นมวัวดียังไง ประโยชน์ของนม ดื่มนมให้ถูกวิธี ดีต่อใจ แถมได้สุขภาพดี
ประโยชน์ของการดื่มนม กินนมแล้วดียังไง ? นมวัว ถือเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ถึงแม้ว่าหลายๆ คนอาจจะมีคำถามข้อนี้ติดอยู่ในใจ ว่าทำไมเราต้องดื่มนมกันตั้งแต่เกิดจนแก่ นอกจากในนมจะมีปริมาณแคลเซียมสูงแล้ว ยังมีเหตุผลอะไรอีก วันนี้เรารวม ประโยชน์ดีๆ ของการดื่มนม และการดื่มนมให้ถูกวิธี ถูกปริมาณ รวมไปถึงถูกเวลา บอกเลยว่านมเป็นเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์กับร่างกายเยอะมากๆ อ่านจบรับรองว่าต้องไปหาซื้อนมมาดื่มแน่นอนค่ะ
ดื่มนมแล้วดียังไง
นมวัว เป็นของเหลวสีขาวๆ ถือเป็นนมพื้นฐานที่ทุกคนต้องเคยดื่มกันมาตั้งแต่เด็ก นอกเหนือจากการดื่มนมแม่ นมวัว เป็นนมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะในนมวัวจะอุดมไปด้วยสารอาหารไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แคลเซียม วิตามิน น้ำ และเกลือแร่ต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในแต่ละวันเราจึงควรดื่มนมในปริมาณที่พอดีกับร่างกาย เพราะนอกจากนมจะช่วยทำให้อิ่มท้องได้แล้ว ยังช่วยสร้างกายเจริญเติบโตในเด็ก และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในผู้ใหญ่ได้อีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของนมวัว
นมวัวรสจืด 1 แก้ว (ประมาณ 200 ml)
- พลังงาน 133.4 kcal (พลังงานจากไขมัน 60 kcal)
- โปรตีน 6.6 กรัม
- ไขมันรวม (ไขมันอิ่มตัว) 7.78 (4.89) กรัม
- น้ำตาล 8.34 กรัม
- แคลเซียม 204.67 มิลลิกรัม
- โซเดียม 70 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของการดื่มนม
- ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเด็ก เพราะในนมจะมีสารอาหารอยู่ครบทั้ง 5 หมู่
- การดื่มนมจืดในเด็ก จะสามารถช่วยลดพฤติกรรมการติดรสหวานได้
- ไขมันจากนมจะช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย
- ช่วยเพิ่มมวลกระดูกในวัยเด็กและวัยรุ่น
- มีวิตามินบีช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน และโรคเบาหวาน
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค เสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย
- แคลเซียมในนมจะช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
- ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของฟัน ลดโอกาสการเกิดฟันผุ
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกเปราะ
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- มีวิตามินบี ช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อ
- มีโปรตีนสูงซึ่งส่งผลดีต่อระบบการสร้างเม็ดเลือด และกระดูก
- มีแลคโตสซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมองในเด็ก
- ช่วยกระตุ้นระบบประสาทให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
- ช่วยทำให้เลือดแข็งตัว และหยุดไหลได้เร็วขึ้น
- มีวิตามินที่ช้วยบำรุงเม็ดเลือดให้สมบูรณ์
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ปกติ
- ช่วยให้การทำงานของระบบขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันอาการท้องผูด มีส่วนช่วยในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
- มีแคลเซียมสูง มีส่วนช่วยเพิ่มระดับความสูง ให้เพิ่มขึ้นได้ในวัยเด็ก
ดื่มนมตอนไหนดีที่สุด
- ช่วงเวลา 07.00 - 09.00 น. ช่วงเวลาอาหารมื้อเช้า การดื่มนมในช่วงเวลานี้จะช่วยทำให้กระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารให้ดีขึ้น
- ช่วงเวลา 17.00 - 21.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพักผ่อน การดื่มนมที่มีวิตามิน C และ E แทนอาหารเย็น จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและหัวใจได้ดี
- ช่วงเวลา 21.00 - 23.00 น. การดื่มนมอุ่นๆ ในเวลานี้จึงเหมาะสมที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุด แต่ควรเลือกดื่มนมพร่องมันเนย เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณไขมันที่ไม่มากจนเกินไป
การเลือกนมให้เหมาะสมกับช่วงวัย
- วัยเด็ก (ช่วงอายุ 6-13 ปี) : เป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต เด็กวัยนี้จึงต้องการนมเต็มมันเนยที่มีส่วนผสมของสารอาหาร วิตามิน และการให้พลังงานที่สูง แต่ไม่ควรมีปริมาณน้ำตาลที่ไม่สูงจนเกินไป
- วัยรุ่น และวัยทำงาน (ช่วงอายุ 14-25 ปี และ 26-60 ปี) : เป็นช่วงวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตและใช้พลังงานสูง ทำให้ต้องการสารอาหารประเภทโปรตีน และวิตามินที่สูง แต่ไม่ควรเลือกทานนมที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันที่มากเกินไป เพราะจะส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้ ควรทานนมรสจืด หรือนมพร่องมันเนยแทน
- ผู้สูงอายุ (ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป) : เป็นวัยที่การทำงานและระบบเผาผลาญของร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพลง จึงควรเลือกดื่มนมที่มีแคลเซียมสูง เพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมรสหวานที่มีน้ำตาล และไขมันสูง เพราะอาจเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูงได้
อาการแพ้แลคโตส เกิดจากอะไร
อาการ แพ้น้ำตาลแลคโตส (Lactose Intolerance) เกิดจากการที่ร่างกายย่อยน้ำตาลแลคโตสที่อยู่ในนมวัวไม่ได้ ซึ่งจะแสดงอาการออกมาหลังจากดื่มนมวัว หรือรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมวัว เป็นกลุ่มอาหารที่เกิดจากความผิดปกติของทางเดินอาหาร มักพบมากในผู้ใหญ่มากกว่าเด็กเพราะเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะสามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้น้อยลง ซึ่งลักษณะของอาการจะมีดังนี้
- แน่นท้อง ท้องอืด
- ปวดท้อง ผายลมบ่อย
- คลื่นไส้ ท้องเสีย
- อาเจียน ถ่ายเหลว
วิธีแก้ปัญหา สำหรับผู้ที่แพ้น้ำตาลแลคโตส คือ การดื่มนมทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นนมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ หรือนมจากพืชอื่นๆ โดยเลือกนมที่มีการเสริมแคลเซียมเข้าไป เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอ
ข้อมูลอ้างอิง : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, ศูนย์นิเทศทางอาหาร สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร, องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลศิริราชปิยมาหาราชการุณย์
บทความที่คุณอาจสนใจ
- น้ำเต้าหู้ มีประโยชน์อย่างไร? ทำง่าย หาซื้อง่ายและข้อควรระวังในการดื่ม!!!
- 10 อันดับนมช็อกโกแลต ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด ดื่มง่าย มีประโยชน์ ปี 2023
- 16 นมทางเลือก นมเซเว่น 2021 ทางเลือกเพื่อคนรักสุขภาพ หาซื้อง่าย ใกล้บ้าน !