มะเดื่อป่า เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก บ้านเราอยู่บนดอยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งมีกลุ่มชาติพันธ์ุอาข่าอาศัยอยู่ด้วย เราคือหนึ่งในนั้น มะเดื่อป่าภาษาอาข่าจะออกเสียงว่า สี่ปุ (si-pu) จำได้ว่าที่บ้านมีอยู่ต้นนึงซึ่งเป็นต้นที่ใหญ่มาก แต่ล้มลงมาในคืนที่ฝนตก ลำต้นล้มอยู่ในแนวราบกับพื้นดิน แต่โชคดีที่ต้นยังไม่ตาย ปกติลูกมะเดื่อจะติดเต็มตามลำต้น และกิ่งก้าน ลูกเล็กบ้างใหญ่บ้าง ซึ่งกินได้ทั้งผลสุกและผลดิบ เราเห็นว่าในปัจจุบัน มีการพูดถึงมะเดื่อฝรั่ง หรือลูกฟิก (Fig) อย่างแพร่หลายมากขึ้น ทั้งในแง่ของประโยชน์ที่มีเส้นใยอาหารสูง และที่สำคัญมีรสชาติที่หวาน หอม อร่อยถูกปากใครหลายๆคน เราเคยไปฝึกงานอยู่ที่ฟาร์มแหล่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายเมื่อนานมาแล้วเราเลยได้รู้จักมะเดื่อฝรั่งจากที่นี่เป็นที่แรก ฟาร์มนี้มีโรงเรือนที่ปลูกมะเดื่อฝรั่งไว้หลากหลายสายพันธ์ุมาก ซึ่งแต่ละพันธ์ุจะให้ผลผลิตที่มีลักษณะรูปร่าง สี และรสชาติที่แตกต่างกัน เราได้ลองชิม บอกได้เลยว่าผลสุกมีกลิ่นที่หอม และรสชาติที่หวานมาก ซึ่งเข้าใจได้เลยว่าทำไมในปัจจุบันถึงกำลังเป็นที่นิยมมากในกลุ่มของผู้บริโภค ด้วยความที่เราเห็นผู้คนเริ่มมาสนใจมะเดื่อฝรั่งกันมากขึ้น เหมาะกับช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา เราได้กลับไปพักที่บ้านบนดอยแม่ฟ้าหลวง และได้เจอกับต้นมะเดื่อป่าต้นหนึ่งอยู่ริมถนนใหญ่ ทำให้หวนนึกถึงตอนเด็กที่เคยเก็บกินอยู่บ้าง เลยได้ถ่ายรูปเก็บไว้ เราเลยอยากให้ทุกคนได้รู้จักกับผลมะเดื่อป่านี้ ซึ่งรับรองว่ามีความพิเศษไม่แพ้กับมะเดื่อฝรั่งเลย..... ลักษณะของผลมะเดื่อป่า จากที่เราสังเกตได้ และหาข้อมูลเบื้องต้น คือจะคล้ายกับมะเดื่ออุทุมพรมาก ด้วยความที่เราไม่แน่ใจว่าใช่ชนิดเดียวกันมั้ย เราเลยขอเรียกว่ามะเดื่อป่าเหมือนเดิมก็แล้วกันนะคะ ผลของมะเดื่อป่ามีลักษณะทรงกลมแป้น หรือบ้างก็เป็นรูปไข่คล้ายผลชมพู่ ผลที่อ่อนจะมีสีเขียว และผลที่สุกจะมีสีแดง และจะมีน้ำยางสีขาวๆ โดยเฉพาะตรงขั้ว เมื่อสุกเนื้อข้างในจะมีสีชมพูแดง และเต็มไปด้วยเกสรและเมล็ดเล็กๆ ที่สำคัญคือ จะมีวุ้นใสๆคล้ายเจลลี่อยู่ข้างใน รสชาติของมะเดื่อป่า เราได้ลองชิมผลของมะเดื่อป่าที่สุกแล้ว จะมีรสชาติที่หวาน และหอม คล้ายกับผลไม้ในตระกูลเบอร์รี และจะแอบแฝงด้วยรสชาติฝาดเล็กน้อยอยู่ที่โคนลิ้น ซึ่งอาจเกิดจากผลมะเดื่อป่าที่ยังไม่สุกเต็มที่ ได้ความกรุบจากเมล็ดเล็กๆที่อยู่ภายใน และด้วยวุ้นที่คล้ายเจลลี่ที่มีอยู่ทำให้ได้รสสัมผัสที่นุ่ม ละมุนลิ้นอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งหาไม่ได้ในมะเดื่อฝรั่งแน่นอน ผลที่ยังอ่อน สามารถนำมาแกงกับกระดูกอ่อนเป็นอาหารเหนืออย่างแกงขนุนได้ โดยใช้ผลมะเดื่ออ่อนนำมาฝานให้บางๆแทนผลขนุน อีกทั้งยังสามารถนำมาทำเป็นแกงเขียวหวานเนื้อมะเดื่ออ่อน แทนมะเขือเปราะ หรือมะเขือพวง ก็อร่อยได้ไม่แพ้กัน เราอยากให้ทุกคนได้ลองชิมผลมะเดื่อป่า รับรองว่าอร่อยไม่แพ้กับผลมะเดื่อฝรั่งแน่นอนค่ะภาพประกอบทั้งหมดโดย Maeyerห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป