Peppina พิซซ่าอิตาเลียน สูตรดั้งเดิม จากนาโปลีสู่ท่ามหาราช

เอ่ยถึงร้าน Peppina บรรดาคนรักพิซซ่าน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อลือชามาตั้งแต่สาขาสุขุมวิทถึงเรื่องรสชาติความเป็นออริจินัลแบบอิตาเลียน และน่ายินดีจริงๆ ที่เราไม่ต้องฝ่ารถติดเข้าไปในเมืองแล้ว เพราะ Peppina มาเปิดสาขาอยู่ที่ท่ามหาราช เปิดโอกาสให้เราได้ลิ้มรสพิซซ่าพร้อมกับวิวสวยริมแม่น้ำเจ้าพระยากันแล้ว

ชื่อร้าน Peppina นั้นมาจากชื่อคุณยายของเชฟ Paolo Vitaletti ซึ่งเป็นครอบครัวที่คุ้นเคยกับการทำอาหารอิตาเลียนทางใต้แถวเมืองนาโปลี อันเป็นหนึ่งในเมืองที่รุ่มรวยทางด้านวัฒนธรรมอาหาร ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรีกถึงโรมัน เน้นคุณภาพวัตถุดิบมากกว่าวิธีการปรุง และแน่นอนว่าที่ Peppina ก็รับจิตวิญญาณนี้มาอย่างเต็มเปี่ยมเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากๆ ของร้านนี้คือเตาอบพิซซ่าแบบดั้งเดิมที่ตั้งอยู่กลางร้านนี่แหละ แม้จะเป็นเตาเล็กๆ แต่ทำให้ได้พิซซ่าที่เนื้อเบา เหนียวเล็กน้อย กรอบหน่อยๆ และขนาดไม่ใหญ่มากเลยทำให้เราไม่ลังเลที่จะสั่งมากินกันสัก 2 ถาดเป็นอย่างน้อย ยิ่งได้นั่งดูเขาเอาแป้งพิซซ่าเข้าเตาอบสดๆ แล้วยิ่งเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี

วกกลับมาที่บรรยากาศร้านกันหน่อย สไตล์การตกแต่งร้านออกแนววินเทจ ผนังอิฐสีขาว และโต๊ะหินอ่อน นั่งแล้วอบอุ่นสบายใจ ด้วยความที่อยู่ริมน้ำด้วยยิ่งชวนให้อยากนั่งนานๆ จิบไวน์ชมแสงสียามค่ำคืนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไวน์ของร้านนี้จะใช้ไวน์นำเข้าจากอิตาลี และฝรั่งเศสเป็นหลัก (มีไวน์ขาวออร์แกนิคจากเยอรมนีให้ลองด้วยนะ) ซึ่งแมตช์เข้ากับอาหารของทางร้านได้อย่างดี

ระหว่างรอพิซซ่าในเตาอบ หาเมนูเบาๆ แก้หิวกันก่อนกับ Beetroot Salad (230 บาท) จานนี้โชว์ความสดของวัตถุดิบแน่นอน ด้วยบีทรูทเนื้อแน่นฉ่ำน้ำ ผัดสลัด มะเขือเทศ เพิ่มรสชาติด้วยชีสนมแพะ และถั่ววอลนัทกรุบกรอบ น้ำสลัดรสเปรี้ยวเพิ่มความสดชื่นในทุกคำ

สำหรับเครื่องดื่ม วันนี้เราลองสั่ง Raspberry & Lime และ Passion Fruit & Lime (100 บาท) คู่หูสีสวย รสเปรี้ยวซ่า ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานทั้งวันไปจนหมด

ขึ้นชื่อว่าอาหารอิตาเลียน คงไม่สมบูรณ์แน่ๆ หากไม่มีเมนูพาสต้าร่วมอยู่ด้วย สำหรับจานนี้ Papardelle with Sausage & Mushroom (380 บาท) นอกจากจะเด่นเรื่องสีที่สะดุดตาเรามากๆ จากซอสมะเขือเทศสดรสอร่อยแล้ว เส้น Papardelle พาสต้าเส้นบางนี้ยังเป็นเส้นสดด้วย เนื้อแป้งเนียนนุ่มกลิ่นหอม ที่เข้ากันได้ดีกับส่วนประกอบทุกอย่างในจาน

และแล้วพระเอกของวันนี้ก็ปรากฎโฉม Pizza Truffle (480 บาท) กรุ่นจากเตา ที่กลิ่นหอมหวลด้วย Parmesan Cheese, Taleggio Cheese, น้ำมันมะกอก และเห็ด Truffle ส่วนผสมที่ไม่มากมายแบบนี้ที่เป็นเอกลักษณ์ของนาโปลี แม้ไม่เยอะแต่ส่วนผสมทุกอย่างช่วยเพิ่มกลิ่น และรสของตนเองให้เด่นขึ้นมา เนื้อแป้งพิซซ่ามีรอยไหม้สวยงามพอดีๆ ขอบกรอบ เนื้อบาง และหนึบเล็กน้อย รวมๆ แล้วสมคำร่ำลือจริงๆ คำแนะนำสำหรับการกินพิซซ่าอีกอย่างก็คือรีบกินตอนร้อนๆ เพิ่งออกจากเตา

ตบท้ายอีกสักจาน กับ Spicy baby Chicken with Smoked Paprika (420 บาท) ที่เราแอบเซอไพรส์เล็กๆ เพราะรสชาติจัดจ้านมาก หมักเครื่องเทศจนเนื้อนุ่ม เหนียว และมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน บีบเลมอนลงไปด้วยยิ่งซี๊ดสะใจ

ใครอยากลิ้มลองพิซซ่าอิตาเลียนแท้ นาโปลีสไตล์ แต่ไปสุขุมวิทไม่ถนัด นี่เป็นโอกาสอันดีแล้วครับ ขับรถมาได้เลยที่ท่ามหาราช มีอาคารจอดรถพร้อม แถมด้วยบรรยากาศสบายริมแม่น้ำ รับรองประทับใจ

Peppina (ท่ามหาราช)

ที่อยู่ : 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เปิดบริการ : 10.00 น. – 22.00 น.

เว็บไซต์ : www.facebook.com/peppinapizza

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

และ แอปพลิเคชั่น