Throwback Rooftop Bar คาเฟ่บาร์บรรยากาศดี เพลงดี ที่ Silom Edge
Y2K is back!! บอกเลยว่าช่วงนี้ไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็จะเห็นเทรนด์ Y2K และวันนี้เราขอมาแนะนำ Throwback Rooftop Bar บาร์ดาดฟ้าบรรยากาศดี ใจกลางเมือง ย่านสีลม ศาลาแดง ที่ชั้น 9 ตึก Silom Edge ที่นี่คือคาเฟ่บาร์ที่จะพาเราย้อนเวลาไปสู่ยุค 90s ไม่ว่าจะเป็น ดนตรีเพราะๆ บรรยากาศสุดชิลฟีลกินดื่ม Mood&Tone การใช้สีสันในโทนสดใส สีเหลืองตัดกับสีน้ำเงินสด การตกแต่ง รวมไปถึงเมนูอาหารและเครื่องดื่มของที่ร้าน เรียกได้ว่าเปิดเพลงไหนเราก็ร้องตามได้ทุกเพลง ถ้าอยากรู้แล้วว่าที่นี่มีอะไรพิเศษบ้าง ก็ตามเรามาดูกันเลย
Throwback Rooftop Bar บาร์ดาดฟ้า Silom Edge
ซึ่งความพิเศษของที่นี่ก็คือ เค้าเป็นทั้งคาเฟ่ในตอนกลางวัน และในช่วงกลางคืน จะกลายเป็น Rooftop Bar บรรยากาศสุดชิลที่มีกลิ่นความเป็นยุค 90s เหมาะกับการชวนเดอะแกงค์มาแฮงค์เอาท์ นั่งชิลเมาท์มอยย้อนวัย Throwback ไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสุข
Throwback Course Menu
และในครั้งนี้เราจะขอพาทุกคนมามาลิ้มลองอาหารสุดพิเศษและเปิดประสบการณ์ความเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมชิมอาหารสไตล์ Chef Table : 6-Throwback Course Menu ซึ่งความพิเศษคือในแต่ละเมนูจะถูกจับคู่กับเสิร์ฟพร้อมค็อกเทลที่ผสานไอเดียระหว่างเชฟแฮม Head Chef ประจำร้านที่มีประสบการณ์การทำอาหารมากว่า 10 ปี และคุณคิว Mixologist มือหนึ่งประจำร้าน จากการค้นหาวัตถุดิบที่จะทำให้เราได้ Throwback ย้อนเวลากลับไปนึกถึงอดีต ซึ่งตรงตามคอนเซ็ปต์ร้านที่ว่า “Not just food, but we also serve memories.”
ซึ่งในคอร์สเมนูก็จะประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และตบท้ายด้วยของหวานรวมทั้งหมด 6 คอร์สโดยแต่ละเมนู ทางร้านได้เลือกสรรวัตถุดิบตัวตั้งต้นที่ทำให้ท่านย้อนเวลานึกถึงอดีต แล้วเสนอไอเดียออกมาเป็นเมนูอาหารและค็อกเทลสูตรพิเศษ ในระหว่างคอร์ส ท่านจะได้ชิมทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยผนึกไอเดียความเป็น Throwback มากขึ้น
สำหรับเมนูอาหาร คอร์สแรกเปิดตัวด้วยเมนูที่มีวัตถุดิบหลักคือ Basil หรือ ใบกะเพรา ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูสิ้นคิดสำหรับมื้ออาหารของหลาย ๆ คน เราจะลืมไปได้อย่างไร สำหรับเมนูนี้เราจะเสิร์ฟร้อนมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยด้วยแจงลอนกุ้งเสียบตะไคร้ อาหารที่หากินยากในปัจจุบัน จับคู่กับค็อกเทลตัวแรก Good Old Times ที่มีส่วนผสมของเสาวรส ชินนามอนและที่ลืมไม่ได้ คือ ใบกะเพรา เพิ่มความเผ็ดปลายด้วยเช่นกัน
คอร์สที่สองตามมาด้วยวัตถุดิบ Mala หรือ หม่าล่า ยอดฮิตในปัจจุบัน ความเผ็ดที่อยากคงไว้ให้ทุกคนได้ลองชิม และผสานความ 90s ด้วยหมี่กรอบสีชมพู อาหารไทยโบราณ ที่มีรสหอมหวาน แน่นอนเราเติมความเผ็ดของหม่าล่าเข้าไป เพื่อให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น ตัดความหวาน และท็อปด้วยทาทาร์แหนม กับแกล้มยอดฮิต ความเผ็ดหวานซ่อนเปรี้ยวของเมนูนี้ จับคู่กับค็อกเทลตัวที่สอง Young at Heart ชื่อดูมีความหวาน ใสๆ แต่บอกเลยว่า ไม่เบา! ด้วยรสชาติของขิง หม่าล่า และพริกไทย ทำให้คHอกเทลตัวนี้มีความแรงถึงใจตบความหวานจากหมี่กรอบได้อย่างลงตัว
คอร์สที่สาม วัตถุดิบที่พบเห็นได้ตามรถเข็นผลไม้ ของดองต่างๆ เชฟแฮมได้หยิบเอาปูนิ่มมาทอดทำเป็นเมี่ยงและสอดไส้ด้วยมะม่วงดอง ให้รสชาติซ่อนเปรี้ยว จิ้มกับน้ำปลาหวาน คลุกเคล้ากันได้รสชาติเมี่ยงไทยๆแต่ฟิวชั่นกับมะม่วงดอง เสิร์ฟคู่กับ Fly Me to The Moon ค็อกเทลรสชาติเข้มข้นหยอดด้วยน้ำมะนาว ท็อปด้วยมะม่วงดองและมะยมดอง
คอร์สที่สี่ ขนมที่ใครหลายๆ คน อาจจะลืมไปแล้วอย่าง เซียงจา เชฟแฮมและคุณคิวก็นำมาเป็นส่วนผสมของอาหารและค็อกเทลเช่นกัน เชฟแฮมได้ไอเดียเริ่มต้นมาจากไก่กอและที่หลายคนน่าจะรู้จัก ซึ่งเป็นไก่เสียบไม้สีส้มๆ แต่ทางร้านนำมามาครีเอทและนำเสนอเป็นปลากะพงซูวีแทน พร้อมราดซอสบ๊วยกอและจับคู่กับค็อกเทล Bring Back Memories Infused Gin กับเซียงจา พร้อมรสชาติ Infused Vermouth ของบ๊วย ใครที่เป็นแฟนคลับเก่าเซียงจา อยากให้ลองชิมเมนูนี้ดู
ต่อเนื่องด้วยเมนูคอร์สหลัก จะเสิร์ฟด้วย สเต๊กเนื้อวากิว หรือสันคอหมู ใส่ซอสหมูปิ้ง ที่หลายๆ คนชอบ แน่นอนว่าหมูปิ้งจะขาดข้าวเหนียวไม่ได้ เราจึงมีข้าวจี่กล้วยเสิร์ฟไว้ให้ข้างๆ เรียกได้ว่าเป็นการกินข้าวเหนียวหมูปิ้งในแบบ Chef’s Table ใหม่ๆ พร้อมค็อกเทลสูตรพิเศษที่วัตถุดิบหลักคือกล้วย ที่มีชื่อว่า 1973 สูตรจาก Infused Bourbon กับกล้วย ฟังดูแล้วแหม่งๆ แต่บอกเลยรสชาติไม่เป็นรองใคร ท็อปด้วยกล้วยเคลือบช็อกโกแลตไว้กินล้างปาก ก่อนไปสู่เมนูขนมหวานส่งท้าย
ปิดท้ายด้วยขนมหวานสูตรพิเศษ ด้วยวัตถุดิบสุดแฟนซีอย่าง เม็ดเป๊าะแป๊ะ Magic Pop ที่มาในรูปแบบซอง เทใส่ปาก แตกเป๊าะแป๊ะๆ ในปาก เชฟแฮมได้หยิบมาเป็นส่วนผสมให้กับขนมหวานก่อนจบคอร์สด้วย เครมบูเล่ถั่วเหลืองมะพร้าวอ่อนแช่อิ่ม หอมกลิ่นนมถั่วเหลืองและมะพร้าวอ่อน และตบด้วยค็อกเทล I will Survive ค็อกเทลสีชมพู โรยผงรอบแก้วด้วย Magic Pop เลียที่ขอบแก้วแล้วชิมรสน้ำ ได้รสชาติอร่อยติดใจ ก่อนกลับบ้านไปแน่นอน
นอกเหนือจากเมนู Chef’s Table แล้ว ร้าน Throwback ก็เปิดบริการทั้งโซนด้านนอกและด้านใน เป็นคาเฟ่บาร์ ใครที่สนใจอยากจะมาแฮงค์เอาท์ สัมผัสอาหารทั้งไทยและเวสเทิร์น ลองแวะมาเปิดประสบการณ์กับ Throwback ใครอยากทานกาแฟแวะมากลางวัน ใครอยากจิบเบียร์ นั่งชิลแวะมากลางคืน ได้ที่ Throwback ชั้น 9 ตึกสีลมเอจ (Silom Edge)
สำหรับใครที่สนใจอยากลองมาเปิดประสบการณ์ Chef’s Table: 6 TB course menu สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า (อย่างน้อย 5 วัน - จำกัดวันละ 10 ท่านเท่านั้น) ได้ที่เบอร์ 06-1493-6266
ข้อมูลร้าน Throwback
- พิกัด : https://goo.gl/maps/APVbhjA8j8YXA6ZC6
- ที่อยู่ : Silom Edge ชั้น 9 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ
- ร้านเปิดบริการ : 11.00 - 24.00 น.
- โทร : 06-1493-6266
- ที่จอดรถ : มี
- เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/throwback.bkk
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 15 ร้านอาหาร ดนตรีสด ปีใหม่ 2023 นี้ ต้องไปฉลอง บรรยากาศดี ดนตรีเพราะ
- 20 บาร์นั่งชิล หลังเลิกงาน ในกรุงเทพ อัปเดต 2023
- 20 ร้านนั่งชิล ถ่ายรูปสวย กรุงเทพ บรรยากาศเก๋ๆ แชะภาพมุมไหนก็ปัง!