ถ้าพูดถึงการเข้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ภาพที่ท่านจะต้องเห็นอย่างแน่นอนคือ ภาพที่ผู้คนจะพากันถือถังขนมขบเคี้ยวชนิดหนึ่งเข้าไปในโรงหนังด้วย ขนมขบเคี้ยวทีว่านั้นก็คือ "ป็อปคอร์น" หรือ "ข้าวโพดคั่ว" นั้นเอง จริง ๆ แล้วการที่เราจะทำ "ป็อปคอร์น" กินเองในบ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะปัจจุบัน วัตถุดิบที่จะนำมาทำ "ป็อปคอร์น" ก็หาได้ง่ายดาย ทั้งสั่งทางออนไลน์ หรือหาซื้อตามร้านค้าทั่ว ๆ ไปก็มีขายแน่นอนในยุคโควิด 19 ที่ระบาดอย่างหนักอยู่ในปัจจุบัน ทำให้การใช้ชีวิตของทุกท่านต้องเปลี่ยนไป หรือที่เรียกกันว่า ชีวิตแบบนิวนอมอน ที่ไม่สามารถนำ"ป็อปคอร์น" เข้าไปกินในโรงภาพยนตร์ได้ ผู้เขียนมีสูตรทำ "ป็อปคอร์น" ทำกินเองที่บ้านได้ง่าย ๆ อร่อย ๆ นอนดูหนังเพลินๆที่บ้านมาฝากมาเริ่มทำกันเลยครับส่วนผสมมีอยู่เพียง 5 อย่างเท่านั้นครับ ได้แก่เมล็ดข้าวโพด 1/3 ถ้วยตวง (ใช้แบบที่เอาไว้ทำป็อบคอร์นโดยเฉพาะเท่านั้นนะครับ ใช้แบบอื่นไม่มีทางแตกแน่นอน แถมยังจะไหม้อีกต่างหาก)เนยเค็ม 1/3 ถ้วยตวง (เหตุผลที่ใส่เนยเค็มจำนวนเท่ากันกับเมล็ดข้าวโพดก็เพราะว่าถ้าสำหรับมือใหมแล้วใส่น้อยไปมันจะไหม้ได้ครับ)ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง (นำไปล้างน้ำก่อน)น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วยตวง (สามารถใช้ได้ทั้งน้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาว)เกลือป่น 1/2 ช้อนชาวิธีทำก็ง่ายมากเลยครับขั้นตอนแรกให้นำเนยเค็ม น้ำตาลและเกลือเทใส่หม้อตั้งไฟ (ใช้ไฟกลาง) ให้ละลายเข้าด้วยกัน คนไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะไม่ให้เนยกับน้ำตาลไหม้เทเมล็ดข้าวโพดที่เตรียมไว้ลงหม้อตามลงไปใช้ทัพพีคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน จนกว่าท่านจะเห็นเมล็ดข้าวโพดแตกออกมาบางส่วน ใส่ถั่วลิสงลงไปคลุกเคล้า (สาเหตุที่ใส่ถั่วลิสงหลังสุด เพราะถ้าใส่พร้อมกับเมล็ดข้าวโพด ถั่วลิสงจะไหม้ก่อน)จากนั้นให้ท่านปิดฝาหม้อ แล้วเขย่าหม้อเพื่อให้เมล็ดข้าวโพดได้รับความร้อนเท่ากันทั้งหม้อ ขั้นตอนนี้ต้องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะครับ เพราะว่าถ้าปล่อยไว้นานเกินไปเมล็ดข้าวโพดจะแตกจนเราไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้เลยจากนั้นให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เขย่าหม้อต่อไป จนกว่าจะไม่มีเสียงของเมล็ดข้าวโพดแตกอีก ก็เป็นอันเสร็จทุกขั้นตอนตอนผมทำครั้งแรกก็จะมีเมล็ดข้าวโพดบางส่วนที่ไหม้บ้าง บางอันก็ไม่แตก ซึ่งเป็นผลมาจากการไม่เขย่าหม้อให้แรงพอที่จะให้ความร้อนกระจายไปอย่างทั่วถึง แต่ทำไปเรื่อย ๆ ก็จะรู้จังหวะของการทำเองแหละครับ แล้วคุณก็จะได้ป็อปคอร์นเอาไปทานเองได้อย่างสบาย ๆ บทความโดย : NOPBIGMANภาพประกอบทั้งหมดโดย : NOPBIGMANขอบคุณสำหรับการอ่านบทความNOPBIGMAN
