ประโยชน์ของแตงโม ดีต่อร่างกาย สดชื่นหวานฉ่ำ คลายร้อนได้ดี
ประโยชน์ของแตงโม ผลไม้คลายร้อน รสชาติหวานฉ่ำอร่อย ยิ่งแช่เย็นๆ อื้อหือฟิน! บอกเลยว่าภายใต้ความฉ่ำอร่อยนี้ แตงโมมีสรรพคุณดีต่อร่างกาย ซ่อนอยู่หลากหลายทีเดียวค่ะ คุณค่าทางโภชนาการของแตงโม ก็มีเยอะไม่แพ้ผลไม้สีแดงชนิดอื่นๆ เลย เข้าสู่ฤดูร้อนแบบนี้ ทานแล้วชื่นใจแน่นอน จะมีข้อควรระวังในการทานยังไงบ้าง ตามเรามาดูกันเลยค่ะ
ลักษณะของ แตงโม
แตงโม (watermelon) มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาแถบทะเลทรายคาลาฮารี ในทวีปนี้จะมีแตงโมขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีหลากหลายพันธุ์ ทั้งมีรสหวาน รสจืด และรสขม แต่อย่างไรก็ตามประเทศจีนได้เริ่มปลูกแตงโมในคริสต์ศตวรรษที่ 10 และปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่ปลูกแตงโมมากที่สุดในโลก
แตงโมเป็นไม้เถาอยู่ในตระกูลเดียวกันกับแตงกวา ลำต้นเป็นเถาเลื้อยแผ่ไปตามพื้นดิน ใบมีลักษณะเว้าลึก 3-4 หยัก ก้านใบยาว ทั้งเถาและใบมีขนอ่อนปกคลุม ผลของแตงโมงถูกพัฒนามาจากรังไข่ มีทั้งแบบกลม กลมรี และทรงกระบอก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 15-20 เซนติเมตร เปลือกแข็ง สีเขียว สีเขียวเข้ม และสีเหลือง รสชาติอร่อย หวานฉ่ำน้ำ ในเนื้อมีเมล็ดสีดำขนาดเล็กแทรกอยู่
คุณค่าทางโภชนาการของแตงโม
เนื้อแตงโม 100 กรัม
- พลังงาน 30 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 7.55 กรัม
- น้ำตาล 6.20 กรัม
- เส้นใยอาหาร 0.40 กรัม
- ไขมัน 0.15 กรัม
- โปรตีน 0.61 กรัม
- น้ำ 91.45 กรัม
- วิตามินเอ 28 ไมโครกรัม 3%
- วิตามินบี 1 0.033 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 2 0.021 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี 3 0.178 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี 5 0.221 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 6 0.045 มิลลิกรัม 3%
- กรดโฟลิก 3 ไมโครกรัม 1%
- วิตามินซี 8.1 มิลลิกรัม 14%
- ธาตุแคลเซียม 7 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.24 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโพแทสเซียม 112 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุสังกะสี 0.10 มิลลิกรัม 1%
แหล่งข้อมูล : USDA Nutrient database
ประโยชน์และสรรพคุณของแตงโม
- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ช่วยดับกระหายคลายร้อน ทำให้ร่างกายสดชื่น
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยบำรุงสายตา
- ช่วยขับปัสสาวะและช่วยลดอาหารบวมน้ำได้
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นและเส้นผมให้แข็งแรงเงางาม
- ช่วยลดอาหารปวดเมื่อยจากการออกกำลังกายได้
- ช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยลดอาการติดเชื้อ
- ช่วยรักษาแผลในช่องปาก
- ช่วยลดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยป้องกันหวัด
ข้อควรระวังในการกินแตงโม
- การกินแตงโมในปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการจุกเสียดได้ ผู้ที่มีอาการท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย ควรหลีกเลี่ยง
- ผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดปริมาณการทานน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการทานแตงโม เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก
- ผู้ที่ตั้งครรภ์และเป็นโรคเบาหวานร่วมด้วย ไม่ควรทาน เพราะเสี่ยงที่จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
- แตงโมที่หั่นทิ้งไว้จนสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคและสิ่งสกปรก เสี่ยงต่ออาการท้องร่วง ท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษได้
กลืนเมล็ดแตงโม ได้ไหม ?
ในการทานแตงโม แน่นอนว่าจะต้องเจอเจ้าอุปสรรคเมล็ดเล็กๆ สีดำๆ ที่แทรกอยู่ในเนื้อฉ่ำสีแดง ถ้าขี้เกียจแยกออก แล้วกลืนลงไปพร้อมๆ กันเลย ทำได้ไหม ? เมล็ดจะไปโตในท้องหรือไม่ ?
ร่ายกายของเราไม่สามารถย่อยเมล็ดผลไม้ได้ เมื่อกลืนเมล็ดเข้าไป อาจติดค้างอยู่ภายในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะที่ตำแหน่งหูรูดของทางเดินอาหาร เช่น ตำแหน่งที่ลำไส้เล็กต่อเข้าลำไส้ใหญ่ จนอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ หรือหากกลืนเข้าไป เมล็ดไม่พ้นหลอดลม อาจเกิดอาการสำลักได้ แพทย์จึงไม่แนะนำให้กลืนเมล็ดผลไม้ และหากเผลอกลืนเมล็ดผลไม้ และมีอาการปวดท้องรุนแรงต้องมาพบแพทย์ทันที
ข้อมูลอ้างอิง : มูลนิธิหมอชาวบ้าน , pharmacy.mahidol.ac.th ,snc.lib.su.ac.th,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ประโยชน์ของ ผักผลไม้ 5 สี..สีไหนช่วยอะไรบ้าง คนรักสุขภาพต้องจด
- วิธีทำ น้ำแตงโมปั่น ไร้น้ำแข็ง สูตรเครื่องดื่มทำง่าย ชื่นใจ คลายร้อน!
- เปิดประโยชน์! 8 เห็ด ยอดนิยม เพื่อสุขภาพ อร่อยได้ ร่างกายแข็งแรง
- 15 สูตร เมนูผัดผัก กรอบอร่อยง่ายๆ ได้ประโยชน์แน่นจาน