พาเลอร์ (PARLOUR) ร้านอาหารฟิวชั่นบรรยากาศโพรวองซ์ ที่ CDC เลียบด่วนรามอินทรา

พาเลอร์ (PARLOUR) ร้านอาหารฟิวชั่นบรรยากาศโพรวองซ์ ที่ CDC เลียบด่วนรามอินทรา
aichan
26 กรกฎาคม 2559 ( 08:27 )
14.6K

ไลฟ์สไตล์การเลือกรับประทานอาหารในปัจจุบัน นอกจากรสชาติต้องอร่อยถูกปากถูกใจ บรรยากาศก็มีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้น่าลิ้มลองมากขึ้น วันนี้เราจะพาไปร้าน พาร์เลอร์ (PARLOUR) ร้านอาหารนานาชาติ สไตล์ฟิวชั่น ไทย – ฝรั่งเศส – อิตาเลี่ยน – ญี่ปุ่น ในบรรยากาศแบบ “โพรวองซ์” เรียกได้ว่าสวยโรแมนติก เหมือนอยู่ฝรั่งเศส ร้านอาหารบรรยากาศดีแบบนี้ไม่ต้องไปไกล เพียงแค่มาที่ CDC เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา

 

 

ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาสู่ร้าน “พาร์เลอร์” (PARLOUR) บรรยากาศแรกที่สัมผัสได้ คือความอบอุ่นที่แทรกอยู่ในการตกแต่งอย่างเรียบหรู มู้ดแอนด์โทนของร้าน เป็นสีขาว ครีม ทั้งผนัง กำแพง เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ และแม้แต่แสงไฟสีทองนวล นอกจากนี้ยังเพิ่มสดชื่นด้วยต้นไม้ที่ถูกประดับตกแต่งอยู่ในมุมต่างๆ ตามสไตล์ “โพรวองซ์” ต้นแบบสวนสวยและธรรมชาติอันแสนสงบของเมืองเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ที่มักจะนิยมตกแต่งบ้าน หรือ อาคาร ต่างๆ ด้วยสีปูน หรือ สีดิน แบบ ดิบๆ ให้ ความรู้สึกได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

 

 

สำหรับความเป็นมาของร้าน คุณศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ เจ้าของร้านเล่าว่า พาร์เลอร์ (PARLOUR) เป็นร้านอาหารสไตล์ International Gourmet & Cuisine เสริฟอาหารรสเข้มข้นเหนือระดับ ทั้งไทย ญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน และฝรั่งเศส เกิดขึ้นจากความหลงรักในรสชาติอาหารของเจ้าตัว ซึ่งได้จากการเดินทางทำงานในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และมักได้ลิ้มลองอาหารชั้นเลิศ จึงเกิดไอเดียที่อยากรวบรวมความอร่อยมารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษให้นักชิมชาวไทยได้ลิ้มลอง โดยได้ร่วมมือกับเชฟมืออาชีพระดับโรงแรม 5 ดาว ที่บ่มเพาะประสบการณ์มากว่า 14 ปี คัดสรรสูตรอาหารเฉพาะ ปรุงด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูพิเศษทั้งคาว – หวาน กว่า 100 เมนู ให้นักชิมได้ลิ้มลอง

 

 

โดยเมนูไฮไลต์ที่ต้องลอง ได้แก่ ปลามูเล็ดเกร็ดกรอบ (ราคา 250 บาท) หรือปลาหมูสี เป็นปลาพื้นผิวทะเลตามฤดูกาล ตระกูลเดียวกับปลากระบอกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อสีขาว ขั้นตอนการทำ นำปลามูเล็ด ปลาทะเล เนื้อปลามีความหวานอยู่ในตัว จากนั้นนำมาแร่ปลาติดเกล็ดและขูดให้เกล็ดตั้งขึ้นเป็นชั้นๆ ด้วยเทคนิคพิเศษ จากนั้นตั้งน้ำมันให้เดือดในอุณหภูมิ 200 องศา และนำปลาลงไปผ่านน้ำมัน หรือทอด เพียง 1 นาที แล้วนำขึ้นมาให้สเด็ดน้ำมันเป็นเวลา 30 วินาที ได้ปลาทอดที่มีความกรุบกรอบจากเกล็ดปลาและความหวานฉ่ำจากเนื้อปลา เพิ่มความสดชื่นด้วยการเสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดเสาวรสและผลไม้สดตามฤดูกาล

 

 

เห็ดทอดพาร์เลอร์ (ราคา 150 บาท) เห็ดอวบๆ คลุกแป้ง ทอดในน้ำมันจนเหลืองทอง เป็นเห็ดหอมทอดกรอบสูตรพิเศษ กรอบนอกนุ่มใน รับประทานคู่กับน้ำสลัดมายองเนสกระเทียม ซึ่งตัดกับความมันและความหอมของเห็ดอย่างลงตัว

 

 

สปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำผัดกุ้งลายเสือต้มยำ (ราคา 430 บาท) กุ้งลายเสือย่างกับสปาเก็ตตี้หมึกดำผัดกับซอสต้มยำผสมสมุนไพรสับอย่างละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้สัมผัสถึงรสชาติของต้มยำตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย

 

 

ปลาแซลมอนทาร์ทาร์ขนมปัง (ราคา 240 บาท) ยำปลาแซลมอนสไตล์ฝรั่งเศส ผสมผสานรสชาติแบบญี่ปุ่นจากซอสยูสุที่มีความเปรี้ยวมะนาวผสมความเค็มจากบ๊วย ซึ่งจะต้องคัดเลือกปลาแซลมอนสดที่มีคุณภาพดีหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ทำซอสโดยการใส่ซอสยูสุ 25 มิลลิลิตร ผสมกับมายองเนส 9 กรัม และเกลือเล็กน้อย คลุกให้เข้ากับเนื้อปลาแซลมอน โดยใช้เวลาไม่นานเพื่อไม่ให้เนื้อปลาช้ำ รับประทานกันขนมปังกรอบ เข้ากันพอดี

 

 

ยำระเบิดจักรวาล (ราคา 250 บาท) ยำรสจัดจ้าน ที่จัดเต็มวัตถุดิบหลากหลาย ทั้ง ปลา กุ้ง หมึก ไข่เยี่ยวม้า หนังปลากรอบ เป็นต้น

 

 

ใครที่ชอบรับประทานล็อบสเตอร์ แนะนำเมนู ล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ (ราคา 1,600) ทำแบบสไตล์คลาสสิค ประกอบด้วยล็อบสเตอร์นำเข้าจากฝรั่งเศส (French Lobster ) ผักโขม และเห็ดผัดเครื่องเทศ (Saute Spinach and Mushroom) ราดด้วยซอสฮอลแลนเดซ (Hollandaise Sauce) นำเข้าเตาอบจนสีเหลืองทอง เสิร์ฟคู่กับซอสพอมเมอรี่ มัสตาร์ด (Pommery Mustard Sauce) ที่มีส่วนผสมของซอสครีมกุ้งเข้มข้น เห็ด และเนื้อล็อบสเตอร์อย่างกลมกล่อม

 

 

ปิดท้ายด้วยของหวาน มูสมะม่วงกับเยลลี่นมและเสาวรส (ราคา 160 บาท) มูสมะม่วงปั่นรสชาติเปรี้ยวหวาน เพิ่มความหลากหลายโดยการใส่เยลลี่นม หรือผลไม้ตามฤดูกาลลงไป พานาคอตต้า (ราคา 160 บาท) ทำแบบสไตล์ยุคใหม่ นุ่มหอมละมุนละลายในปาก ประกอบด้วยวิปปิ้งครีม น้ำตาล เพิ่มความเข้มข้นด้วยคาราเมล ซอสสตรอว์เบอร์รี่หอมหวานสุดอร่อย พร้อมกับสตรอว์เบอร์รี่สด

นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มให้เลือกกว่า 100 ชนิด อาทิ อเมทิส (ราคา 190 บาท) ค็อกเทลสีม่วง ส่วนผสมของวอดก้าร์ และบรั่นดี เพิ่มความหวานและเปรี้ยวด้วย น้ำแครนเบอร์รี่ น้ำมะนาว ส่วนใครที่ไม่ถนัดแอลกอฮอล์ แนะนำ บลู ฮาวาย (ราคา 170 บาท) ม็อคเทล ที่มีส่วนผสมของน้ำสับปะรด น้ำมะนาว และน้ำเชื่อมเพิ่มความหวานสดชื่น

 

 

พาร์เลอร์ (PARLOUR)

ชั้น 1 อาคารอี คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา

เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่ เวลา 11.00 – 23.00 น.

โทร.0-2102-2566 และ 0-2102-2599

https://www.facebook.com/Parlour-by-the-Scenery

 

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่


Facebook

Twitter


และ แอปพลิเคชั่น


TrueID Application

Add friend ที่ ID : @TrueID

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

ยอดนิยมในตอนนี้