอาหารเต็มไปหมดทั้งสด ทั้งปรุงแล้ว และอาหารสด ที่นี่ไม่ได้มีแค่ปลาเท่านั้น ยังรวมไปถึงวัตถุดิบชั้นยอดที่มีชื่อเสียง ทั้งเนื้อสัตว์ วัว หมู ไก่ แกะ อาหารทะเลสดใหม่เนื้อหวาน ชีส ผลไม้ ไวน์ชั้นเลิศ เบียร์คราฟท์ และอาหารอื่นๆ อีกมากมาย

 

 

       ใครมาถึงเดนมาร์กแล้วไม่ได้แวะมาที่นี่ถือว่าพลาดเลยล่ะ แต่จริงๆ แล้วประเทศเดนมาร์กมีร้านอาหารกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก เมนูที่แนะนำจะเป็นจานที่เป็นอาหารทะเล สดมากๆ แถมอร่อยอีกด้วย คุ้มค่าแก่การตะลุยกินจริงๆ

 

เปิดบริการ :
• จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-19.00 น.
• ศุกร์ 10.00-20.00 น.
• เสาร์ 10.00-18.00 น.
• อาทิตย์ และวัดหยุดของประเทศเดนมาร์ก 11.00-17.00 น.
ลักษณะของตลาด : ตลาดในร่ม ไม่มีน้ำนองที่พื้น ไม่มีกลิ่นคาว สะอาด
การแต่งกาย : รองเท้ากันลื่น

====================

 

 

5. ตลาดปลานอร์ยางจิน (Noryangjin)

กรุงโซล ประเทศเกาหลี

 

StockStudio / Shutterstock.com

 

       บรรยากาศตลาดปลาที่นี่ให้อารมณ์ที่คล้ายๆ กับเมืองไทยอยู่เล็กน้อยในเรื่องบรรยากาศของผู้คน แต่ต่างกันที่ที่นี่มีร้านอาหารให้บริการด้วย ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 ค่ะ ส่วนหลักๆ ด้านล่างจะเป็นตลาดสด ด้านบนจะเป็นร้านอาหารสามารถซื้อของจากด้านล่างมาให้ร้านอาหารปรุงให้ได้ ถือเป็นตลาดชื่อดังของกรุงโซลเลยทีเดียว

       เมื่อเดินเข้าไปบางทีก็จะเจอกับกรุ๊ปทัวร์บ้างประปราย อาหารทะเลที่มีขายอยู่ในตลาดก็อาจจะดูแปลกตาอยู่บ้างเล็กน้อยเพราะมีขนาดที่ใหญ่มากๆ เห็นขนาดแล้วเกือบจะตาค้างไปเลย แต่ต้องขอบอกว่าพ่อค้าแม่ค้าที่นี่มีอัธยาศัยดีมากๆ เลยค่ะ

 


       พอเห็นเป็นนักท่องเที่ยวเดินๆ ไปอยู่ดีๆก็หยิบปลาหมึกสดๆ ขึ้นมาตัดหนวดที่ยังดิ้นดุ๊บๆ ให้ลองกินซะเฉยๆ เลย เสียงดังของคนค้าขายก็เป็นธรรมดาเหมือนบ้านเรา สร้างสีสันคึกคักภายใสตลาด สำหรับของที่อยากให้เพื่อนๆ มาลองที่นี่เลยก็คือ กิมจิปลาหมึก และ ซันนักจี หรือ ปลาหมึกสดๆ ดิ้นดุ๊บๆ ทานแบบนั้นเลยค่ะ เป็นอะไรที่แปลกดีสำหรับคนไทย

 

เปิดบริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง แต่บางร้านค้าอาจเปิดปิดเป็นเวลา จะเริ่มคึกคักช่วง 04.00-06.00 น. ของทุกวัน
ลักษณะของตลาด : ส่วนด้านล่างที่เป็นตลาดสดจะเหมือนของไทย พื้นเปียกแฉะ มีกลิ่นคาวปลา แต่ส่วนชั้น 2 ที่เป็นร้านอาหารจะค่อนข้างสะอาดพื้นไม่เปียกแฉะ อยู่ในร่ม
การแต่งกาย : ไม่ควรใส่รองเท้าแตะ แนะนำรองเท้ากันลื่น แต่งตัวให้กระฉับกระเฉงไม่ควรมีอะไรห้อยปลิวไปมา

====================

 

 

4. ตลาด Bergen

ประเทศนอร์เวย์

 

Dreamer Company / Shutterstock.com



      Salmon Lover ต้องไปตามที่นี่เลย เพราะที่นี่คือแหล่งเลี้ยงแซลมอนชั้นดีอันดับหนึ่งของโลก เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งวัตถุดิบแซลมอนที่คนรักแซลมอนต้องไม่พลาดเด็ดขาด แม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่รับรองว่ารสชาติละมุนลิ้นมากจริงๆ ทุกส่วนมีมันแทรกแบบเคี้ยวลื่น อร่อยไปซะทุกส่วน

 

      ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดติดท่าน้ำมีทั้งส่วนกลางแจ้งและในร่มเลยค่ะ สามารถซื้อแบบเป็นของสดกลับบ้าน หรือสั่งแล้วนั่งทานได้เลย

 

เปิดบริการ :
• 1 พ.ค.-30 ก.ย.2018 เปิดจันทร์-อาทิตย์ 08.00-23.00 น.
• 1 ต.ค.-31 ธ.ค.2018 จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-23.00 น., ศุกร์-เสาร์ 09.00-23.00 น., อาทิตย์ 11.00-23.00 น.
• 1 ม.ค.-30 เม.ย.2019 จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-23.00 น., ศุกร์-เสาร์ 09.00-23.00 น., อาทิตย์ 11.00-23.00 น.
• 1 พ.ค.-30 ก.ย.2019 เปิดจันทร์-อาทิตย์ 08.00-23.00 น.
ลักษณะของตลาด : ตลาดในอาคารมีร่ม และกลางแจ้ง
การแต่งกาย : ควรใส่รองเท้าที่พื้นกันลื่นได้ดี และใส่กางเกงขายาวไม่รุ่มร่าม

====================

 

 

3. ตลาดปลาซิดนีย์ (Sydney Fish Market)

เมืองซิดนีย์ ถนน Bank Street, Pyrmont ประเทศออสเตรเลีย

 

Goran Bogicevic / Shutterstock.com



      ตลาดปลาซิดนีย์เป็นตลาดปลาค้าส่งที่ถือว่ามีชื่อเสียงมากในระดับโลก และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก อย่างที่ทราบกันดีว่าซิดนีย์เป็นเมืองติดทะเล และเป็นเมืองท่าทำให้มีวัตถุดิบจากทะลมาลงขายมากถึง 50 ตัน/วัน และทำรายได้ให้ประเทศจากการส่งออกสินค้าอาหารทะเลอย่างมหาศาล

       ภายในตลาดมีสินค้าให้บริการมากมายนอกเหนือจากอาหารทะเลยังมีทั้งผลไม้ เนื้อสัตว์ ชีส และอาหารอื่นๆที่เป็นของสดและปรุงพร้อมทานแล้วให้ได้เลือกซื้อไปนั่งทานกันได้อย่างสบายใจ หรือสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบสดใหม่มาให้ทางร้านอาหารปรุงให้ก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรแห่งอาหารเลยทีเดียว

 

KoBoZaa / Shutterstock.com

 

      นอกเหนือจากนั้นที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากก็ คือ โรงเรียนสอนทำอาหาร ชื่อว่า ซิดนีย์ ซีฟู้ด (Sydney Seafood School) ที่ทีผู้มาเข้าเรียนมากกว่า 12,000 คน/ปี เลยนะ

      นอกจากนี้ยังมีการเปิดประมูลสินค้าผ่านระบบออนไลน์บนคอมพิวเตอร์ให้ชาวต่างชาติมาเลือกซื้อกันได้อย่างแพร่หลาย แถมยังมีบริการ ทัวร์ชื่อว่า Behind the scenes ที่จะมีไกด์อธิบายที่มาที่ไปของตลาด การซื้อขาย ได้ชมการประมูลสินค้าที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าชมได้ รวมทั้งจะได้เข้าชมที่ Sydney Seafood School อีกด้วย โดยมีค่าบริการอยู่ที่ $35/คน ตั้งแต่เวลา 06.40-08.30 น. สามารถเข้าไปชมรายละเอียดและจองทัวร์ได้ในเว็ปไซต์เลยค่ะ ใครมาถึงซิดนีย์แล้วต้องมาร์กที่นี่ไว้เป็นสถานที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดเลย

 

เปิดบริการ : จันทร์-พฤหัสบดี 07.00-16.00 น., ศุกร์-อาทิตย์ 07.00-17.00 น. (บางร้านค้า) (เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นคริสต์มาส)
ลักษณะของตลาด : ตลาดในอาคารมีร่ม บางจุดพื้นลื่น ไม่มีน้ำนอง กลิ่นไม่แรง
การแต่งกาย : ห้ามใส่รองเท้าหนัง และรองเท้าแตะ ควรใส่รองเท้าที่พื้นกันลื่นได้ดี และใส่กางเกงขายาวไม่รุ่มร่าม

====================

 

 

2. ตลาดปลาสึคิจิ (Tsukiji)

ประเทศญี่ปุ่น ตลาดที่กำลังจะกลายเป็นตำนาน

 



       ถ้าพูดถึงชื่อตลาดสึกิจิ (Tsukiji) ในหมู่นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนประเทศญี่ปุ่นจะต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน เพื่อมาลิ้มรสปลาสดใหม่จากท้องทะเล จากร้านชื่อดังในตลาดอย่างไดซูชิ ต้องมารอคิวตั้งแต่เช้ามืดกันเลย ไปทีไรก็ต้องท้อแท้กับคิวที่ยาวล้นออกมานอกตัวร้านเกือบโล

        ตลาดปลาซึกิจิถือเป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการซื้อขายอาหารทะเลจำนวนมากกว่า 2,500 ตัน/วัน รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางการประมูลวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ตลาดที่นี่กำลังจะกลายเป็น “ตำนาน“ ไปแล้ว เนื่องจากตลาดซึกิจิจะเริ่มปิดทำการในวันที่ 6 ตุลาคม 2018 ย้ายไปยังพื้นที่ใหม่โดยใช้ชื่อว่าตลาด “โทโยสุ” เกาะโอไดบะ และเปิดทำการในวันที่ 11 ตุลาคม 2018 (คลิกอ่าน ปิดตำนาน ตลาดปลาสึคิจิ 15 ก.ย. นี้ ก่อนย้ายไปทำเลใหม่ สู่ตลาดปลาโทโยสุ)


อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เดินเที่ยวครึ่งวันที่ ตลาดปลาสึคิจิ ซูชิ ซาชิมิ ถูกและดี ระดับตำนาน ปิดท้ายแวะศาลเจ้าตลาดปลา (มีคลิป)

 

เปิดบริการ : 03.00-14.00 น.
ลักษณะของตลาด : ตลาดกลางแจ้ง มีร้านอาหาร ส่วนค้าส่ง และส่วนประมูลเป็นอาคารในร่ม มีรถสกู๊ตเตอร์วิ่งไปมาต้องระวังรถให้ดีเดินมองทางด้านหน้าและหลัง
การแต่งกาย : ไม่สามารถใส่รองเท้าแตะเข้าได้ และรองเท้าควรมีกันลื่น

====================

 

 


1. Addiction Aquatic Development

ในย่านตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market) ประเทศไต้หวัน

 

peacefoo / Shutterstock.com

 

      ที่ตลาดแห่งนี้จะมี 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นตลาดกลางแจ้งทั่วไป และอีกส่วนที่เป็นตึกเราจะเรียกว่า Addiction Aquatic Development เป็นอาคารติดแอร์สร้างใหม่ค่ะ

        ภายในตึกคือแหล่งรวบรวมวัตถุดิบจากท้องทะเลชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทเปเลย จะให้อารมณ์เหมือนมาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีร้านอาหารมากกว่าตลาด มีที่นั่งทาน เป็นแบบโต๊ะ และเคาน์เตอร์ยืนทานได้ แต่ยอมรับว่าของที่นี่สดมาก แพ็คเกจจิ้งสวยงาม สะอาด

 

 

        ประเภทอาหารจะมีหลายแบบมากทั้งแบบซาชิมิ ซูชิ ปิ้งย่าง ฮอทพอท รวมทั้งวัตถุดิบสดๆ ปลา ปู กุ้ง ไข่หอยเม่น ปลาไหล หอยนานาชนิด ไข่กุ้ง รวมทั้งของหวาน เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว และในช่วงแรกๆ บางอย่างราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศญี่ปุ่น แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะขึ้นแอบมีขยับขึ้นราคามาแล้วนิดหน่อยแล้วล่ะค่ะ แต่ของยังได้มาตรฐานไม่เปลี่ยนนะ

       ส่วนตลาดกลางแจ้งด้านนอกต้องยอมรับว่าของถูกกว่าในอาคารติดแอร์อยู่มาก แต่จะเป็นลักษณะของสดมากกว่าต้องนำมาปรุงเอง แต่จะมีร้านที่สามารถนั่งทานได้เหมือนกัน ซาชิมิที่นี่สดมากๆ และราคาถูกด้วย แนะนำให้เดินตลาดกลางแจ้งกันก่อนเข้าอาคารติดแอร์นะคะ

 

เปิดบริการ : 06.00-24.00 น. ไม่แนะนำให้มาตอนเที่ยงเพราะคนค่อนข้างเยอะ
ลักษณะของตลาด : ตลาดกลางแจ้งมีน้ำนองเล็กน้อย ภายในอาคารติดแอร์ เดินสะดวกสบาย
การแต่งกาย : สวมเสื้อผ้าแบบสบายๆ แต่เดินตลาดกลางแจ้งแนะนำรองเท้ากันลื่นไม่แนะนำรองเท้าแตะค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ChangTrixget

 

 

Tips ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจอื่นๆ

รวมส่วนลด คูปอง ให้คนไทย เที่ยวญี่ปุ่น
ช้อปกระจาย สบายกระเป๋า สายช้อปต้องฟิน !

อัพเดท กระเป๋า ของติดตัวขึ้นเครื่อง
อะไรขึ้นเครื่องได้ อะไรขึ้นเครื่องไม่ได้ มาดูกัน !

 

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิล ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิพิเศษแนะนำ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิพิเศษแนะนำ

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี