(Review) ดินเนอร์ยามค่ำกับอาหารฝรั่งเศส คู่ไวน์รสเลิศ ที่ Panorama : Crowne Plaza Bangkok Lumpini
Words by เอิงเอย
Photo by แมวหง่าว
อาหารรสเลิศ ก็ต้องคู่กับไวน์ชั้นดี สองอย่างนี้เป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ ถ้าขาดไปอย่างใดอย่างหนึ่งอาหารมื้อนั้นคงจะกร่อยๆ ไปเหมือนกันใช่ไหมล่ะคะ ? สักครั้งถ้าอยากลิ้มลองบรรยากาศดินเนอร์ให้ครบเต็มคอร์สคู่กับไวน์ดีๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะลองไปได้ที่ไหนล่ะก็ ชวนมาจิบไวน์ ทานอาหารมื้อค่ำ คู่ไปกับบรรยากาศวิวสวยๆ กลางใจเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีของกรุงเทพฯ แบบพานอรามา ที่ ห้องอาหาร Panorama โรงแรม Crowne Plaza Bangkok Lumpini Park ในวันที่ 25-26 ตุลาคมนี้ ในเวลา 19.00 น. มื้อค่ำแบบเต็มคอร์สด้วยราคาพิเศษสุดๆ ค่ะ
เมนูอาหารที่ผสมผสานสูตรต้นตำรับจากฝรั่งเศสคัดสรรคู่มาพร้อมกับไวน์ชั้นดี โดยเชฟเจอรามี่ ลาเซอรี่ และเชฟแมทท์ ดาวน์เดล ทั้งจานร้อนและเย็น ด้วยการจับคู่กับไวน์สุดหรูอย่าง French Grand Cru Classé, Château Lafleur Laroze, Saint-Émilion Grand Cru เป็นต้น
อาหารจานแรก “Hokkaido scallop Carpaccio with passion fruit and kumquat” เสิร์ฟลงโต๊ะพร้อมไวน์ขาว “2010 Domain Michel Thomas, Sancerre” ไวน์ขาวเบาๆ ลื่นคอช่วยเพิ่มความอยากอาหารยิ่งขึ้น หอยเซลล์ฮอกไกโดก็มีรสชาติผสมผสานความเป็นตะวันออก และตะวันตกอยู่ในจานเดียวด้วยซอสเสาวรสเปรี้ยวอมหวานตัดรสชาติด้วยพริกที่ฝานมาโรยหน้าเป็นแผ่นบางๆ
“Hokkaido scallop Carpaccio with passion fruit and kumquat”
ต่อด้วย “Canadian lobster and tofu in dashi” กุ้งล็อบสเตอร์ชิ้นโต และเต้าหู้ขาวเสิร์ฟมาในน้ำซุป Dashi ซึ่งเป็นน้ำซุปญี่ปุ่นจากปลาแห้งที่มีการปรุงรสแบบเฉพาะตัวทำให้มีกลิ่นหอมจางๆ ของปลาแห้งลอยมาเตะจมูก เพิ่มรสชาติด้วยดอกกุ่ยช่าย และสาหร่าย ออร์เดิร์ฟเซ็ตนี้ เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี จนอดใจรอจานต่อไปไม่ได้ทีเดียวค่ะ
“Canadian lobster and tofu in dashi”
สำหรับเมนูต่อมาเป็นแบบติ่มซำสไตล์ฮ่องกง “Steamed spotted red grouper inspired by Hong Kong” ปลาเก๋าแดงนึ่งมาในรูปแบบของติ่มซำสองเข่ง เข่งแรกเป็นปลาเก๋าแดงชิ้นโต และแปะก๋วยห่อด้วยแป้งแผ่นบาง เข่งที่สองเป็นปลาเก๋าแดงห่อแป้ง เพิ่มรสชาติด้วยหน่อไม้ฝรั่ง และวุ้นคาโมมายด์ เป็นติ่มซำที่ได้รสชาติต่างออกไปจากที่อื่นๆ ค่ะ เพราะจะเป็นรสชาติที่ได้จากตัววัตถุดิบแท้ๆ โดยไม่ปรุงแต่งด้วยเครื่องปรุงมากมาย ทานคู่กับไวน์ “2011 Domain Blondelet, Pouilley-Fumé” ด้วยรสชาติของติ่มซำที่ค่อนข้างเบา ทำให้รสชาติของไวน์เข้มข้นขึ้นอย่างรู้สึกได้ชัด ถ้าทานเดี่ยวๆ อาจจะไม่ถูกปาก แต่พอทานคู่กับไวน์แล้ว คงตัวทีเดียวค่ะ
“Steamed spotted red grouper inspired by Hong Kong”
มาต่อกันที่ “Japanese black cod & caramelized pineapple” ปลาคอดญี่ปุ่น เสิร์ฟมาคู่กับสับปะรดชิ้นพอดีคำ โรยหน้าด้วยหอมแดง และใบโหระพา สับปะรดเพิ่มรสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน หอมแดงและโหระพาเพิ่มกลิ่นหอม และตัดรสชาติ ช่วยผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวค่ะ ยิ่งทานคู่กับไวน์แล้วยิ่งทำให้ได้รสของปลาคอดชัดขึ้นอีกด้วย
“Japanese black cod & caramelized pineapple”
มาถึงเมนคอร์สกันบ้าง “Foie gras with pistachio and plum served hot & cold” ฟัวกราส์สองชิ้นสองสไตล์แบบย่าง และบด เสิร์ฟมาเป็นเมนคอร์สสำหรับวันนี้ ชิ้นแรกเป็นฟัวกราส์ย่างที่นุ่มลิ้น และได้รสชาติเข้มข้น สำหรับชิ้นต่อมาเป็นฟัวกราส์ที่นำไปบดอัดเป็นชิ้นคลุกด้วยถั่ว ทำให้มีความกรุบๆ ปนอยู่ด้วยกับรสชาติที่เข้มข้น เรียกได้ว่า ทั้งร้อนและเย็นมาผสมผสานกันค่ะ
“Foie gras with pistachio and plum served hot & cold”
จานต่อมาในเมนคอร์สคือ “Ballotine of goose accompanied by aromas of the north woods” เป็นเนื้อส่วนน่องติดกระดูกของห่านย่าง พร้อมข้าวกล้องดำ และเบอร์รี่มาตัดรสชาติ จานนี้ค่อนข้างพิเศษหน่อยค่ะ เพราะเสิร์ฟมาพร้อมกับ เตาที่ใส่ใบไม้มาช่วยเพิ่มกลิ่น ต้องทานไปด้วย และ ได้กลิ่นจากใบไม้ไปด้วยถึงจะสมบูรณ์ครบเซ็ตความอร่อยค่ะ สองจานนี้เสิร์ฟมาคู่กับไวน์ “2007 Château Lafleur Laroze, Saint-Émilion Grand Cru” ซึ่งเป็นไวน์แดงรสชาติเข้ม ทานคู่กับจานนี้ลงตัวเป็นอย่างดีทีเดียว
“Ballotine of goose accompanied by aromas of the north woods”
จบคอร์สกันด้วยของหวานที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้เราไม่น้อย “Coconut, Strawberry and pandan with a down to earth presentation” ก้อนหินที่วางประดับอยู่บนโต๊ะตั้งแต่แรกที่เรามาถึงกลับกลายเป็นของหวานจบคอร์สในวันนี้นั่นเอง เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ >.< ถ้าคนชอบของหวานๆ อดใจไม่ได้แน่นอน ครีมสตรอเบอร์รี่ทะลักออกมาทันทีที่เริ่มลงมือเอาส้อมเจาะก้อนหินนั้นลงไป ทานคู่กับมะพร้าว ช่วยให้มีรสชาติมันๆ ค่ะ
“Coconut, Strawberry and pandan with a down to earth presentation”
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเล็กๆ ของคอร์สดินเนอร์ “อาหารรสเลิศ และไวน์ French Grand Cru Classé” เท่านั้นนะคะ เพราะในวันที่ 25-26 ตุลาคมนี้ เชฟจะมีทั้งหมดถึง 14 เมนูให้ได้เลือกชิมกันทั้งจานร้อน และเย็น คู่กับไวน์ชั้นดี เพราะฉะนั้นใครที่อยากมาชมวิวยามค่ำ ดินเนอร์ใต้แสงไฟโรแมนติกของกรุงเทพฯ พร้อมจิบไวน์ฟังเสียงเพลงเบาๆ สามารถจองล่วงหนาได้ค่ะ พิเศษกว่านั้นสำหรับผู้ที่จองก่อนวันที่ 15 ตุลาคมนี้ จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 20% ทีเดียว
ห้องอาหาร Panorama โรงแรม Crowne Plaza Bangkok Lumpini Park
คลิกเพื่อชมคลิป ห้องอาหาร Panorama โรงแรม Crowne Plaza Bangkok Lumpini Park
Panorama Restaurant : Crowne Plaza Bangkok Lumpini Park
952 พระราม4 กรุงเทพฯ 10500
โทร.0-2632-9000
www.crowneplazabkk.com
ขอขอบคุณ Nikon D5200 ภาพสวย สีใส ชัดแจ๋ว
Review Nikon D5200 : DSLR คุณภาพสูง ฟังค์ชั่นครบครัน
–> http://travel.truelife.com/detail/2850650
ติดตาม travel.truelife.com ได้อีกช่องทางที่
ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และสุขภาพ คลิกที่ http://travel.truelife.com
