วิธีสั่ง เมนูกาแฟ ฉบับมือใหม่ แบบละเอียดยิบ ได้ของตรงใจไม่ผิดหวัง

     ว่ากันว่า ถ้าใครได้ลองลิ้มรสชาติของกาแฟสด คั่วบดดีๆ สักครั้งแล้ว จะติดใจและไม่คิดจะกลับไปดื่มกาแฟสำเร็จรูปอีกเลยซึ่งตอนนี้เราสามารถหาร้านกาแฟดีๆ ได้ง่ายแทบจะทุกซอกทุกมุมในกรุงเทพฯ แล้ว แต่สำหรับมือใหม่ทุกคนแล้ว ความรู้สึกแรกที่ได้เข้าร้านกาแฟแบบจริงๆ จังๆ นั้นก็แอบตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย หลายคนมักเริ่มด้วยกาแฟเย็นอย่างง่ายๆ สักแก้ว แต่...

     “กาแฟเย็นแบบไหนดีคะ/ครับ?” นี่จะเป็นประโยคแรกที่พนักงานร้านจะถามกลับมาอย่างแน่นอน พร้อมกับชื่อแปลกๆ อีกมากมาย ทั้ง ลาเต้ มอคค่า อเมริกาโน ฯลฯ การสั่งกาแฟครั้งแรกใของผมจึงจบลงด้วยความมึนเล็กน้อย

     ดังนั้น ก่อนเข้าร้านกาแฟนั้น การศึกษาทำการบ้านมาให้เรียบร้อยซะก่อนจึงนับเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันครับ เผื่อพาสาวมาด้วยจะได้ไม่เสียฟอร์ม ในขั้นต้นเรามาลองทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์เกี่ยวกับชนิดของกาแฟทั่วๆไปก่อนดีกว่า เรียงลำดับตามความเข้มของกาแฟ ดังนี้ครับ

รู้จักกับกาแฟประเภทหลักๆ มีอะไรบ้าง ?

Espresso

     จุดเริ่มต้นของกาแฟทุกแก้ว คือกาแฟที่ชงด้วยเครื่อง espresso ทำเป็น shot (1 shot เป็นถ้วยเล็กๆ) ทำออกมาได้เร็วที่สุด ดื่มแบบร้อน สามารถระบุกับพนักงานได้ว่าต้องการกี่ shot มือใหม่ส่วนใหญ่พลาดตกม้าตายกับเมนูนี้ เนื่องจากคุ้นชื่อมากที่สุด เวลาสั่งจึงสั่งแก้วนี้โดยหารู้ไม่ว่ามันคือกาแฟเข้มข้นแบบเพียวๆ แก้วเล็กนิดเดียว ส่วนมากดื่มกันตอนเช้าเวลาต้องการคาเฟอีนแบบเร่งด่วน พนักงานส่วนใหญ่จะน่ารัก คอยเตือนเราก่อนสั่ง Espresso ทุกครั้งว่ามันคือกาแฟล้วนๆ เลยนะ!

Espresso Ristretto

     คือกาแฟ Espresso ครึ่ง shot (คำว่า ristretto มาจาก narrow คือการทำให้แคบ หรือน้อยลงนั่นเอง)

Espresso Doppio

     ก็คือกาแฟ Espresso 2 shot (คำว่า Doppio ก็คือคำว่า Double ในภาษาอังกฤษครับ)

Espresso Macchiato

     คือ 1 shot ของ espresso แต่งหน้าด้วยฟองนม

Americano

     คือ espresso ผสมกับน้ำร้อน อธิบายง่ายๆก็คือกาแฟดำตามปรกตินั่นเอง ใครนึกอะไรไม่ออกสั่ง Americano ไปก่อน รับรองความปลอดภัยมากที่สุด อยากไปเติมอะไรต่อก็ตามชอบเลย

Lungo (บางที่เรียก longblack)

     คือกาแฟ Espresso ที่กดน้ำออกมาเท่ากับ Americano หน้าตาละม้ายคล้ายกัน แต่รสชาติจะต่างกันตรงที่ Lungo รสขมกว่า เพราะน้ำร้อนไหลผ่านกาแฟนานกว่า และที่แน่ๆ ปริมาณคาเฟอีนเยอะกว่าครับ

Flat White

     espresso ผสมกับ steamed milk รสกาแฟจะนุ่มขึ้น ขมน้อยลง

Cappuccino

     หนึ่งในเมนูที่เราคุ้นชื่อมากที่สุด คาปูชิโน นั่นเอง มันคือ espresso ผสมกับ steamed milk เล็กน้อย และเน้นฟองนมในปริมาณที่เยอะ โดยที่จำนวน shot ของกาแฟขึ้นอยู่กับขนาดของกาแฟ โดยที่ Cappuccino จะเข้มกว่า Latte

Latte

     กาแฟที่มีส่วนผสมของ espresso, steamed milk จำนวนมาก และฟองนมเล็กน้อยอยู่ด้านบน รสออกนุ่มนวล เหมาะกับคุณผู้หญิง (Latte แปลว่า นม ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของแก้วนี้)

Espresso Con Panna

     อ่านว่าเอสเพรสโซ คอน ปันย่า คือ espresso ที่มีวิปครีมโปะอยู่ด้านบน

Mocha

     คือเครื่องดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมของ espresso, steamed milk จำนวนมากและ mocha syrup โดยทั่วไปจะใช้ dark mocha syrup ให้อารมณ์ใกล้เคียงเครื่องดื่มโกโก้รสกาแฟ กลิ่นหอมดื่มง่าย

Caramel Macchiato

     หนึ่งในเมนูยอดนิยมในบ้านเรา เป็นกาแฟที่เกิดจากการผสมกันของ วานิลลา, steamed milk, espresso และฟองนม จากนั้นราดด้านบนด้วย caramel รสหวานหอม กลมกล่อม

Espresso Corretto

     คือกาแฟ Espresso ใส่เหล้า Grappa อีกที เมนูนี้ในไทยไม่ค่อยมีครับ

===============

     เหล่านี้คือเมนูกาแฟแบบมาตรฐานที่ร้านกาแฟทุกๆ ร้านจะต้องมี เพียงแต่ในบางร้านอาจมีการใช้ชื่อที่แตกต่างกันไป (ประมาณว่าให้เราสับสนเล่น เห็นหน้าลูกค้างงแล้วสะใจดี) อย่างน้อยถ้าคุณรู้ชื่อและส่วนประกอบหลักของมันไว้บ้าง จะสามารถช่วยลดอาการมึนศัพท์ได้เยอะครับ

     ทั้งหมดนี้ถ้าสั่งไปคุณจะได้เป็นกาแฟร้อน ถ้าอยากดื่มแบบเย็นก็แค่เพิ่มคำว่า Iced เข้าไปข้างหน้า เช่น Iced latte, Iced Americano เป็นต้น

     และต่อไปคือความสนุกอีกอย่างของการสั่งกาแฟตามร้านก็คือ เราสามารถสั่งให้พนักงานลดนั่นเพิ่มนี่ได้ตามต้องการของเรา (แล้วเวลาคุณสั่งก็จะมีชื่อห้อยท้ายตามออกมายาวๆ ให้ฟังดูเท่ไปงั้นๆ) เช่น Iced Caramel Macchiato Decaf Double shot Skinny Large = กาแฟเย็น Caramel Macchiato ใส่ Espresso2shot แบบไม่มีคาเฟอีน ใช้นมแบบ non-fat แก้วขนาดใหญ่

วิธีปรับแต่งเมนูกาแฟให้ตรงใจ

     มาต่อกันในเรื่องของศัพท์ที่ใช้เวลาที่เราต้องการเพิ่ม/ลดส่วนประกอบบางอย่างในกาแฟกันนะครับ ความจริงถ้าคุณสั่งแบบปรกติ (คือแค่อ่านชื่อจากเมนูแล้วก็สั่งเลย) ก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้าอยากลองปรับแต่ง (customize) กาแฟที่ดื่ม (หรือแค่อยากแก้เผ็ดพนักงานขายดูบ้าง) ก็น่าที่จะรู้เรื่องพวกนี้ไว้บ้างครับ

1. นม ในร้านกาแฟบางร้านคุณสามารถเลือกประเภทของนมที่ใช้ได้ เช่น low fat แบบพร่องมันเนย(อ้วนน้อย แบบไม่อ้วนไม่มีนะจ๊ะ) หรือแบบ soy milk (นมถั่วเหลือง) สำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสในนมวัว และ No Fat นมไขมัน 0% ไว้เพื่อคนที่ซีเรียสเรื่องไขมันจริงๆ (แต่รสกาแฟอาจไม่อร่อยเหมือนเดิม) มีทิปส์เล็กน้อยเผื่อคนที่ดื่มแบบหวานน้อยและใช้นมไขมันต่ำด้วย หากคุณไปดื่มกาแฟที่ต่างประเทศสามารถใช้คำว่า “Skinny” ได้เลยครับ
   
   
2. กาแฟ เลือกว่าจะเอาแบบปกติ หรือแบบไม่มีคาเฟอีน (Decaf) บางคนชอบแบบนี้เพราะมันไม่เข้มมาก แต่ส่วนใหญ่เราดื่มกาแฟกันเพราะอยากได้คาเฟอีนนี่นะ
   
   
3. วิปครีม นุ่มเนียนแบบนี้ใครก็ชอบ โดยปกติหากสั่งกาแฟประเภทปั่น ก็มักจะมีวิปครีมโปะมาให้อยู่แล้ว หรือบางร้านจะถามคุณก่อนเลยว่าใส่วิปครีมด้วยหรือเปล่า?
   
   
4. ไซรัป (Syrup) หรือน้ำเชื่อมกลิ่นต่างๆ เพิ่มรสชาติให้กาแฟ  เช่น Hezelnut, Raspberry, Almond, Banana, Caramel, Tiramitsu และอีกมากมาย อันนี้เลือกกันตามใจชอบครับ
   
   
5. Espresso Shot อันนี้ง่ายๆ คือขอเบิ้ลเอสเพรสโซอีกช็อตนั่นเอง หรือใครจะเอาเพิ่มมากกว่านั้นก็สั่งเอาตามลำดับครับ ไล่ตั้งแต่ single, double, triple, quad (มากกว่านี้คงไม่มีแล้วนะครับ ยอดมนุษย์ไปหน่อย) อันที่เห็นเพื่อนชอบสั่งประจำจะเป็น ช็อคโกแลตเย็นหนึ่งแก้วแล้วเพิ่ม 1 shot อย่างนี้เป็นต้น (ใครไม่แน่ใจอย่าเพิ่งห้าวสั่ง triple ครับ เคยลองไปทีแทบลงไปดิ้น)
   
   
6. ปั่น ที่ต้องเอามาเขียนเพราะบางร้านเขาไม่ได้ใช้คำว่า “ปั่น” เนี่ยสิ นัยว่าอยากจะให้ฟังเท่ขึ้น เช่น ร้าน Starbucks เรียก Frappuccino, ร้าน true coffee เรียก Twist เป็นต้น ง่ายๆ มันก็คือกาแฟเย็นปั่นน้ำแข็งจนเป็นเกล็ดละเอียด และแน่นอนว่ามันถูกบังคับให้เป็นกาแฟแบบเย็นไปโดยปริยาย (เคยเดินมึนไปสั่ง Freppucino ร้อน ทำเอาคนขายมึนด้วย นี่แหละเหตุผลว่าทำไมจึงต้องรู้คำศัพท์ไว้บ้าง

     จากจุดนี้ ที่เหลือก็แค่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ปั้นแต่งศัพท์นรกของคุณตามใจชอบเลยครับ เช่น สั่งกาแฟแบบ Decaf+Skinny (กาแฟไม่มีคาเฟอีนและใช้นมไขมันต่ำ หวานน้อย), Chocolate + tripple shot + Non fat milk + No whipped cream อย่างนี้เป็นต้น

===============

- เปิดคัมภีร์ วิธีสั่งเมนู Starbucks พร้อม 13 เมนูลับในตำนาน