ประโยชน์ของแตงโม ดีต่อร่างกาย สดชื่นหวานฉ่ำ คลายร้อนได้ดี

ประโยชน์ของแตงโม ดีต่อร่างกาย สดชื่นหวานฉ่ำ คลายร้อนได้ดี
nnanthisin
7 มีนาคม 2566 ( 13:00 )
17.6K

        ประโยชน์ของแตงโม ผลไม้คลายร้อน รสชาติหวานฉ่ำอร่อย ยิ่งแช่เย็นๆ อื้อหือฟิน! บอกเลยว่าภายใต้ความฉ่ำอร่อยนี้ แตงโมมีสรรพคุณดีต่อร่างกาย ซ่อนอยู่หลากหลายทีเดียวค่ะ คุณค่าทางโภชนาการของแตงโม ก็มีเยอะไม่แพ้ผลไม้สีแดงชนิดอื่นๆ เลย เข้าสู่ฤดูร้อนแบบนี้ ทานแล้วชื่นใจแน่นอน จะมีข้อควรระวังในการทานยังไงบ้าง ตามเรามาดูกันเลยค่ะ

 

 

ลักษณะของ แตงโม


        แตงโม (watermelon) มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาแถบทะเลทรายคาลาฮารี ในทวีปนี้จะมีแตงโมขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีหลากหลายพันธุ์ ทั้งมีรสหวาน รสจืด และรสขม แต่อย่างไรก็ตามประเทศจีนได้เริ่มปลูกแตงโมในคริสต์ศตวรรษที่ 10 และปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่ปลูกแตงโมมากที่สุดในโลก

         แตงโมเป็นไม้เถาอยู่ในตระกูลเดียวกันกับแตงกวา ลำต้นเป็นเถาเลื้อยแผ่ไปตามพื้นดิน ใบมีลักษณะเว้าลึก 3-4 หยัก ก้านใบยาว ทั้งเถาและใบมีขนอ่อนปกคลุม ผลของแตงโมงถูกพัฒนามาจากรังไข่ มีทั้งแบบกลม กลมรี และทรงกระบอก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 15-20 เซนติเมตร เปลือกแข็ง สีเขียว สีเขียวเข้ม และสีเหลือง รสชาติอร่อย หวานฉ่ำน้ำ ในเนื้อมีเมล็ดสีดำขนาดเล็กแทรกอยู่

 

 

คุณค่าทางโภชนาการของแตงโม

เนื้อแตงโม 100 กรัม

  • พลังงาน  30 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 7.55 กรัม
  • น้ำตาล  6.20 กรัม
  • เส้นใยอาหาร  0.40 กรัม
  • ไขมัน 0.15 กรัม
  • โปรตีน 0.61 กรัม
  • น้ำ 91.45 กรัม
  • วิตามินเอ 28 ไมโครกรัม 3%
  • วิตามินบี 1 0.033 มิลลิกรัม 3%
  • วิตามินบี 2 0.021 มิลลิกรัม 1%
  • วิตามินบี 3 0.178 มิลลิกรัม 1%
  • วิตามินบี 5 0.221 มิลลิกรัม 4%
  • วิตามินบี 6 0.045 มิลลิกรัม 3%
  • กรดโฟลิก 3 ไมโครกรัม 1%
  • วิตามินซี 8.1 มิลลิกรัม 14%
  • ธาตุแคลเซียม 7 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุเหล็ก 0.24 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุโพแทสเซียม 112 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุสังกะสี 0.10 มิลลิกรัม 1%

แหล่งข้อมูล : USDA Nutrient database

 

 

ประโยชน์และสรรพคุณของแตงโม

  1. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  2. ช่วยดับกระหายคลายร้อน ทำให้ร่างกายสดชื่น
  3. ช่วยลดความดันโลหิต
  4. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
  5. ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
  6. ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ
  7. ช่วยบำรุงสายตา
  8. ช่วยขับปัสสาวะและช่วยลดอาหารบวมน้ำได้
  9. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นและเส้นผมให้แข็งแรงเงางาม
  10. ช่วยลดอาหารปวดเมื่อยจากการออกกำลังกายได้
  11. ช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น
  12. ช่วยลดอาการติดเชื้อ
  13. ช่วยรักษาแผลในช่องปาก
  14. ช่วยลดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร 
  15. ช่วยป้องกันหวัด

 

ข้อควรระวังในการกินแตงโม

  • การกินแตงโมในปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการจุกเสียดได้ ผู้ที่มีอาการท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย ควรหลีกเลี่ยง
  • ผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดปริมาณการทานน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการทานแตงโม เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์และเป็นโรคเบาหวานร่วมด้วย ไม่ควรทาน เพราะเสี่ยงที่จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • แตงโมที่หั่นทิ้งไว้จนสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคและสิ่งสกปรก เสี่ยงต่ออาการท้องร่วง ท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษได้

 

 

กลืนเมล็ดแตงโม ได้ไหม ?

         ในการทานแตงโม แน่นอนว่าจะต้องเจอเจ้าอุปสรรคเมล็ดเล็กๆ สีดำๆ ที่แทรกอยู่ในเนื้อฉ่ำสีแดง ถ้าขี้เกียจแยกออก แล้วกลืนลงไปพร้อมๆ กันเลย ทำได้ไหม ? เมล็ดจะไปโตในท้องหรือไม่ ?

        ร่ายกายของเราไม่สามารถย่อยเมล็ดผลไม้ได้ เมื่อกลืนเมล็ดเข้าไป อาจติดค้างอยู่ภายในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะที่ตำแหน่งหูรูดของทางเดินอาหาร เช่น ตำแหน่งที่ลำไส้เล็กต่อเข้าลำไส้ใหญ่ จนอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ หรือหากกลืนเข้าไป เมล็ดไม่พ้นหลอดลม อาจเกิดอาการสำลักได้ แพทย์จึงไม่แนะนำให้กลืนเมล็ดผลไม้ และหากเผลอกลืนเมล็ดผลไม้ และมีอาการปวดท้องรุนแรงต้องมาพบแพทย์ทันที

 

ข้อมูลอ้างอิง : มูลนิธิหมอชาวบ้าน , pharmacy.mahidol.ac.th ,snc.lib.su.ac.th,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้