ขึ้นชื่อว่า "กิมจิ" ทุกคนต้องนึกถึงกิมจิผักดองสไตล์เกาหลี ที่มีหลากหลายรสชาติมากให้เราเลือกทาน แต่วันนี้โอ๋จะขอพาเพื่อน ๆ มาทำ กิมจิไทยสไตล์ รสชาติแบบไทย ๆ เข้มจัดจ้าน กินแกล้มกับอะไรก็อร่อย ควรค่าแก่การมีติดไว้ในตู้เย็นที่บ้าน แถมยังทำไม่ยากอีกด้วยนะ "เตรียมผักต่าง ๆ " วัตถุดิบที่ต้องเตรียม (ปริมาณผักแต่ละชนิดมากน้อยแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยนะคะ) - แครอทขูดเส้น 2,500 กรัม - หัวไชเท้าขูดเส้น 2,500 กรัม - ต้นหอมหั่นท่อน 1,000 กรัม - ผักกาดขาวหั่นท่อน 20,000 กรัม - ขิงซอย 200 กรัม - เกลือไทย ขั้นตอนการเตรียมผัก 1. นำแครอทขูดเส้น หัวไชเท้าขูดเส้น ต้นหอมหั่นท่อน และขิงซอยที่เตรียมไว้มาล้างและโรยเกลือ คลุกเคล้าจนผักสลบ ลองชิมดูว่าเข้าเนื้อหรือยัง จากนั้นล้างน้ำออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำพักไว้ก่อน 2. นำผักกาดขาวที่เตรียมไว้มาล้างและโรยเกลือ คลุกเคล้าจนผักสลบ ลองชิมดูว่าเข้าเนื้อหรือยัง จากนั้นล้างน้ำออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำพักไว้ก่อน 3. นำผักในข้อ1 และ 2 มาเทใส่รวมกัน เพื่อรอทำในขั้นตอนถัดไป หมายเหตุ : ผักต่าง ๆ โอ๋ขอแนะนำให้ขูดเส้นบาง ๆ เพื่อเวลาเราคลุกซอสกิมจิแล้วมันจะได้เข้าเนื้อดียิ่งขึ้น ซอสกิมจิถุงนี้ หลังจากที่โอ๋เอามาผสมทำกิมจิแล้วส่วนหนึ่งจึงแบ่งเก็บไว้ สำหรับนำมาทำใหม่ในรอบหน้า เราสามารถใส่ถุงหรือขวดพลาสติก เก็บไว้ในตู้เย็นได้นานหลายเดือน แต่ก่อนที่จะเอาออกมาใช้ทุกครั้ง อย่าลืมชิมรสชาติกันก่อนนะคะ "ซอสกิมจิ" วัตถุดิบที่ต้องเตรียม - ซอสโคชูจัง (ซอสเกาหลี) 500 กรัม - พริกป่นเกาหลี 2,500 กรัม - พริกจินดาแดง 400 กรัม - กระเทียมจีนปอก 500 กรัม - ซอสพริก 5,000 กรัม - ขิงแก่ 200 กรัม - รสดี 500 กรัม - เกลือปรุงทิพย์ ขั้นตอนการทำซอสกิมจิ 1. นำพริกจินดาแดงที่ล้างและผึ่งจนสะเด็ดน้ำ เด็ดขั้วออกใส่ลงไปในโถปั่น 2. ใส่กระเทียมจีนปอก และขิงแก่หั่น ปั่นจนเข้ากัน 3. ใส่ซอสพริกลงไปผสม คนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่กะละมัง 4. ใส่ซอสโคชูจัง (ซอสเกาหลี) ลงไปในกะละมังที่มีส่วนผสมในข้อ1-3 ตีให้เนียน ใส่รสดีและพริกป่นเกาหลี ชิมให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ จากนั้นนำซอสกิมจิที่ได้กับผักที่พักไว้ นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยค่อย ๆ ใส่ซอสกิมจิลงไปและลองชิมรสชาติดูว่าได้รสตามที่ต้องการแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ให้เราค่อย ๆ เทซอสกิมจิลงไปเพิ่ม (หลังจากคลุกเคล้าเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้สักพักน้ำซอสในผักจะค่อย ๆ คายออกมา) ขั้นตอนสุดท้าย เราสามารถนำ กิมจิไทยสไตล์ ที่ทำเสร็จแล้ว บรรจุใส่กระปุกแบบนี้ ปิดฝาให้เรียบร้อย เก็บไว้กินแกล้มกับเมนูโปรดที่เราชื่นชอบหรือจะทานเล่นเดี่ยว ๆ ก็ไม่ผิดอะไร ยิ่งช่วงนี้เป็นยุคประหยัดด้วยแล้ว การแปรรูปผักสดให้เก็บไว้กินได้นาน ๆ แบบนี้ มันก็ดีไม่น้อยเลยนะคะ ภาพปกและภาพประกอบโดย : Oh Wanwisa