สวัสดีจ้าทุกคน...ผู้เขียนเองก็มาแวะที่งานเช่นเคย นี่ก็ปิดงานมหกรรมอาหารฮาลาลที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในกรุงเทพ "Bangkok Halal 2020" ซึ่งจะเปิดงานเป็นวันสุดท้าย คงไม่ได้เดินเล่นหาอะไรทานที่ใกล้ ๆ ที่ฝึกงานแล้วล่ะ ถ้าจะมาคงต้องรอปีหน้าเลย แต่ก็มีความประทับใจในการจัดงานนี้มากพอสมควร โดยส่วนตัวให้งานนี้ที่ 9.5/10 เหตุผลคือการจัดการขยะแม้ว่าจะมีบางจุดมีถุงขยะติดให้เห็นชัดแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่อยู่นอกงาน ขยะเก่ายังกองล้นอยู่ฝั่งต้นไม้อยู่เลย ไม่มีถังใหญ่ใส่ให้ชัดเจน อยากให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยเพิ่มการจัดการขยะที่ดีกว่านี้หน่อย ทัศนียภาพการจัดงานพลอยดูแย่ลง ช่วงเช้าเป็นช่วงที่ยังไม่มีใครขายของ แต่ตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญยังตั้งอยู่ใกล้ทางเข้างาน เป็นตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่มร้อนสองตู้ ตู้หนึ่งมีโกโก้ กาแฟ ชาเขียว อีกตู้หนึ่งมีลาเต้ คาปูชิโน่ กาแฟ ซึ่งเปิดกินง่ายมาก ได้มีโอกาสหยอดเหรียญ 10 บาท เลือกกินชาเขียวร้อนเอาซะเลย แล้วแก้วเดียวเป็นมื้อเช้าคู่กับขนมปังไปเลย หอมกรุ่นอย่างนี้น่าหาซื้อไปชงเองจังเลย แต่จะหาชาเขียวชงจริง ๆ ทั้งทีก็ราคาสูง นี่ก็เดินช่วงเช้าแก้เบื่อก่อนกลับหอไปงีบ เดินไปดูตามร้านเสื้อผ้า ที่นี่ร้านในงานสวยอยู่ แม้บางร้านยังไม่เปิดผ้าใบ แต่การจัดระเบียบทางเดินดีมาก ไม่จอแจเกินไปในช่วงดึกที่ผ่านมา ต่อมา...ขอย้อนไปที่ความถูกใจของการจัดงานอีกครั้ง ในจุดอื่น ๆ ของงาน เช่น แสงสีเสียง การจัดระเบียบตามบูธต่าง ๆ แม้กระทั่งการแบ่งเวลาให้รถเข้าออกในงานเพื่อขนของ เสียงตามสายบอกต้องไม่เกิน 16.00 น. เพื่อที่จะได้เว้น เพิ่มความปลอดภัยสำหรับคนเดินในงานด้วย ถือว่าจัดระเบียบดีมากเลยล่ะ นี่ก็เป็นเวลาสามทุ่ม ณ โซน H นั่นเอง จู่ ๆ ก็อยากทานอะไรที่ซ่า ๆ เปรี้ยว ๆ แต่ก็เบื่อกับชานมที่กินแบบเดิม ๆ ค่ำคืนนี้เหมาะกับกินอะไรที่หวานอมเปรี้ยวแต่ตาแจ้งบ้างก็ยังดี แต่เวลาไปหาร้านไหน ไม่ค่อยถูกใจเท่าใดนัก จนเดินมาที่ร้านหนึ่งที่อยู่ในโซน H นี่แหล่ะ นอกจากโซน A ที่ติดเวทีขึ้นราชมังฯ โซนนี้ก็มีเวทีแต่ละฝั่งเช่นกัน ธีมการบรรยายทั้งสองเวทีไม่ต่างกันเท่าไหร่ ยกเว้นถ้าหากผ่านโซน L ไปนั้นจะเป็นโซนของกินกับโซนเด็กเล่น มีเวทีสำหรับเกมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของเด็ก ร้านในโซน H ที่แวะมาซื้ออิตาเลี่ยนโซดามีชื่อว่า "Style เผือก" เป็นร้านขายน้ำที่เดาได้ว่า คนที่รวมตัวขายน่าจะเป็นนักศึกษามุสลิม พอไปดูเมนูนั้น มันบอกความรู้สึกว่า...ฉันต้องมาละลายทรัพย์ที่ร้านนี้แน่นอน ถ้ามองแบบ SWOT Analysis นั้น จุดเด่นของบูธร้านน้ำร้านนี้คือ บรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่าร้านอื่นมาก แบบแก้วเล็กราคา 30 บาท, แบบถุงซิป แต่ติดหูหิ้วราคา 40 บาท และแก้วใหญ่ 60 บาท หากร้านอื่นแก้วลายเดียวกันแต่ราคาสูงกว่า จะตอบโจทย์ความต้องการน้อยกว่าร้านนี้มาก เมนูที่สั่งไป สั่งบลูฮาวาย 30 บาท ซึ่งเป็นเมนูรอบเก็บตกของค่ำคืนนี้ ดูท่าแก้วน่าจะกินคุ้มกับที่ละลายทรัพย์ เลยซื้อราคา 30 บาทไป พ่อค้าที่ทำมีความอัธยาศัยดี สุภาพกับลูกค้า และใส่ใจการทำเมนูด้วยความประณีต (ดูได้จากการเติมโซดาให้เห็นสีสันสวยงาม และการแต่งผลไม้ในเครื่องดื่ม) และที่สำคัญ...รสชาติดีมาก ดีที่คุ้มค่าต่อการกินและการซื้อ ถ้ามองกลับในร้านอื่น เขาอาจชง ๆ ให้ละลายแล้วก็เสิร์ฟลูกค้าลวก ๆ แต่ร้านนี้คุ้มราคาไม่พอ ชงแบบมีความเป็นมืออาชีพมากเลยล่ะ การมีใจบริการที่ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่รู้ว่าถ้าปีหน้ามีงานอีก จะได้เห็นความมืออาชีพของร้าน "Style เผือก" ร้านนี้อีกเมื่อไหร่ ก็ถือว่าก่อนงานจะวายได้กินของดี ๆ อย่างอิตาเลี่ยนโซดาร้านนี้ทันรอบเก็บตกในค่ำคืนนี้ละกัน ขอจบบทความเพียงเท่านี้...สวัสดีจ้า ขอไปนอนก่อน :) หมายเหตุ เครดิตรูปภาพ รูปทุกรูปผู้เขียนถ่ายเอง รีวิวเองจากสถานที่จริงทั้งหมด เอาไว้รีวิวสำหรับบทความนี้เท่านั้น คิดจะก๊อป ขออนุญาตเค้าก่อนนะจ๊ะ