หากใครได้เคยผ่านไปใช้บริการสะพานเจษฎาบดินทรานุสรณ์แถวบางศรีเมือง จะรู้ว่าถนนเส้นนั้นมีร้านอาหารตั้งอยู่มากมาย ทั้งร้านข้าว ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านส้มตำ แล้วยังมีปั๊มน้ำมันตั้งประจันหน้าหากันอยู่สองฝั่งถนนซึ่งแต่ละปั๊มมีร้านอาหารแฝงกายอยู่ภายในอีกหลายร้าน เรียกได้ว่าเป็นถนนสายกินเลยก็ว่าได้ เที่ยงวันนี้พวกเราวางแผนว่าจะขับรถตระเวนหาของกินกันชิล ๆ โดยให้เจ้าลูกสาวตัดสินว่าจะแวะร้านไหน ขับวนไปวนมาอยู่นานสุดท้ายตัดสินใจไม่ได้ พี่ใหญ่ของเราจึงฟันธงให้ว่างั้นไปกินกะเพรากันดีกว่า พุทโธ่พ่อเจ้าประคุณ ตัดสินใจได้ง่ายเหลือเกิน ในเมื่อคุณชายตัดสินใจเช่นนั้นจึงหักรถเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันอย่างเร็วไว ในปั๊มมีร้านอาหารอยู่มากมายทั้งร้านเล็กร้านใหญ่ปะปนกัน คุณชายบอกว่ากะเพราร้านนี้อร่อยอยากให้ลองชิม ร้านนี้ดูหน้าตาธรรมดาจัดวางครัวไว้ด้านหน้า พ่อครัวกำลังยุ่งเพราะมีออเดอร์ต่อคิวมากมาย พวกเราหาที่นั่งได้ก็รีบเร่งสำรวจเมนูด้วยความหิว เมนูยอดฮิตของร้านนี้ก็คงจะหนีกะเพราไม่พ้น มีให้เลือกทั้งกะเพราเนื้อ กะเพราหมู กะเพราทะเล ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติย่อมจะเผ็ดจัดจ้าน ดังนั้นถ้าใครไม่กินเผ็ดต้องเขียนโน๊ตตัวใหญ่ ๆ กำชับไว้ว่า "ไม่เผ็ด" ไม่เช่นนั้นได้กินไปร้องไห้ไปแน่นอน ทางด้านลูกสาวเธอไม่สันทัดกับอาหารเผ็ดอยู่แล้วก็ต้องสั่งเมนูแกงจืดมากินกับข้าว ส่วนตัวดิฉันอยากกินกะเพราแต่ไม่กล้าเพราะดูหน้าตาแล้วเผ็ดดุพอสมควร จึงเลี่ยงไปสั่งเมนูทะเลแทน ช่วงที่ไปมีอาหารจัดชุดสั่งคู่กับน้ำดื่มด้วย คุณชายจึงเลือกสั่งกะเพราดิบเถื่อนคู่กับชามะนาวมากิน ที่นี่เขาจะมีกระดาษให้ติ๊กเลือกเมนู อยากได้เผ็ดมากเผ็ดน้อยก็เขียนสั่งลงไป พอจดรายละเอียดครบถ้วนแล้วก็เรียกน้องพนักงานมารับออเดอร์ไปให้พ่อครัว หลังจากนั่งสไลด์มือถือกันได้ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟตามคิว จุดเด่นของที่นี่เขาจัดเสิร์ฟกันเป็นหม้อดูยิ่งใหญ่อลังการ เห็นแล้วหวั่นใจกลัวว่าจะรับประทานกันได้ไม่หมด เมนูนี้คือกะเพราดิบเถื่อนเนื้อโคขุน (165 บาท) โปะด้วยไข่ดาวไม่สุกไข่ขาวด้านนอกกรอบแต่ไข่แดงข้างในยังเยิ้มอยู่ ก่อนรับประทานตักพริกน้ำปลาที่มีเนื้อพริกใส่ลงไปด้วยจะเข้ากันดี คุณชายปลื้มปริ่มกับเมนูนี้มากบอกว่าผัดได้เผ็ดสะใจจนน้ำหูน้ำตาไหลเลยทีเดียว เมนูนี้สั่งเป็นเซ็ทเสิร์ฟคู่ชามะนาวแก้เผ็ดได้ดี เมนูต่อมาข้าวปลาหมึกไข่เค็ม (150 บาท) ใช้ปลาหมึกหั่นเป็นวงชิ้นใหญ่มากถึงมากที่สุดโปะกับข้าวมาเสียจนมองไม่เห็นข้าวสวยด้านล่างเลย รสชาติอาจจะเค็มไปสักหน่อยแต่ก็พอแก้ได้โดยต้องตักข้าวเข้าปากเยอะ ๆ ไข่เค็มที่ผัดมาด้วยกันช่วยให้รสชาตินุ่มละมุนพอสมควร เคล็ดลับความอร่อยของจานนี้คือต้องตักทุกอย่างรวมกันทั้งข้าว ปลาหมึก พริก ต้นหอม หัวหอม ตักเข้าปากพร้อมกันจะช่วยให้รสชาติกลมกล่อมและเผ็ดปลายน้อย ๆ กินแล้วอร่อยเจริญอาหารดี หันมาทางเมนูสำหรับคนชอบจืดกันบ้าง แกงจืดเต้าหู้หมูสับ (85 บาท) กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ (15 บาท) ปั้นหมูสับมาเป็นก้อนเต็มหม้อไปหมด โชคดีที่ไม่ได้ใส่กระเทียมเจียวมาด้วยไม่อย่างนั้นต้องช่วยกันนั่งเขี่ยออกไป รสชาติโดยรวมก็ไม่ได้ต่างกับแกงจืดเต้าหู้ที่บ้านสักเท่าไหร่เพียงแค่ย้ายสถานที่มากินในร้านเท่านั้นเอง แกงจืดให้มาเยอะมากต้องช่วยกันกินถึงจะหมด ชามะนาวแก้วนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับผัดกะเพราในเซ็ท ให้รสชาติเหมือนชามะนาวสำเร็จรูปหวานมากเปรี้ยวนิดหน่อยดื่มแก้เผ็ดได้ดี โดยสรุปรสชาติ คุณภาพและราคา ถือว่าอาหารแต่ละจานมีราคาสูงพอสมควร เมนูไม่ได้แตกต่างจากร้านอาหารตามสั่งร้านอื่น แต่ถ้าพิจารณาทางด้านวัตถุดิบ เกรดของเนื้อสัตว์ ความสดใหม่ของผักที่ใช้ จัดว่ามีคุณภาพดีใช้ได้เหมาะสมกับราคา โดยเฉพาะเมนูกะเพราไฮไลท์ของร้านถือว่าจัดจ้านถึงพริกถึงเครื่องจริง ๆ ส่วนเมนูอื่นรสชาติดีได้มาตรฐานร้านอาหารทั่วไป การเดินทาง: จากถนนราชพฤกษ์ขับมุ่งหน้าไปทางถนนรัตนาธิเบศร์ เมื่อขับไปตามทางจะมีป้ายทางซ้ายมือให้เลี้ยวขึ้นสะพานวนไปทางสะพานเจษฎาบดินทรานุสรณ์ เมื่อขับวนข้ามสะพานข้ามทางมาแล้วให้สังเกตปั๊มน้ำมันปตท.ทางด้านขวา ต้องขับเลยไปกลับรถใต้สะพานแล้วจึงเลี้ยวเข้าปั๊มไป ร้านเขียงอยู่ด้านในบริเวณโซนร้านอาหารมองหาได้ไม่ยาก สามารถจอดรถได้ทั่วบริเวณภายในปั๊ม เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00-20:00 น. ภาพทั้งหมดจากนักเขียน