Stage สตาช รังสรรค์ความอร่อยครั้งใหม่กับ Stage Menu 10.0

Stage สตาช รังสรรค์ความอร่อยครั้งใหม่กับ Stage Menu 10.0
Maysylvie
21 กุมภาพันธ์ 2566 ( 16:00 )
239

        Stage (สตาช) ร้านอาหาร Casual Fine Dining สไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย ที่ผสมผสานเทคนิคการทำอาหารจาก ทั่วทุกมุมโลก โดย เชฟเจย์ - สายนิสา แสงสิงแก้ว (Chef Patron) และทีม เปิดตัวเทสติ้งเมนู (Tasting Menu) ใหม่ล่าสุดกับ ‘Stage Menu 10.0’ ชวนเหล่านักชิมเปิดประสบการณ์เหนือระดับครั้งใหม่แห่งการรับประทานอาหารไฟน์ไดนิ่งกับคอร์สเมนูเปี่ยมอรรถรสที่สัมผัสได้ถึงความพิเศษและใส่ใจในทุกรายละเอียด โดดเด่นตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมนำมาสู่การรังสรรค์รสชาติอาหารที่มีความซับซ้อนแต่กลมกล่อมลงตัว นำเสนอผ่านพรีเซนเทชั่นร่วมสมัยที่คงเอกลักษณ์ด้วยสีสันจัดจ้านสร้างความประทับใจให้ทุกเมื่อราวกับได้ชื่นชมงานศิลป์ชิ้นเอก ท่ามกลางบรรยากาศสุดเรียบหรูภายในร้านซึ่งตกแต่งในสไตล์ Scandinavian Minimalism ผสาน Parisian Chic โดยสตาชยังคงเน้นใช้วัตถุดิบประจำฤดูกาลชั้นเลิศที่เสาะแสวงหาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งจากทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส เอเชีย รวมไปถึงวัตถุดิบอันดีเยี่ยมภายในประเทศไทย (Local Ingredients) นอกจากนี้ยังถือโอกาสเปิดตัว เชฟอาร์ม - นนทบุตร จันทร์สว่าง ในฐานะเฮดเชฟ (Head Chef) คนใหม่อย่างเป็นทางการ เพื่อเข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทีมเชฟ อีกทั้งร่วมสร้างสรรค์ความอร่อยรูปแบบใหม่ให้กับสตาชแบบนอนสต็อป

 

 

        ทำความรู้จัก เชฟอาร์ม เชฟหนุ่มไฟแรงมากความสามารถ ที่พกเอาพรสวรรค์และความหลงใหลใน French Cuisine มาเต็มเปี่ยม กับเส้นทางและประสบการณ์ซึ่งล้วนน่าจับตามอง โดยภายหลังผ่านการฝึกงานและบ่มเพาะฝีมือจากสหรัฐอเมริกา ก็ได้เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อสานต่อแพชชั่นการทำอาหารที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ซึ่งหนึ่งในก้าวสำคัญคือการทำงานกับร้านอาหารมิชลินสองดาวในกรุงเทพฯ นานถึง 6 ปี นับเป็นช่วงเวลาอันมีค่าที่เจ้าตัวได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์พร้อมเรียนรู้เทคนิคต่างๆ อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่มีโอกาสเดินทางไปร่วมคอลแลปส์กับร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ รวมถึงร้านดังจากทั่วโลกมากมาย อาทิ Odette สิงคโปร์, Caprice ฮ่องกง, White Rabbit มอสโก, La Cime โอซาก้า ก่อนที่ปัจจุบันจะได้เริ่มต้นบทบาทใหม่อย่างเต็มตัวกับการเป็น ‘เฮดเชฟ’ คนล่าสุดให้กับ ‘สตาช’

 

 

       ‘Stage Menu 10.0’ คือบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่าตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา สตาชได้เติบโตและพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง ด้วยการนำเสนอประกอบกับการคิดค้นรสชาติและรสสัมผัสของอาหารอันโดดเด่นแปลกใหม่ ไร้ข้อจำกัด ที่มีการผสานลูกเล่นเฉพาะตัว ความโมเดิร์นทวิสต์ และความสนุกสนานสอดแทรกลงไปในอาหารทุกจาน โดยยังคงเน้นการใช้เทคนิคอันซับซ้อนและชูวัตถุดิบระดับพรีเมียมให้มีความโดดเด่น ผ่านการคิดสร้างสรรค์มาอย่างละเมียดละไม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบฉบับที่ยากจะมีใครเหมือน ซึ่งมีเมนูไฮไลท์ประจำซีซั่น อาทิ

 

Caviar Box Version 2 (Uni / Caviar / Fennel / Crustacean Aspic)

      เป็นการนำเมนูซิกเนเจอร์ยอดนิยมที่ทุกคนชื่นชอบมาต่อยอดและพัฒนาใหม่เป็นเวอร์ชั่น 2 ต่อจาก Caviar Box เมนูที่แล้ว ภายในบ็อกซ์อัดแน่นไปด้วย บาฟุนอูนิ, เฟนเนล ครีม, พิคเคิล เซเลอรี่
ผสานกับเจลลี่ที่ทำมาจากเปลือกล็อบสเตอร์และปูที่นำมาต้ม แล้วท็อปด้วยคาเวียร์

 

 

White Asparagus / Hollandaise / Parmesan / Truffle

ทาร์ตไวท์ แอสพารากัสจากประเทศฝรั่งเศส ซอสฮอลแลนเดซ และทรัฟเฟิล


Wild-caught Tiger Prawn / Endive / Mustard

กุ้งลายเสือจากธรรมชาติ เสิร์ฟพร้อม Endive, Crispy Mustard เสริมรสชาติด้วย Beurre Blanc Sauce

 

 

Turbot / Japanese Pumpkin / Roasted Chili & Pink Pepper

ปลาเทอร์บอตตามฤดูกาล ท๊อปด้วยซอส Roasted Chilli & Pink Pepper เสิร์ฟคู่กับ Japanese Pumpkin Mash เป็นเมนูที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออก



 

Ragù de Canard

เป็ดตุ๋นรากู รสชาติเข้มข้น โดยรากูจัดเป็นเมนู typical French ที่สตาชนำมาดัดแปลงและผสมผสานในสไตล์ของตัวเอง

 

 

Stanbroke Wagyu Tenderloin / Eggplant Black Garlic / Nori Burnt Leek

เนื้อเทนเดอร์ลอยน์จากออสเตรเลีย เสิร์ฟคู่ซอส Eggplant Black Garlic และ Leek ที่พันด้วยสาหร่ายและนำมาเบิร์น

 

 


Millefeuille

หนึ่งในเมนูขนมหวานซิกเนเจอร์ของฝรั่งเศส ที่ครีเอทในแบบสตาช เสิร์ฟมาเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ คู่กับไอศกรีมวานิลลา

 

 

     ‘Stage Menu 10.0’ เสิร์ฟเป็น Tasting Menu โดยคอนเซ็ปต์ของเมนูจะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 2 - 3 เดือน ตามวัตถุดิบที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ

 

  • 6 คอร์ส ราคา 2,900++ บาท
  • ‘STAGE Experience’ 10 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท

(Wine Pairing 3 แก้ว 1,700++ บาท / 6 แก้ว 3,200++ บาท)  

 

      โดยสามารถรองรับได้ 30 ที่นั่ง พร้อมโซนกึ่ง Private Chef’s Table ที่สามารถมองเห็นทีมเชฟทำงานในครัวเปิดอันสวยงามได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส

 


       ร้านตั้งอยู่บนถนนเอกมัย (ระหว่างซอยเอกมัย 19 และเอกมัย 21) เปิดให้บริการทุกวัน โดยในช่วงกลางวันเปิดให้บริการ เวลา 12:00 - 14:30 น. สำหรับ 4 ท่านขึ้นไปและกรุณาจองโต๊ะล่วงหน้า 1 วัน สำหรับดินเนอร์เปิดให้บริการเวลา 18:00 - 00:00 น. (เปิดรับจองโต๊ะรอบสุดท้ายถึงเวลา 20:30 น.)