เมื่อเทรนรักสุขภาพกำลังกลายเป็นเมกะเทรนในปัจจุบัน ทำให้หลายๆ คนหันมาดูแลตัวเอง ทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย หรือจะเป็นเรื่องโภชนาการเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นวันนี้เลยอยากจะแนะนำร้านสลัดเล็กๆ ในย่านทองหล่อ ที่ควรค่าแก่การมาทาน ที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องรสชาติ แต่ยังได้เรื่องสุขภาพอีกด้วย และร้านนั้นคือ ร้าน เดอะจังเกิ้ลบาร์ (The Jungle Bar Salad) ตำแหน่งร้านอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 บริเวณชั้น 1 ของโรงแรม IR-ON หากขับรถยนต์ส่วนตัว สามารถจอดได้ที่ข้างโรงแรม การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ในสวนอังกฤษแบบย่อมๆ โดยใช้โทนสีดำและหินอ่อนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ดูสบายตาไม่อึดอัด และมีแสงลอดมาจากด้านบน ทำให้ร้านดูสว่างสดใสConcept เมนูอาหารร้านนี้ จะเน้นไปในแนวเพื่อสุขภาพ และรสชาติก็ต้องอร่อยแบบไม่รู้สึกคลีนจนเกินไป ประเภทอาหารจะมีตั้งแต่ appetizer, main dish ไปจนถึงของหวานกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า มาร้านนี้ครบจบ สำหรับเมนูที่ได้ชิมวันนี้มีเยอะมากๆ จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มเบาๆ อย่างน้ำผลไม้สกัดเย็นจากผลไม้สดๆ เมนูที่อยากแนะนำก็จะมีแอปเปิ้ลและสับปะรด ตัวแอปเปิ้ลจะให้ความหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ไม่รู้สึกแสบคอเหมือนกับน้ำแอปเปิ้ลที่ทานทั่วๆไป เช่นเดียวกับสับปะรด ที่จะออกเปรี้ยวมากกว่ารวมทั้งให้ความสดชื่น ส่วนตัว recommend สับปะรดมากกว่าเพราะสามารถแก้เลี่ยนเวลาทานเนื้อสัตว์ได้ดีและมาถึงเมนู Appetizer ซึ่งที่ได้ทานมีอยู่ด้วยกัน 3 เมนูเห็ดหอมย่าง ซอสสูตรลับ: ทางร้านใช้เห็ดหอมที่ผ่านการย่าง และระหว่างย่างนั้นก็จะค่อยๆ ทาซอสเข้าไป ซึ่งทำให้ซอสซึมไปทั่วชิ้นตาม Layer ของเห็ด เวลาทานเราจึงไม่รู้สึกถึงความเหม็นหืน หรือกลิ่นเฉพาะของเห็ดหอมแต่อย่างใด รวมทั้งยังได้ความกรุบกรอบบริเวณด้านนอกที่ผ่านการย่างด้วยเช่นกันเต้าหู้เย็นซอส Yuzu: เต้าหู้หน้านิ่ม ราดด้วยซอส Yuzu ให้รสชาติเปรี้ยวแบบสดชื่น โรยด้วยสาหร่ายกรอบ และถั่วแระญี่ปุ่นที่แกะออกมาเป็นเม็ดๆ เวลาทานให้ทานพร้อมกันทั้งตัวเต้าหู้ ซอส สาหร่าย และถั่วแระ รสชาติจะออกไปทางอูอามิแบบที่เรารู้สึกได้เวลาทานซูชิ มีความหวานมันจากเต้าหู้และถั่วแบบกำลังดี ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใด เป็นเมนูที่เหมาะแก่การเปิดต่อมรับรสได้ดีที่สุดเลยครับเซวีเช่ อโวคาโด้กุ้ง: อะโวคาโด้ ปั่นผสมกับเครื่องเทศตระกูลเม็กซิกัน ปรุงรสชาติออกเผ็ดกลางๆ และมีเนื้อกุ้งที่ใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบ ทานคู่กับขนมปังกรอบจะดรอปรสชาติเผ็ดลงและรู้สึกได้ถึงความมันของอะโวคาโด้ได้ดียิ่งขึ้น เป็นอีกเมนูที่ควรค่าแก่สั่งมาทานเป็นอย่างยิ่งครับต่อกันด้วยจานหลักกันสลัดอกไก่พิรี้พิไร สโม๊ค-ซูวี: สลัดอกไก่จานโต ที่นำเสนอรสชาติเผ็ดจัดจ้านแต่ได้สุขภาพไปในตัว เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสลัดพิริพิไร ที่เสิร์ฟให้ถึง 2 แบบคือแบบ oil และ creamy ซึ่งชอบแบบไหน ก็ราดตามความชอบ ตัวไก่ผ่านการซูวีก่อนที่จะนำมาย่างไฟแบบอ่อนๆ หรือศัพท์ทางอาหารจะเรียกว่า เฟลมมิ่งเบิร์น ทำให้เนื้อไม่มีรอยไหม้แต่อย่างใด เนื้อไก่ให้ Texture ที่ออกไปทางนุ่มอร่อย ไม่แห้งแต่อย่างใด ผักใส่มาเยอะรวมทั้งมีความหลากหลาย น้ำสลัด ถ้าไม่ทานเผ็ดมากควรใส่แบบครีมมี่ แต่ถ้าชอบเผ็ดๆ ก็ราดแบบ oil ลงไป ส่วนที่ชอบของจานนี้เลยคือตัวข้าวโพดย่างที่มาเป็นชิ้นๆ ทานง่าย รู้สึกถึงกลิ่นหอมๆ ของตัวข้าวโพด และรสชาติหวานธรรมชาติสุดๆ สเต็กสะโพกไก่ย่าง ซอสพริกไทยดำ: สลัดไก่ย่างที่เน้นโภชนาการครบ 5 หมู่ ทั้งผักนานาชนิดเหมือนจานก่อนหน้า เนื้อไก่ส่วนสะโพก และมันฝรั่งบดราดด้วยซอสเกรวี่ สเต็กไก่นั้นจะมีซอสพริกไทยดำให้ต่างหาก โดยเราจะราดลงไปบนเนื้อไก่ หรือจะหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วมาจิ้มก็ได้เช่นกัน ย่างออกมาได้กำลังดี ยังรักษาความ Juicy ได้ มันบดเนื้อเนียนกำลังดีแต่ซอสเกรวี่น้อยไปหน่อย ส่วนผักจะคล้ายๆ กับจานก่อนหน้าเพียงแต่ปริมาณน้อยกว่า จานนี้เหมาะกับคนชอบทานหรือเน้นเนื้อเป็นส่วนประกอบหลักข้าวยำแซลมอน จังเกิ้ลบาร์: เมนูข้าวที่อยากแนะนำให้ลอง เสิร์ฟมาในชามพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่ว ดูแน่นๆ และคลีนมาก ประกอบด้วยผักหลากหลายชนิด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วแระญี่ปุ่น และเนื้อปลาแซลมอนลวกสุก ก่อนทานต้องคลุกให้เข้ากันพร้อมกับราดน้ำจิ้มแจ่วที่ออกข้นๆ ลงไป รสชาติจานนี้จะเน้นไปทางเผ็ดจัดจ้านเพื่อไม่ให้รู้สึกเลี่ยน มีความหวานแบบธรรมชาติทั้งจากตัวข้าวและมะเขือเทศ ตัวแซลมอน cooking ค่อนข้างพอดีด้านนอกสุกและด้านในฉ่ำอยู่ ส่วนตัวคิดว่าถ้าใส่ข้าวมาน้อยกว่านี้ และใช้เป็นข้าวกล้องหรือธัญพืชอื่นๆประกอบเข้าไปด้วย จะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่แท้จริงYuzu Ponzu Porku Salad: เนื้อหมูสามชั้นผ่านการสไลด์และผัดด้วยซอสเทอริยากิ ก่อนที่จะวางลงบนผักสลัดและผักย่างอีกหลายชนิดที่รวมๆ กันอยู่ในจาน ผสมผสานโปรตีนทั้งจากเนื้อสัตว์ และโปรตีนจากธัญพืชอย่างถั่วเหลืองที่มาในรูปแบบเต้าหู้ย่างได้ลงตัว เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดพอนซึที่ให้รสชาติออกไปทางเค็มและหวานนำ ตัดกับเปรี้ยวนิดๆ คลุกเคล้าให้วัตถุดิบและน้ำสลัดรวมกันเป็นเนื้อเดียวก่อนทานจะให้รสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว เนื้อหมูสไลด์บางเฉียบรวมทั้งย่างออกมาในรูปแบบคริสปี้คล้ายๆกับเบคอนทอด อย่างไรก็ดี ควรจะรีบทานก่อนหมูจะเย็นโฮมเมด ย็อกกี้ ซอสเห็ดมาริโอ้: เมนูนี้อาจจะเป็นเมนูที่ไม่คลีนที่สุดของร้านก็ว่าได้ แต่ส่วนตัวกลับเทใจให้เมนูนี้มากกว่าเมนูอื่นๆ ตัวย็อกกี้ทำจากแป้งสาลีและมันฝรั่ง ทำออกมาได้หนึบๆ กำลังดี ไม่รู้สึกเละ เข้ากันกับตัวซอสเห็ดที่รสและกลิ่นของเห็ดมีความเข้มข้นสูง โรยด้วยผงชีสเพิ่มความมัน และเบคอนกรอบเพิ่ม Texture ความกรุบกรอบให้จานนี้มีรสสัมผัสที่หลากหลายยิ่งขึ้น รสชาติทำออกมาได้ดีเช่นเดียวกับเมนูอื่นๆ ออกไปทางเค็มกลางๆ ไม่รู้สึกว่ารสชาติหนักจนเลี่ยนแต่อย่างใดDesign own your salad: สำหรับใครก็ตามคิดว่าเมนูที่ทางร้านมีให้เลือกยังธรรมดาเกินไป ทางร้านเองก็ยังมีจานพิเศษที่เราสามารถดีไซน์เมนูสลัดได้อย่างอิสระ ซึ่งมีให้เลือกด้วยกัน 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ส่วนของผักสลัด, ส่วนของโปรตีนและ Topping ต่างๆ และอย่างสุดท้ายคือส่วนของน้ำสลัด มีให้เลือกทั้งแบบไม่เพิ่มเงินและเพิ่มเงิน อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวเลยส่วนนี้เลือกส่วนของผักสลัดเป็น Rocket Salad ที่ดูจะคลีนที่สุดที่มีให้เลือก พร้อมกับสเต็ก Wagyu จากออสเตรเลียผ่านการย่างแบบ Medium Rare และส่วนของน้ำสลัดเลือก Three Thousand Island dressing ที่แม้จะดูข้นเหมือนเลี่ยน แต่ให้รสชาติออกเปรี้ยวๆ เฟรชๆ ตัดเลี่ยนกับเนื้อได้ และยังเพิ่ม Topping ด้วยการเติมย็อกกี้ย่างเข้ามาเพื่อให้ครบทั้ง 5 หมู่ หน้าตาออกมาดูดีกว่าที่คิด ตัวผักร็อกเก็ตรสชาติดี ไม่ขม ส่วนที่ชอบอีกอย่างคือข้าวโพดย่างที่หั่นมาเป็นชิ้นๆ ทานง่ายกว่าแบบแยกเป็นเม็ดๆ เนื้อ Wagyu ต้องชมเลยว่าย่างดี นุ่มอร่อยไม่แห้งแต่อย่างดี ออกแรงเคี้ยวนิดๆ แต่ไม่รู้สึกเหนียวจนเกินไป แนะนำว่าให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จะทานง่ายขึ้นหลังจากจบมื้อหลักแล้ว ยังมีปิดท้ายด้วยของหวานด้วยกัน 2 จานพานาคอตต้าอัลมอนด์: สืบเนื่องจากทางร้านอยากทำเมนูของหวานสักจาน ที่คนแพ้แลกโตสในนม ก็สามารถทานได้ เลยนำนมอัลมอนด์มาเป็นส่วนประกอบหลักของจานนี้ ราดด้วยซอสสตรอเบอร์รี่ที่นำมาตัดเลี่ยน และมีเบอร์รี่วางไว้ด้านบนสุด เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับจานนี้ รสชาติทานแล้วรู้สึกเลยว่าคืออัลมอนด์จริงๆ มีความเข้มๆ มันๆ ชัดเจน ส่วนเบอร์รี่มาลดความเข้มๆ ของนมลง ทำให้รสชาติมีสมดุลมากขึ้นแอปเปิ้ลโทส: เมนูนี้อาจจะไม่คลีนเหมือนจานแรกแต่รสชาติดีไม่แพ้กัน ด้านล่างเป็นขนมปังหรือ Toast ที่ผ่านการย่างด้วยเนย ทาด้วยวิปปิ้งครีม โรยด้วย Apple Tatin หรือผลแอปเปิ้ลหั่นเป็นเต๋าๆ นำไปเชื่อมในคาราเมลหวานๆ ตกแต่งด้วยแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นซีกๆ ปิดท้ายด้วยไอศกรีมวานิลลา เวลาทานให้ทานพร้อมๆ กัน ซึ่งรสชาติหลักจะเป็นความหวานมันจากตัววานิลลา รสสัมผัสที่มีความกรุบกรอบจากตัว Tatin ตัดกับความหอมจากตัวขนมปัง เป็นเมนูปิดท้ายที่ดีเลยรสชาติอาหารโดยรวมอร่อยมาก แต่ละเมนูจะแบ่งสัดส่วนระหว่างโปรตีน กับผักได้อย่างเหมาะสม ทำให้เวลาทานเราจะไม่รู้สึกว่าหนักจนเกินไป อันที่จริงทานจานเดียวก็อิ่มแล้ว ความคุ้มค่าถือว่าดี กับปริมาณที่เยอะไม่แพ้ร้านสลัดดังๆ แต่อย่างใด หากเราไม่สะดวกไปนั่งทานที่ร้าน สามารถสั่งผ่าน Delivery ต่างๆ ได้เช่นกัน ร้าน The Jungle Barที่อยู่: โรงแรม IR-ON สุขุมวิท 36เวลาเปิดปิด: 11:00 - 20:00 น. หยุดทุกวันพุธ#ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน#บทความดังกล่าวถูกเรียบเรียงและแต่งขึ้นโดยนักเขียนเองทั้งหมด #อาหารเพื่อสุขภาพ #สลัด #อาหารคลีน #Salad #Healthy