Stage (สตาช) นำเสนอเมนูใหม่ 'Stage Menu 8.0' กับการคัดสรรวัตถุดิบประจำซีซั่นที่ดีที่สุด
Stage (สตาช) ร้านอาหาร casual fine dining สไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย ที่ผสมผสานเทคนิคการทำอาหารจากทั่วทุกมุมโลกโดย เชฟเจย์ - สายนิสา แสงสิงแก้ว (chef / owner) และทีม นำเสนอเทสติ้งเมนูใหม่ล่าสุด ‘Stage Menu 8.0’ ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของการรังสรรค์รสชาติอาหารอันแปลกใหม่ ซับซ้อน แต่กลมกล่อมลงตัว และการเล่นกับสีสันอันจัดจ้านในการครีเอทตกแต่งแต่ละเมนู จนแต่ละจานนั้นสวยงามเปรียบเสมือนชิ้นงานศิลปะเลยทีเดียว อีกทั้งยังคงเน้นการใช้วัตถุดิบประจำซีซั่นชั้นเลิศที่เสาะแสวงหาจากทั่วทุกมุมโลกเช่นเคย ทั้งจากทวีปยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย
เป็นการกลับมาอีกครั้งของเมนูใหม่ ‘Stage Menu 8.0’ ที่เรียกได้ว่า Stage (สตาช) ยังคงสั่งสมประสบการณ์และเติบโตขึ้นไปอีกขั้น นำเสนอและ explore รสชาติและรสสัมผัสของอาหารอันโดดเด่นแปลกใหม่ ผสานกับลูกเล่นเฉพาะตัว ความโมเดิร์นทวิสต์ และความสนุกสนานที่สอดแทรกลงไปในอาหารทุกจาน ยังคงเน้นการใช้เทคนิคอันซับซ้อนและชูวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมชั้นยอดให้มีความโดดเด่น ผ่านการคิดสร้างสรรค์มาอย่างละเมียดละไม เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์อันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบฉบับของ Stage (สตาช) ที่ยากจะมีใครเหมือน อาหารแต่ละจานจึงถูกถ่ายทอดอย่างสวยงามและแฝงไว้ด้วยรายละเอียดมากมาย ซึ่งมีเมนูไฮไลท์ประจำซีซั่น อาทิ
Cherry Gazpacho / Foie Gras Ice Cream / Green Tomato & Basil เริ่มต้นด้วยเมนูไลท์ๆ ในบรรยากาศเสมือนช่วงซัมเมอร์ของประเทศฝรั่งเศสด้วยซุปเย็นเชอร์รี่กัซปาโช มาพร้อมไอศกรีมฟัวกราส์ ตัดด้วยความกรอบสดชื่นของมะเขือเทศเขียวและเบซิลครัมเบิ้ล เสิร์ฟมาใน ice bowl ทรงสวย
Red Shrimp / Pickled Beetroot Parmesan / Caviar เมนูที่เน้นความ sustainable และการใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบหลักให้ได้ประโยชน์สูงสุด กุ้งแดงอาร์เจนตินาดิบที่เบิร์นด้านนอกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอม ท๊อปด้วยเจลลี่ที่ทำจากเปลือกกุ้ง และคาเวียร์ เข้ากันได้ดีกับซอส Pickled Beetroot Parmesan ทานคู่กับหัวกุ้งทอดกรอบที่เข้ากันเป็นอย่างดี
Abalone / Maitake / Seaweed Beurre Blanc อีกหนึ่งสุดยอดวัตถุดิบอย่างหอยเป๋าฮื้อที่ถูกนำมาปรุงด้วย เทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว เสริมด้วยวัตถุดิบหายากของประเทศญี่ปุ่นที่กำลังอยู่ในฤดูกาลอย่างเห็ดไมตาเกะ ทานคู่กับซอสสาหร่ายเบอร์บล็อง สาหร่ายคอมบุ ไข่ปลาเทราต์รมควัน เพื่อสื่อถึงท้องทะเล
Lamb Floss / House Curd / Potatoes เมนูเนื้อแกะที่ถูกนำมาปรุงและเสิร์ฟอย่างแปลกใหม่ไม่น่าเบื่อ เนื้อแกะนำมาตุ๋น ฉีกเป็นเส้น และทอดกรอบจนเป็นเหมือน Lamb Floss ทานคู่กับ glazed potatoes และซอสที่ผสมกันอย่างกลมกล่อมลงตัวจากเคิร์ด (curd) ที่ทางร้านทำขึ้นเอง, เวย์ (whey), และ lamb jus ให้รสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อนอย่างคาดไม่ถึง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจานที่ทานแล้วสนุกและจะทำให้ลืมรสชาติของเนื้อแกะที่เคยลิ้มลองมาก่อนเลยทีเดียว
Busyu Wagyu A3 / Smoked Carrot / Café de Paris อีกหนึ่งเมนูที่ถ่ายทอดความเป็น traditional twist ของ Stage (สตาช) ได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเมนูยอดนิยมอย่าง steak frites ตามร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์บิสโทร โดยเลือกใช้เนื้อญี่ปุ่น Busyu Wagyu A3 นุ่มละมุน เสิร์ฟคู่มากับซอส Café de Paris สโมคแครอท และ ฟรายส์
Caviar / Horlick / Grape ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานที่นำเสนอรสชาติอันแปลกใหม่ เจลลี่องุ่นมัสแคทสดชื่นหอมหวาน เสิร์ฟมากับไอศกรีม Mascarpone Horlick และคาเวียร์ ซึ่งเป็นการผสานอาหารคาวและหวานให้เข้ากันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีแป้งบางกรอบ หรือที่เรียกว่า Lavosh ผสมลาเวนเดอร์ให้ทานคู่กัน
‘Stage Menu 8.0’ เสิร์ฟเป็น Tasting Menu โดยคอนเซปต์เมนูของ Stage (สตาช) จะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 2 - 3 เดือนตามวัตถุดิบที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ
- 4 คอร์ส ราคา 1,900++ บาท (ไวน์แพริ่ง 2 แก้ว 900++ บาท) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ครีเอทเมนูให้ลูกค้าสามารถเลือก starter, main course, และของหวานได้เองตามต้องการ
- 7 คอร์ส ราคา 3,500++ บาท (ไวน์แพริ่ง 4 แก้ว 1,700++ บาท)
- ‘STAGE Experience’ 10 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท (ไวน์แพริ่ง 6 แก้ว 2,500++ บาท)
เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทาน Stage (สตาช) ยังได้คัดสรรไวน์และแชมเปญชั้นเลิศมาเสิร์ฟคู่กับเทสติ้งเมนูใหม่ อีกทั้งยังมีวิสกี้และค็อกเทลไว้คอยให้บริการแบบ table side service รวมไปถึงกิมมิคสนุกๆ กับ Champagne Trolley ที่พร้อมเข็นมาบริการเสิร์ฟแชมเปญชั้นเลิศให้กับลูกค้าถึงโต๊ะอีกด้วย นอกจากนี้ Dessert Trolley ก็ยังคงเป็นซิกเนเจอร์ไฮไลท์ห้ามพลาดสำหรับขนมหวานปิดท้ายมื้ออาหารที่ทุกคนต่างหลงใหลและติดใจ โดยนำเสนอขนมหวานหลากหลายเมนูมาดัดแปลงและนำเสนอในรูปแบบและรสชาติที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น
Stage (สตาช) ตกแต่งภายในโดยได้แรงบันดาลใจจากสไตล์ Scandinavian Minimalism ผสมผสานกับ Parisian Chic สามารถรองรับได้ 30 ที่นั่ง พร้อมโซนกึ่ง Private Chef’s Table ที่สามารถมองเห็นทีมเชฟทำงานในครัวเปิดอันสวยงามได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส
ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย (ระหว่างซอยเอกมัย 19 และ เอกมัย 21) เปิดให้บริการทุกวัน โดยในช่วงกลางวันเปิดให้บริการ เวลา 12:00 – 14:30 น. สำหรับ 4 ท่านขึ้นไปและกรุณาจองโต๊ะล่วงหน้า 1 วัน สำหรับดินเนอร์เปิดให้บริการเวลา 18:00 – 00:00 น. (เปิดรับจองโต๊ะรอบสุดท้ายถึงเวลา 20:30 น.)