แหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่! 7 ร้านอร่อย Mahanakhon Eatery รวมความอร่อย 7 สไตล์ ไว้ในที่เดียว

แหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่! 7 ร้านอร่อย Mahanakhon Eatery รวมความอร่อย 7 สไตล์ ไว้ในที่เดียว
nnanthisin
9 ธันวาคม 2564 ( 15:00 )
1.1K

        สายกินต้องอัพเดท! กับแหล่งแฮงค์เอ้าท์แห่งใหม่ใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลม Mahanakhon Eatery ที่ได้รวบรวม ร้านอาหาร และคาเฟ่สุดฮิป 7 ร้าน 7 สไตล์ มาไว้ในที่เดียว ในสโลแกน Eat. Meet. Joy. ซึ่งบอกเลยว่าถูกใจสายกินสุดๆ ไปเลยค่ะ เพราะมีบริการ สั่งครบ จบ และจ่ายในที่เดียว ไม่ว่าจะเลือกนั่งโซนไหนร้านไหน ก็สามารถเลือกสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้จากทั้ง 7 ร้าน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตในเมืองแบบนี้ แน่นอนว่าทางเราจะไม่พลาดที่จะพาไปตะลุยกินกันค่ะ ตามเรามาเช็คอินกันเลยดีกว่าค่า

 

 

ร้านอาหาร และคาเฟ่ Mahanakhon Eatery


1. Isabella Italian Rotisserie by ANDREAS

(อิซาเบลล่า อิตาเลี่ยน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย)

 

 

        เริ่มเช็คอินกันที่ร้านแรก อิซาเบลล่า อิตาเลี่ยน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย บอกเลยว่าคนรักอาหารอิตาเลี่ยนต้องห้ามพลาด! เพราะที่นี่คือร้านอาหารแห่งใหม่ของเชฟอันเดรีย โบนิฟาโช เจ้าของร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังของเมืองหัวหิน นั่นเองค่ะ สำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์กับอาหารอิตาเลี่ยนสูตรต้นตำรับต้องมาที่นี่เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า โฮมเมดพาสต้า ทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบมาประกอบอาหารอย่างดี ได้ลิ้มรสชาติตามแบบฉบับอาหารอิตาเลี่ยนสูตรดั้งเดิมแน่นอน

 

 

        สำหรับเมนูแนะนำ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มีเฉพาะที่ Mahabakhon Eatery เท่านั้น ก็คือ Italian style whole roasted organic chicken หรือ ไก่ออร์แกนิกอบสไตล์อิตาเลี่ยน เนื้อไก่ฉ่ำอร่อย ด้วยการหมักจากเครื่องเทศอิตาเลี่ยนข้ามคืน แล้วนำไปอบในเครื่อง Rotisol ที่นำเข้าพิเศษจากฝรั่งเศส เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่ง เครื่องเคียง ซอสเกรวี่ไก่ และน้ำจิ้มแจ่ว ต้องบอกเลยว่าเป็นรสชาติสไตล์อิตาเลี่ยน ที่ถูกปากถูกใจคนไทยสุดๆ ค่ะ สามารถเลือกได้ทั้งแบบครึ่งตัว และทั้งตัว ทานได้แบบเพลินๆ จนเกลี้ยงจานไม่รู้ตัวเลยล่ะค่า

 


2. เอล มาร์ (el mar)

 

 

        เอาใจคนรักอาหารทะเล ด้วยร้าน เอล มาร์ ซึ่งคำว่า el mar ชื่อร้านแปลว่า ทะเล ในภาษาสเปน นั่นเองค่ะ เป็นร้านซีฟู้ด บรรยากาศสบายๆ สไตล์บิสโทรแบบฝรั่งเศส เรียบง่ายสะอาดตา โดยตัวร้านดีไซน์ให้คล้ายกับบรรยากาศของอู่ต่อเรือเก่าในหมู่บ้านชาวประมง อีกหนึ่งความน่าสนใจก็คือ Open-Kitchen ที่เราสามารถชมการปรุงอาหารจากเชฟได้อย่างใกล้ชิด แสงในร้านก็สวย โทนสีสบายตา รับรองว่าถ่ายรูปสวยถูกใจสายโซเชียลค่ะ

 

 

 

        เมนูของทางร้านเป็นอาหารทะเลเกรดพรีเมียมสดใหม่จากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น หอยนางรมสด หอยแมลงภู่ กุ้ง ล็อบสเตอร์ และอาหารทานเล่นขนาดพอดีคำชนิดต่างๆ มาเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มหลากหลายชนิดให้เลือกตามความชอบ เมนูที่เราพามาชิมวันนี้ก็คือ Fried Oysters (หอยนางรมชุบแป้งทอด), Chorizo Oysters (หอยนางรมอบโชริโซ่) และ Lobster Roll (ล็อบสเตอร์โรล) รสชาติอร่อยดีต่อใจ ทั้งหอยนางรมและล็อบสเตอร์สดใหม่ ถูกใจสายซีฟู้ดแน่นอนค่า

 


3. Avril Gourmet & Bordier Selection

(เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น)

 

 

        เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมจากแหล่งผลิตชั้นยอดในประเทศฝรั่งเศส และยุโรป ใครที่ชอบทานแฮม ไส้กรอก และชีสนานาชนิด มาที่นี่รับรองว่าไม่มีผิดหวังค่ะ เพราะเป็นแหล่งที่ได้รับความไว้วางใจจากร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำในประเทศไทย ให้เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอก แฮม เนื้อสัตว์ น้ำมันมะกอก แยม และเลอ เบอร์ บอร์ดิเยร์ (Le Beurre Bordier) เนยชื่อดังระดับโลก

 

 

        เมนูแนะนำที่เราจะพามาชิมในวันนี้ นั่นก็คือ Pate en croute with foie gras เสิร์ฟมาแบบ Charcuterie พร้อมแฮม ชีส เครื่องเคียงต่างๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่านอกจากหน้าตาที่อลังการแล้ว รสชาติและความฟินช่างดีต่อใจเหลือเกินค่ะ Charcuterie สุดหรู มีส่วนผสมของตับห่าน เป็ด อกไก่ และหมู ถูกยัดไส้ด้วยถั่วพิสทาชิโอ และแครนเบอร์รี่เชื่อมบรั่นดี และถูกห่อด้วยแป้งที่ฉ่ำเนย กินคู่กับชีสได้หลากหลายชนิด เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายกินตัวจริงจะพลาดไม่ได้แล้วค่า

 

4. Meat & Spice by Another Hound Café

(มีทแอนด์สไปซ์ บาย อนาเธอร์ ฮาวด์ คาเฟ่)

 

 

        มาถึงแบรนด์น้องใหม่ Meat & Spice by Another Hound Café ที่มาในคอนเซปต์ “เวสเทิร์นไทยทวิสต์” ซึ่งเกิดจากการผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตกกับความเผ็ดร้อนในแบบไทย จนออกมาเป็นเมนูสุดโมเดิร์นรสชาติจัดจ้าน ตัวร้านบรรยากาศดี โล่งโปร่งสบาย ดีไซน์ได้อย่างโมเดิร์นลงตัว เหมาะกับไลฟ์สไตล์สายกินที่อยากมานั่งแฮงค์เอาท์ใจกลางเมืองค่ะ

 

 

        สำหรับเมนูที่เราอยากให้ลองไปชิมกัน นั่นก็คือ ริบอาย ข้าวจี่ปลาร้า (Rib-Eye Khaojee E-Sarn) ซึ่งเป็นเมนูที่ผสมผสานระหว่าง ความเป็นตะวันตกและความเป็นไทยเข้าด้วยกัน กับการนำออสเตรเลียนริบอาย มีเดียม มาเสิร์ฟพร้อมข้าวจี่ไส้ปลาร้า ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกมะเขือเทศรสจัดจ้าน มะเขือเทศเถาวัลย์ สด และ Maldon salt จากประเทศอังกฤษ

 

 

        และอีกหนึ่งเมนูเด็ด แซลมอนกงฟีต์ซอสต้มข่า (Salmon Confit in Snow Ocean) สเต็กปลาแซลมอนเสิร์ฟในจานใบบัว พร้อมซอสต้มข่าที่เคี่ยวผสมเหล้าเบอร์เบินชั้นดี ช่วยทำให้รสชาติของซอสให้โดดเด่น และกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น และปิดท้ายด้วยการหยดน้ำมันผักชี และมันกุ้ง ทำให้สมกับคอนเซปต์ร้าน Western Thai Twist อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะค่ะ

 

5. ICI (อีซี่)

 

 


        ขอเอาใจคนรักขนมหวานกันบ้างค่ะ กับร้าน ICI หรือที่อ่านว่า อีซี่ ร้านขนมหวานและเบเกอรี่ บอกเลยว่าใครเห็นตัวขนมก็ต้องหลงรัก เพราะเชฟเปเปอร์ อริสรา จงพาณิชกุล หรือเชฟขนมหวานชื่อดังของไทย ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสให้มีหน้าตาน่ารัก ดูสนุกสนาน สามารถเข้าถึงง่ายทุกคน และมีรสชาติที่อร่อย เหมือนกับเป็นงานศิลปะร่วมสมัยที่สามารถทานได้นั่นเองค่ะ

 

 

        สำหรับเมนูน่ารักๆ แบบที่สายขนมหวานต้องกดเลิฟ เราจะพาชิม Chilli Crab (ชิลลี่ แครป) เป็นเมนูที่ได้นำเสนอในงานประกาศรางวัลมิชลิน ไกด์ สิงคโปร์ 2019 เป็น Calamansi Mousse หรือ มูสส้มจี๊ด ไส้มะพร้าวอ่อน ที่ถูกทำในรูปทรงของก้ามปู มีฐานกรุบๆ จากน้ำตาลมะพร้าว ทานคู่กับซอสคาราเมล กาแฟ เจลพริก เค้กมะเขือเทศ และไข่เค็ม รสชาติเปรี้ยวนิดๆ แต่สดชื่นมากทีเดียวค่ะ

 

 

6. Other Café

(ออเทอร์ คาเฟ่)

 

 

        มาถึงคิวของสายคาเฟ่กันแล้วค่ะ กับร้าน Other Café ซึ่งเป็นเหมือน Café Community สไตล์มินิมอล ที่คนรักกาแฟต้องห้ามพลาด สามารถมานั่งคุยเรื่องกาแฟได้อย่างเพลินๆ และชิมรสชาติของกาแฟได้จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะชอบคั่วเข้ม กลาง หรืออ่อน ก็สามารถเล่ารสชาติที่ต้องการได้ ด้วยความเป็น Coffee Specialty ทำให้เหมือนเจอเพื่อนที่รู้ใจได้จากที่นี่เลยล่ะค่ะ

 

 

 

        สำหรับเมนูที่เราจะพามาดื่มด่ำในวันนี้ก็คือ The Cloud ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้าที่ขนานคู่กับ คิง เพาเวอร์ มหานคร ถ่ายทอดออกมาผ่านกาแฟหอมละมุนผสมกับน้ำแอปเปิ้ลและไซรัปเฮเซลนัท ท็อปด้วยนม วิปครีม และ Creme Brulee syrup ตีให้ขึ้นฟูเป็นฟองโฟมนุ่มละเอียด เมื่อได้ลองดื่มแล้วให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานกาแฟคู่กับขนมชิ้นโปรด ฟีลจบครบในแก้วเดียวเลยค่ะ ปล.แอบกระซิบว่าเมนูนี้มีเฉพาะที่สาขา Mahanakhon Eatery เท่านั้นน้า เพราะฉะนั้นคอกาแฟจะพลาดไม่ได้เลยค่า

 

7. Maison du vin

(เมซอง ดู เเวงน์)

 

 

        ปิดท้ายการแฮงค์เอาท์ด้วย Maison du vin ไวน์เลาจน์สาขาใหม่ล่าสุดโดย เดอะ ไวน์ เมอร์ชานส์ กับครั้งแรกของการเนรมิต Wine Bar ในสไตล์ของโรงบ่มไวน์ฝรั่งเศส พร้อมด้วยที่นั่งสบายๆ แต่ดูหรูหรา เหมาะกับการมานั่งแฮงค์เอาท์เพลินๆ ได้ตลอดวัน ถ่ายรูปสวยด้วยแสงไฟสลัวๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริงค่ะ

 

 

🍽 ข้อมูล Mahanakhon Eatery

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/fvwEkns8AJVWBJRZ9
  • ที่อยู่ : ชั้น G อาคาร มหานคร คิวบ์ 96 ถ. นราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 
  • ร้านเปิดบริการ : 07.00 - 22.00 น. 
  • โทร : 0-2677-8721
  • ที่จอดรถ : มี
  • เว็บไซต์ : https://kingpowermahanakhon.co.th/

 

---------------------------

 

อัพเดทคาเฟ่สุดชิล รีวิวร้านอร่อยร้านดัง แจกสูตรอาหารเด็ดๆ
มาพูดคุยแชร์รูปยั่วน้ำลาย ให้สายกินต้องอิจฉา
ที่แอปทรูไอดี คลิกเลย > TrueID Food Community <

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้