คอกาแฟต้องรู้! 15 เครื่องชงกาแฟ ครบจบทุกเครื่องมือ เปิด Home Cafe ได้เองที่บ้าน
เรียกว่าการชงกาแฟที่บ้าน กลายเ็นอีกหนึ่งอย่างที่คนไทยนิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ เราเลยไม่รอช้า รวบรวม 15 เครื่องชงกาแฟ ครบจบทุกเครื่องมือ เปิด Home Cafe ได้เองที่บ้าน บอกเลยว่าใครเป็นคอกาแฟต้องตามจด เพราะแต่ละชนิดมีวิธีการชง การทำต่างกัน และมีเสน่ห์ต่างกัน ใครอยากทำบ้านให้เป็นโฮมคาเฟ่เล็กๆ ทำกาแฟอร่อยๆ กินได้เองในทุกวัน ตามมาดูลิสต์ เครื่องชงกาแฟที่เราลิสต์มาให้ได้เลย ครบ!
เครื่องชงกาแฟ อุปกรณ์ทำกาแฟ เมนูกาแฟ
1. Cold brew
เรียกว่าถ้าพูดถึงกาแฟแนว Slow Bar ยังไงก็ต้องถึงนึกถึงกาแฟ Cold Brew ซึ่งเครื่องมือการทำกาแฟชนิดนี้คือการใช้น้ำแข็งเป็นหลัก แล้วให้น้ำเย็นไหลผ่านเมล็ดกาแฟแบบช้าๆ ซึ่งโดยปกติอาจจะใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อแก้วเลยทีเดียว ใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งรสชาติกาแฟชนิดนี้จะได้ความเย็นแต่รสชาติกาแฟยังคงเข้มเหมือนเดิม
2. Drip Coffee
Dip Coffee ก็เป็นอีกหนึ่งรสชาติกาแฟที่คนไทยนิยมไม่แพ้กัน โดยเครื่องมือการทำ Dip Coffee จะทำโดยการใช้น้ำร้อนผ่านผงเมล็ดกาแฟ กำเนิดจากประเทศเยอรมัน แต่คนญี่ปุ่นนำมาพัฒนาต่อ จนได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งวิธีการชงกาแฟดริปก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน มีอุปกรณ์หลักๆ คือ ถ้วยกลวยดริป, กระดาษดริป, โถสำหรับใส่กาแฟ, และกาดริป นั่นเอง
3. Moka pot
Moka Pot ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ชงกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน ต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอิตาลี จนกลายเป็นเครื่องมือชงกาแฟที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งเป็นการชงกาแฟ Espresso เพราะชงออกมา จะได้รสชาติเหมือนตอนชงกาแฟด้วย Espresso Machine โดยวิธีทำคือใช้น้ำร้อนและมีแรงดันผ่านผงกาแฟ ซึ่งก็จะได้น้ำกาแฟเพื่อไปทำเมนูต่างๆ ต่อไป
4. Syphon Coffee
Syphon Coffee ถือเป็นเครื่องชงกาแฟอีกหนึ่งชนิดที่เริ่มเป็นที่นิยมในไทยขึ้นเรื่อยๆ มักจะเจอได้ตามร้านกาแฟใหญ่ๆ วิธีการทำงานคือ ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นน้ำจะทำการดันตัวขึ้นไปด้านบนที่มีเมล็ดกาแฟคั่วบดอยู่ จากนั้นพอปิดไฟ น้ำจะค่อยๆ ไหลจากด้านบนลงมาด้านล่าง เป็นกาแฟ Syphon Coffee นั่นเอง
5. Robot Manual Espresso
Robot Manual Espresso อาจจะเป็นเครื่องชงกาแฟที่คนไทยไม่คุ้นเคยนัก เครื่องทำกาแฟชนิดนี้ ไว้ทำกาแฟ Espresso โดยเฉพาะ ใช้วิธีการทำแบบ manual หรือการใช้มือทำเอง โดยการใส่เมล็ดกาแฟลงไป เติมน้ำ จากนั้นก็ทำการคั้นน้ำกาแฟเข้มข้นลงมาในแก้ว เพื่อนำไปใช้ทำกาแฟในแบบอื่นๆ ได้ต่อไป
6. Aram Espresso
Aram Espresso ตอนนี้ถือเป็นเครื่องชงเอสเพรสโซแบบทำมือที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ และเริ่มเห็นได้ตามร้านกาแฟดังๆ ใหญ่ๆ ทั่วไป ด้วยการดีไซน์รูปทรงที่แปลกตาแต่คุณภาพโดนใจ ลักษณะคล้ายกระบอกมือหมุนสำหรับบดกาแฟ แต่จริงๆ แล้วสามารถสร้างแรงดันน้ำสูงสุดถึง 14 bar 'ครีม่า'ได้คุณภาพไม่ต่างจากช้อตจากเครื่องชงไฟฟ้าราคาสูงเลยทีเดียว
7. Aeropress Coffee
Aeropress Coffee เป็นการชงกาแฟแบบ French Press คือกาแฟแช่ผงกาแฟในน้ำร้อน และเมื่อครบเวลาจะใช้มือกดสร้างแรงดันในการรีดน้ำกาแฟออกมาทำให้ได้รสชาติเข้มข้นกว่า French press นั่นเอง โดยวิธีการชง Aeropress จะเป็นลักษณะการชง 2 แบบเข้าด้วยกัน ระหว่าง ชงกาแฟแบบ espresso และ filter
8. Staresso Coffee
Staresso Coffee เป็นเครื่องทำกาแฟระบบมือปั๊ม ใช้หลักการเดียวกันกับการทำ espresso โดยหลักการใช้แรงดัน ดันน้ำร้อนผ่านกาแฟ สกัดกาแฟออกมา ได้รสชาติเข้มข้น มีครีม่าด้านบน รสชาติของ shot และคุณภาพใกล้เคียงกับ espresso machine ตามร้านดังๆ เลยทีเดียว
9. Frensh Press Coffee
French Press เป็นอุปกรณ์การชงกาแฟจากฝรั่งเศส ใช้วิธีแบบแช่กาแฟให้ชุ่มน้ำ เพื่อสกัดน้ำกาแฟออกมา โดยการปล่อยน้ำให้ไหลผ่านกาแฟ ซึ่งจะทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น ถึงรสกาแฟแท้ๆมากกว่า จากนั้นกรองเอากากกาแฟออกจากน้ำ โดยใช้ตะแกรงเหล็กที่มีรูขนาดใหญ่ ปล่อยให้กาแฟไหลผ่านเข้าไปในแก้ว ทำให้น้ำกาแฟ และกากกาแฟเล็กน้อยผสมผสานกันอย่างลงตัว และได้ความเข้มข้นเป็นพิเศษนั้นเอง
10. Flair espresso
Flair Espresso เป็นการชงเอสเพรสโซดื่มเองที่บ้านแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า รสชาติและกลิ่นที่สกัดออกมาก็ใกล้เคียงกับเอสเพรสโซมากๆ โดยมีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วนคือ แรงดัน และ อุณหภูมิน้ำนั่นเอง โดยวัสดุหลักทำจากสแตนเลส ส่วนคันโยกผลิตจากอะลูมิเนียม ซึ่งอุปกรณ์นี้มีความสำคัญยิ่งในการผลิตเอสเพรสโซให้ได้รสชาติที่ดีมากขึ้น
11. Coffee maker
Coffee maker ถือเป็นเครื่องชงกาแฟทั่วไป ที่ชงง่ายและมีแทบทุกบ้าน ราคาย่อมเยาแถมหาซื้อง่าย เครื่องชงกาแฟชนิดนี้ไม่ได้มีวิธีที่เฉพาะตัวมาก เพียงแค่มีเมล็ดกาแฟบด เทใส่ซอง เทน้ำลงไป จากนั้นเสียบปลั๊ก กดปุ่มให้เครื่องทำงาน เท่านี้เราก็จะได้กาแฟดำจากเมล็ดกาแฟที่เราเลือกมาแล้ว เหมาะสำหรับคนที่เร่งรีบ และไม่ชอบความยุ่งยากนั่นเอง
12. ROK Presso
ROK Presso เป็นครื่องชงกาแฟแบบใช้แรงมือหรือ unplugged เพื่อใช้สกัดเอสเพรสโซ่ที่ทั้งเข้มข้นและหอมกรุ่นได้อย่างอร่อยมากๆ แม้จะหาซื้อไม่ง่ายแต่ขั้นตอนชงแสนง่าย โดยใช้แรงดันน้ำร้อนพุ่งผ่านกาแฟคั่วบด ค่อยๆ ใช้แรงมือกดคันโยกลงไปจนสุด ทำช้าๆ 2-3 ครั้ง จะทำให้น้ำร้อนจะพุ่งผ่านกาแฟบดด้วยแรงดันจากพลังมือที่กดโยกลงไป ได้เอสเพรสโซที่มีครีมาสีทองสวย ไม่ต่างไปจากเครื่องชงแบบไฟฟ้าเลย
13. Percolator coffee
Percolator Coffee เป็นการชงกาแฟโดยน้ำร้อนไหลเวียนผ่านผงเมล็ดกาแฟเมื่อน้ำเดือด ยิ่งต้มนานรสชาติของกาแฟจะ เข้มมาก โดยหม้อต้ม Percolator เหมาะกับการชงกาแฟ ครั้งล่ะมากๆ ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการทำกิจกรรมเดินป่า โดยใช้กับ เตาถ่าน เตาแก๊ส หรือ เตาต้มไฟฟ้า ได้ทั้งหมด สะดวก และทำง่ายมากๆ
14. Vietnamese Coffee
Vietnamese Coffee เป็นอีกหนึ่งกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยพอสมควร เป็นการชงแบบใช้ความร้อนผ่านผงเมล็ดกาแฟจากด้านบนสู่ด้านล่าง คล้ายกับการชงกาแฟดริป แต่ต่างกันที่ใช้อุปกรณ์น้อย เก็บง่าย พกพาสะดวก ราคาไม่แพง โดยคนเวียดนามจะใช้ชงพร้อมนมข้นหวานไปด้วยเลย รสชาติจึงจะคล้ายกาแฟโบราณบ้านเรานั่นเอง
15. Thailand coffee maker
ปิดท้ายด้วยเครื่องมือชงกาแฟแบบไทยแท้ ที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก แต่รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน การชงแบบไทยจะใช้น้ำร้อนผ่านผงเมล็ดกาแฟ โดยใช้ถุงผ้าเ็นตัวกลางในการกรอง โดยต้องใช้ประสบการณ์ในการชงพอสมควร และคนไทยนิยมชงคู่กับน้ำตาล นมข้นหวาน ได้รสชาติกาแฟเข้มตัดกับความหวานหอมของนมข้น ถือเป็นเอกลักษณ์กาแฟไทยเลยทีเดียว
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ระดับการคั่วกาแฟ คั่วอ่อน คั่วเข้ม คั่วกลาง ได้กาแฟรสชาติต่างยังไง ?
- เมนูกาแฟมีอะไรบ้าง? รวมเมนูกาแฟ และส่วนผสม อยากกินอะไร สั่งเลย ☕
- 10 ร้านเมล็ดกาแฟ ร้านกาแฟ เดลิเวอรี่ ฟินกับกาแฟพรีเมียม อร่อยได้ที่บ้าน ! ☕
- เมล็ดกาแฟมีกี่ชนิด ? อราบิก้า Arabica กับ โรบัสต้า Robusta ต่างกันอย่างไร
---------------------------
อัพเดทคาเฟ่สุดชิล รีวิวร้านอร่อยร้านดัง แจกสูตรอาหารเด็ดๆ
มาพูดคุยแชร์รูปยั่วน้ำลาย ให้สายกินต้องอิจฉา
ที่แอปทรูไอดี คลิกเลย > TrueID Food Community <