ดื่มด่ำ ค่ำคืนสุดโรแมนติก ที่ Attico กับ อาหารอิตาเลียน โฮมเมดดั้งเดิมจากอิตาลี

ถึงร้านอาหารอิตาเลียนในบ้านเราจะมีมากมายหลายร้านให้เลือกชิมตามใจชอบ แต่ยากมากจริงๆ ค่ะที่จะหา อาหารอิตาเลียน โฮมเมด และดั้งเดิมแบบต้นตำรับให้ได้ชิมกันสักครั้ง วันนี้เราเลยจะพาไปร้านอร่อยสมใจอยากกันกับอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ที่ Attico ห้องอาหารสุดโรแมนติก ชั้น 28 ของ โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพ ที่เราจะได้ทั้งสัมผัสกับอาหารต้นตำรับของอิตาลี และชมวิวสวยๆ ยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ อีกด้วยค่ะ

สำหรับคนที่เบื่อการจราจรที่คับคั่งในกรุงเทพฯ เราสามารถไปที่โรงแรมได้อย่างง่าย และสะดวกมากๆ ด้วยรถไฟใต้ดิน MRT ลงที่สถานีสุขุมวิท แล้วเดินต่อไปไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงโรงแรมแล้วค่ะ ห้องอาหาร Attico อยู่ที่ชั้น 28 ของโรงแรม แว่บแรกที่ประตูลิฟต์เปิด เรารู้สึกได้เลยว่า ที่นี่คือ ชนบทในอิตาลีเลยทีเดียว ด้วยการตกแต่งแบบสไตล์คันทรี่ ผนังอิฐโทนสีอุ่น และทางเดินที่รายล้อมด้วยถังไม้โอ๊กบ่มไวน์ค่ะ

บรรยากาศของห้องอาหาร ถึงแม้จะดูหรูหราแต่ก็มีกิมมิกตามธีมของชนบทสไตล์ทัสคานีของอิตาลี ทำให้ไม่รู้สึกเกร็ง หรือนั่งไม่สบายเลยค่ะ รูปสวยๆ ที่ติดตามผนัง โต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เน้นโทนสีอบอุ่นให้รู้สึกเหมือนเรานั่งทานมื้อเย็นที่บ้าน เหมาะกับการมาดินเนอร์ หรือพาครอบครัวมาอร่อยพร้อมหน้ากัน

และแน่นอนว่าเราจะได้อร่อยกับอาหารอิตาเลียนดั้งเดิมแท้ๆ ที่การันตีด้วยรางวัล Bangkok’s Best Restaurant Awards ที่ยกให้ที่นี่เป็นห้องอาหารที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ อีกด้วย

สำหรับเมนูในวันนี้แต่ละเมนูนั้นบอกเลยว่าทำจานต่อจานแบบโฮมเมด เราเริ่มจานแรกกันด้วย แรดิชิโอ รอซโซ (Radicchio Rosso, Maiale Affumicato E Prugne) สลัด แรดิชิโอ เนื้อหมูรมควัน กับพรุนอบแห้ง และซอสขิง

ด้วยกิมมิกที่เสิร์ฟมาพร้อมกับโหลดแก้วที่อบอวนไปด้วยควัน ทำให้จานนี้ทั้งน่าตื่นเต้น และน่าอร่อย เนื้อหมูรมควันนั้นก็มีกลิ่นไม้เป็นกลิ่นหอมๆ เตะจมูกทันทีที่ได้ชิม ซึ่งตัดรสกับความหวานของพรุนแห้ง และซอสขิงเผ็ดเบาๆ รวมถึงผักสดที่กรอบอร่อย เป็นจานเรียกน้ำย่อยได้ดีมากทีเดียวค่ะ

จานต่อมาเป็น แพพ้าเดล อัล รากู ดิ ซินกิเอล (Pappadelle Al Ragu Di Cinghiale) เส้นแพพ้าเดลแบบสด ปรุงกับหมูป่าต้มเปื่อย และซอสมะเขือเทศค่ะ จานนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารพื้นบ้านของแคว้นในอิตาลี โดยนำสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวอย่างของที่หาได้ในป่า หรือฟาร์ม มาปรุงอาหารให้อร่อยอย่างง่ายๆ

คอนเซ็ปต์ดีมาก แถมอร่อยสุดๆ เส้นสดมีความเหนียวนุ่ม หมูป่าที่เปื่อยยุ่ย และซอสมะเขือเทศที่ช่วยทำให้รสชาติของทุกอย่างกลมกล่อม ใครที่ชอบจานเส้น แนะนำให้มาลองด้วยตัวเองค่ะ

นอกจากพาสต้าที่เราเคยเห็นบ่อยๆ ในอาหารอิตาเลียนแล้ว ต้องบอกว่า Fagottini AINero Di Seppia จานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจานเส้นที่พิเศษสุดๆ และแปลกตาออกไป เพราะเส้นพาสต้าหมึกดำนั้นถูกแต่งให้เป็นทรงสามเหลี่ยมเหมือนห่อข้าวค่ะ ด้านในก็จะเป็นเนื้อปลากะพงขาว และมีหน่อไม้ฝรั่ง ราดด้วยซอสครีมจากชีสนมแพะ มีรสชาติที่ละมุนมากๆ

หลังจากที่ชิมอะไรเบาๆ ไปถึง 3 จานด้วยกัน ก็ขอมาลองจานหนักดูบ้างกับ ซีฟู้ด ซุป (Seafood Soup) ค่ะ จานนี้บอกได้เลยว่า คอซีฟู้ดต้องถูกใจแน่ๆ ด้วยซีฟู้ดอัดแน่นทั้ง กุ้ง หอยแมลงภู่ ปลาหมึก เนื้อปลากะพง ปรุงกับซอสไวน์ขาว และน้ำซอสสต๊อคซีฟู้ด

ความสดของอาหารทะเล ทำให้จานนี้มีรสชาติของทะเลแท้ๆ เลยล่ะค่ะ บวกกับน้ำซุปที่อร่อย ซดได้คล่องคอ อีกทั้งจานที่เสิร์ฟมาใหญ่มากๆ ทานคนเดียวไม่หมดแน่นอน แนะนำให้พาหวานใจมาอร่อยไปพร้อมกัน จะโรแมนติกสุดๆ

ต่อมาอีกจานด้วยเมนูอร่อยของคนชอบเนื้อหมู Filetto Al Lardo Di Colonnata จานนี้เป็นอีกจานที่เราแนะนำค่ะ เพราะเป็นเนื้อสันในหมูช่วงไหล่ นำมาหุ้มด้วยชิ้นส่วนพุง ราดด้วยซอสแสปนิช และชีสพาร์เมซาน พร้อมทั้งแอ๊ปเปิ้ลเขียว และไวน์เคียนติ เป็นอีกจานที่พิเศษมากๆ มีทั้งรสชาติของความหวาน ความฉ่ำของเนื้อหมู และรสชาติที่ได้จากแอ๊ปเปิ้ลเขียว

นอกจากซีฟู้ดที่สดมากๆ แล้ว จานต่อไปนี้ก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้กันค่ะ คอทโต้ ดิ แอกเนลโล (Cotolette Di Agnello) ซี่โครงแกะย่าง คู่กับหอมแดง และซอสไวน์แดง รวมถึงแรดิชิโออ่อนในน้ำส้มสายชูบัลซามิก

เนื้อแกะมีความนุ่มมากๆ เนื้อมีความฉ่ำ และเด้ง ไม่ต้องกังวลในเรื่องของกลิ่นไม่ดีของแกะเลยค่ะ เพราะจานนี้ไม่มีอย่างที่ว่าเลย และยิ่งได้ทานคู่กับซอสไวน์แดงแล้วยิ่งอร่อยสุดๆ เลยค่ะ เพราะตัวซอสดึงรสชาติอันกลมกล่อมของเนื้อแกะออกมาได้เป็นอย่างดี คนที่ชอบทานเนื้อแกะต้องไม่พลาดจานนี้เลยทีเดียวค่ะ

ปิดท้ายด้วยของหวานล้างปากตามคอนเซ็ปต์เดิมของเชฟที่อยากให้เราได้อร่อยกับอาหารพื้นบ้านของอิตาลีกันด้วยเมนู คันโนลี อัลลา ซิซีเลียนา (Cannoli alla siciliana) ขนมพื้นเมืองกรอบสอดไส้ด้วยริคอตต้า ชีส ผสมกับเนื้อส้ม ช็อคโกแลต และเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมถั่วพิสตาชิโอ

เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวเป๊ะๆ ตัวขนมกรอบอร่อย สอดไส้ครีมเบาๆ มีรสชาติสดชื่นของส้มผสมอยู่ คู่กับไอศกรีมถั่วพิสตาชิโอที่ไม่หนักมาก ล้างปากหลังมื้ออาหารเป็นอะไรที่ฟินมากๆ ค่ะ

วันนี้บอกเลยว่าแต่ละเมนูนั้นอร่อย และดีเยี่ยมมากๆ เพิ่งได้รู้สึกจริงๆ ค่ะว่า อาหารอิตาเลียนของแท้แบบต้นตำรับนั้นไม่ได้เลี่ยนอย่างที่คิด แถมยังอร่อย และเต็มไปด้วยศิลปะอีกด้วย ถ้าใครอยากจะลองชิมความลงตัวในฉบับดั้งเดิมของอาหารอิตาเลียนแล้วล่ะก็ อยากให้ที่นี่เป็นอีกตัวเลือกค่ะ รับรองว่า คุณจะได้เปลี่ยนมุมมองในอาหารอิตาเลียนไปตลอดกาลเลยทีเดียว

Attico Cucina Italiano
ชั้น 28 โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพ

489 สุขุมวิท ซอย 27 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

ห้องอาหารเปิดให้บริการ เวลา 12.00-14.30 น. (เซ็ตเมนูอาหารกลางวัน วันจันทร์-เสาร์) และ 18.00-23.00 น. (A la carte)

สำรองที่นั่ง หรือ รายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2302-3333

www.radissonblu.com/plazahotel-bangkok

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

และ แอปพลิเคชั่น