ข้าวหอมมะลินกกระเรียน ข้าวดี มีคุณภาพ ใส่ใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

     ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มตื่นตัวและห่วงใยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การผลิตสินค้าเกษตรโดยพึ่งพาสารเคมีเริ่มถูกปฏิเสธและถูกกีดกัน ทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ซึ่งเป็นการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้รับความสนใจและมีแนวโน้มความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในยุโรป ซึ่งปัจจุบันได้มีการสั่งนำเข้าข้าวอินทรีย์จากเกษตรกรกลุ่มอินทรีย์หลายกลุ่ม โดยเฉพาะในแถบภาคอีสานซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพดีแห่งหนึ่งของประเทศ ข้าวหอมมะลินกกระเรียน ข้าวดี มีคุณภาพ ใส่ใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การันตีคุณภาพด้วย รางวัลชนะเลิศระดับประเทศจากกรมการข้าว 

     วันนี้เลยอยากแนะนำ ข้าวอินทรีย์คุณภาพดี จากพื้นที่ภาคอีสาน “ข้าวหอมมะลินกกระเรียน” ข้าวดีๆ ที่น้อยคนจะรู้จัก เป็นหนึ่งในผลผลิตโดยกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์บ้านสวายสอ ตำบลสะแกโพรง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ หนึ่งในจังหวัดอีสานใต้ที่เป็นแหล่งปลูกข้าวที่ใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศ ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งผืนดินและแหล่งน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติ โดยกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก นอกจากนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ ยังมีดินภูเขาไฟ เก่าที่ปะทุแล้วทำให้ตัวดินนั้นมีแร่ธาตุมากมาย ยิ่งทำให้พืชผลการเกษตรได้ผลดีรวมทั้งข้าวอินทรีย์ของชุมชนสวายสอแห่งนี้

     ที่สำคัญการทำนาอินทรีย์ของชาวบ้านสวายสอ ไม่ได้ส่งผลดีต่อชาวนา หรือต่อผู้บริโภคเท่านั้น หากแต่ยังโยงใยไปถึงระบบนิเวศ คุณภาพน้ำ สัตว์ตัวเล็กตัวน้อย รวมถึงเกื้อหนุนให้นกกระเรียนพันธุ์ไทย หนึ่งในสัตว์ป่าสงวน 15 ชนิดของประเทศ ที่เคยสูญพันธุ์ไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว สามารถดำรงอยู่ต่อไปในธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

     นกกระเรียนพันธุ์ไทยได้ถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเป็นครั้งแรก เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2554 บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก โดยองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม บวกกับความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำและอาหาร ซึ่งเป็นผลจากการทำนาอินทรีย์ของชุมชนที่นี่ ส่งผลให้นกกระเรียนพันธุ์ไทย สามารถขยายพันธุ์ เพิ่มจำนวนมากขึ้น ปัจจุบันมีจำนวนนกกระเรียนฯ อาศัยอยู่ในบริเวณรอบดังกล่าว กว่า 100 ตัว นั่นหมายถึงว่านกกระเรียนพันธุ์ไทย เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

     จากเดิมที่นาอินทรีย์บุกเบิกเพียงกลุ่มเล็กๆ มาวันนี้ขยายไปกว่า 40 ครัวเรือน คลอบคลุมพื้นที่มากกว่า 600 ไร่ และเป็นแหล่งผลิตข้าวอินทรีย์คุณภาพ หลากหลายชนิด ตั้งแต่ข้าวหอมมะลิ , ข้าวกล้องดอกมะลิ , ข้าวมะลินิล , ข้าวทับทิมชุมแพ รวมถึง นางเอกของเรา ได้แก่ ข้าวสามสี ข้าวทุกชนิดจากผืนดินแห่งนี้ เป็นข้าวอินทรีย์ 100% ชาวนาที่นี่ปลูกข้าวด้วยความเอาใจใส่ในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้าวอินทรีย์ทุกเมล็ดบนผืนนา ผืนน้ำอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ ปลูกขึ้นด้วยความตั้งใจ ใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยใช้แรงงานคนเป็นหลัก

     จากขั้นตอนการปลูก สู่โรงสี โรงสีข้าวของที่นี่แยกจากโรงสีข้าวแบบปรกติ ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าข้าวที่คุณรับประทานจะไม่มีสิ่งใดเจือปน ที่นี่เราเน้นความสดใหม่ เสิร์ฟตรงสู่ทุกจานที่บ้านคุณ ด้วยแนวคิด Fresh Rice On Demand หมายถึงเมื่อคุณสั่งข้าวจำนวนเท่าไรก็ตามชาวนาจะสีข้าวใหม่และส่งให้คุณทันที ข้าวใหม่ เวลาหุงสุกแล้ว เม็ดจะเรียงสวย ไม่เละ ไม่แข็งกระด้าง หอมอ่อนๆ เวลารับประทานจะให้รสสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น รสชาติหอมมัน หวานนิดๆ มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน ทานได้กับกับข้าวทุกชนิด โดยไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยน เป็นข้าวที่อร่อยทานง่าย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและคนที่คุณรักทุกคน

     การอุดหนุนเกษตรกรในครั้งนี้ นอกจากคุณจะได้รับประทานข้าวดีมีคุณภาพ แล้วคุณยังมีส่วนช่วยเกษตรกรบ้านสวายสอ ให้มีกำลังใจที่จะทำนาแบบอินทรีย์ปลูกข้าวดีๆ และอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยไว้ มิให้มีเพียงแต่ชื่ออีกด้วย

     ข้าวหอมมะลินกกระเรียนพันธุ์ไทยมิได้มีแค่ความดี ที่เรากล่าวกันเท่านั้น ข้างดังกล่าวยังกวาดรางวัลชนะเลิศมากมายจากกรมการข้าว เป็นเครื่องการันตี

     คุณสามารถสั่งซื้อข้าวหอมมะลินกกระเรียน ได้ ตั้งแต่วันที่ -31 สิงหาคม 2563 ทางช่องทาง ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด

บริษัทที่ส่งเสริมและสนับสนุน ผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพของเกษตรกรไทย เพื่อคนไทย อย่างแท้จริง ตามช่องทางต่อไปนี้

1. https://www.thailandpostmart.com/shop/shop356
2. กิจกรรม “ตลาดนัดชุมชน” จำหน่ายผ่าน ณ. ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ
3. โทรศัพท์ 1545 ( บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด )