ทำความรู้จัก 10 น้ำมันทำอาหาร น้ำมันแต่ละชนิด ใช้ต่างกันอย่างไร ?

      น้ำมัน ถือเป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารในครัว โดยปัจจุบัน น้ำมันมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันจากพืช น้ำมันจากสัตว์ และน้ำมันทางเลือกเพื่อคนรักสุขภาพ แต่ละชนิดก็มีวิธีการใช้ต่างกัน บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จัก น้ำมันทำอาหารทั้ง 10 ชนิด และบอกวิธีใช้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายจ้า ตามมาดูกันเลย!

น้ำมันทำอาหาร แต่ละชนิด ใช้ต่างกันอย่างไร?

1. น้ำมันถั่วเหลือง (Soybean Oil)

      ถือเป็นน้ำมันยอดนิยมคู่ครัวไทย เพราะสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย น้ำมันถั่วเหลืองทำจากเมล็ดถั่วเหลืองแท้ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในระดับปานกลาง ทำงานกับความร้อนได้ค่อนข้างดี เหมาะสำหรับการนำไปผัด หมัก ทำขนม แต่ไม่ควรนำไปทอดหรือผ่านความร้อนจัดเป็นเวลานาน

2. น้ำมันปาล์ม (Palm Oil)

      เรียกว่าเป็นน้ำมันยอดนิยมอีกหนึ่งชนิด เพราะน้ำมันปาล์มมีราคาถูก นำมาทำอาหารได้หลากหลาย มีกรดไขมันที่มีความอิ่มตัวมากกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ สามารถผ่านความร้อนได้เป็นเวลานาน นิยมนำมาทอดอาหารที่ต้องใช้น้ำมันปริมาณมาก ทำให้อาหารมีสีสวย และคงความร้อนเวลาประกอบอาหารได้ดี

3. น้ำมันมะกอก (Olive Oil)

      เรียกว่าเป็นน้ำมันที่นิยมมากในแถบยุโรปและตะวันตก น้ำมันชนิดนี้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดีต่อสุขภาพ ซึ่งน้ำมันกะกอกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

• Extra virgin olive oil : เหมาะสำหรับการทำสลัด หรืออาหารที่ไม่ผ่านความร้อน
• Pure olive oil : นำมาทำสลัดหรือนำไปผัดได้
• Light olive oil : นำไปเป็นน้ำมันสำหรับทอดได้ และไม่ควรรับประทานสด

4. น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil)

      น้ำมันรำข้าว ถือเป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพขวัญใจคนไทยเลยก็ว่าได้ เรียกว่าเป็นน้ำมันที่คลีนกว่าน้ำมันปกติกว่า 50% เลยทีเดียว น้ำมันรำข้าวมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายหลายชนิด นิยมนำไปผัด หรือบางคนอาจจะนำไปทอด ซึ่งเป็นน้ำมันที่เหมาะแก่คนรักสุขภาพจริงๆ

5. น้ำมันคาโนลา (Canola Oil)

       น้ำมัน ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใช้สำหรับปรุงอาหารในแทบทุกเมนู แต่เป็นที่รู้กันว่าน้ำมันเต็มไปด้วยไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายมากมาย เราเลยเสนอทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพอย่าง น้ำมันคาโนลา ซึ่งเป็นน้ำมันที่สกัดจากต้นคาโนลา ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ซึ่งน้ำมันคาโนลา เหมาะสำหรับการทำอาหารประเภทผัด และปรุงกับเนื้อสัตว์นั่นเอง

6. น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

      ถือเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์ที่เหล่าสายคลีนนิยมกัน น้ำมันมะพร้าวนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย จะทั้งแบบกินสดหรือผ่านความร้อนก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับผิวได้อีกด้วย น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวที่มีโมเลกุลขนาดกลาง จึงดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักทางอ้อม เพราะน้ำมันมะพร้าวจะช่วยลดความอยากอาหารลง และอิ่มท้องได้เร็วขึ้นหากกินเป็นประจำนั่นเอง

7. น้ำมันดอกทานตะวัน (Sunflower Oil)

      ถือเป็นอีกหนึ่งน้ำมันทางเลือกที่จัดอยู่ในหมวดของน้ำมันถั่วเหลือง เพราะไม่สามารถทนกับความร้อนได้นาน เหมาะสำหรับการนำมาผัด หรือใช้เป็นส่วนผสมตีซอสสลัด มีเนื้อบางเบาและไร้กลิ่น สายเบเกอรี่ก็สามารถนำไปทำขนมได้เช่นกัน แต่น้ำมันชนิดนี้ราคาค่อนข้างสูง 

8. น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil)

       เรียกว่าอาจจะเป็นน้ำมันที่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่บอกเลยว่าน้ำมันชนิดนี้ดีต่อสุขภาพ และมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวที่ดีมาก นำมาปรุงอาหารยิ่งช่วยดึงรสชาติออกมาให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น น้ำมันชนิดนี้มีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูงแต่น้อยกว่า น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม เหมาะแก่การนำมาทำสลัด การหมัก และผัดผ่านความร้อนปานกลาง

9. น้ำมันงา (Sesame Oil)

       เป็นน้ำมันที่นิยมมากในหมู่คนจีนและเกาหลี เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ไม่ผ่านการฟอกหรือต้มกลั่น ทำให้ยังคงสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น การนำมาทำสลัด การหมักเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม หรือการจี่ก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญน้ำมันชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นานและไม่มีกลิ่นเหม็นหืน

10. น้ำมันหมู

       ปิดท้ายด้วยน้ำมันจากสัตว์หนึ่งเดียว นั่นก็คือน้ำมันหมู มีกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง สามารถทนความร้อนได้ดี วิธีการใช้คล้ายกับการใช้น้ำมันปาล์ม ต่างที่น้ำมันหมูจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเมื่อโดนความร้อน จะทำให้อาหารที่ปรุงหรือทอดผ่านน้ำมันหมูมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญราคาถูก

บทความที่คุณอาจสนใจ

• เปิดลิสต์ 12 เครื่องปรุงอาหาร เพื่อสุขภาพ ดีต่อใจ สายเฮลท์ตี้ต้องจด!
• 8 วิธีทอดอาหาร ไม่ให้ติดกระทะ น้ำมันไม่กระเด็น ทำอาหารง่ายขึ้น เทคนิคนี้ต้องจด!
• อาหารจากพืช ! Plant-based Food คืออะไร เทรนด์มาแรง ของคนรักสุขภาพ

---------------------------

อัพเดทคาเฟ่สุดชิล รีวิวร้านอร่อยร้านดัง แจกสูตรอาหารเด็ดๆ
มาพูดคุยแชร์รูปยั่วน้ำลาย ให้สายกินต้องอิจฉา
ที่แอปทรูไอดี คลิกเลย > TrueID Food Community <