อาหารอันโอชะของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไปบางคนชอบอาหารทะเล บางคนชอบทานเนื้อ บางคนชอบทานปลา แต่เคยได้ยินเรื่องของอาหารที่หากินได้เพียงปีละครั้งนี่ยิ่งต้องเป็นอาหารที่หลายคนนั้นรอคอยมาตลอดทั้งปีเพื่อที่จะได้ลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยของอาหารนั้น ดังเช่น ผักหวานป่า ที่เหล่านักกินนั้นรอคอยที่จะได้กทานเพียงปีละครั้งในช่วงหน้าร้อนของปีเท่านั้น จะบอกว่านี่คืออาหารอันโอชะของหลาย ๆ คนก็ไม่แปลก เพราะกว่าจะได้ทานนั้นต้องรอนานแสนนานเหลือเกิน แล้วทำไมหลายคนถึงติดใจในรสชาติขนาดนั้น ผักหวานป่าสามารถทำอะไรทานได้บ้างไปหาคำตอบกันกับ “ผักหวานป่า อาหารอันโอชะ หนึ่งปีหนึ่งครั้ง” ผักหวานป่า เป็นพืชที่เกิดขึ้นตามป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์เป็นพืชที่เกิดขึ้นไม่ค่อยเยอะและหาได้ยากพอสมควรด้วยรสชาติที่ หวาน มัน เมื่อนำมาปรุงอาหารผสมกับกลิ่นหอมของตัวผักหวานป่าเอง ทำให้หลายคนที่ได้ลิ้มลองรสชาติติดใจกันมานักต่อนัก ผักหวานป่านั้นจะสามารถหามารับประทานได้เพียงปีละครั้งเท่านั้นในหน้าร้อน เพราะว่าจะผลิใบใหม่แล้วแตกยอดอ่อนขึ้นมาใหม่แแผ่กิ่งก้านเพื่อเจริญเติบโตขึ้น ยอดอ่อนของผักหวานป่านี่แหละคืออาหารอันโอชะที่จะหาทานได้เพียงปีละครั้งเท่านั้นเป็นอาหารที่คุ้มค่ากับการรอคอยของใครหลายคน ผักหวานป่านิยมนำมาแกงเปล่า ๆ แต่ถ้าจะให้เด็ดไปกว่านั้นอาหารที่นำมาแกงคู่กับผักหวานป่านั้นก็คือไข่มดแดงซึ่งจะบอกว่าเกิดมาเพื่อนคู่กันก็ไม่ผิด เพราะไข่มดแดงนั้นก็หาทานได้เพียงปีละครั้งและจะหาทานได้ในช่วงที่ผักหวานป่านั้นออกมาพอดี ช่างเป็นอะไรที่ทั้งน่าทึ่งและน่าทานอะไรขนาดนั้นแค่นึกภาพผักหวานแสนหอมกับไข่มดแดงที่แตกในปากรสหวานมันเท่านี้น้ำลายก็ไหลแล้ว นอกจากจะนำมาแกงใส่ไข่มดแดงผักหวานป่าที่คนนิยมกันก็จะนำมาผัดกับน้ำมันหอยเหมือนกับผักบุ้งไฟแดงแต่จะให้รสชาติหวาน หอม กว่าผักบุ้ง วางร้อน ๆ ตรงหน้ากลิ่นหอมของผักหวานป่าก็เตะจมูกแล้วนะเนี่ย อีกเมนูหนึ่งที่นิยมไม่แพ้กันก็คือผักหวานป่านึ่งทานคู่กับแจ่วปลาร้า ข้าวเหนียวร้อน ๆ ปลาทอดซักตัว เท่านี้ก็อร่อยอย่าบอกใครนึกภาพแล้วกลืนน้ำลายเลยละซิ ด้วยผักหวานป่ามีรสชาติในตัวของมันเองเมื่อนำไปประกอบอาการจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องปรุงอะไรเพิ่มก็อร่อยแล้ว ในยุคปัจจุบันนั้นผักหวานป่าแทบจะไม่ต้องไปเดินหาตามป่าให้เหนื่อยเหมือนแต่ก่อนแล้วเพราะก็มีหลายที่สามารถที่จะปลูกผักหวานป่าขึ้นเองได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะปลูกได้ง่าย ๆ นะเพราะพืชชนิดนี้ปลูกยากเข้าขั้นอยู่เหมือนกันอยู่ดี ๆ จะมาปลูกแล้วจะงอกงามนี่คิดใหม่ได้เลย เพราะคนที่ปลูกนั้นลองผิดลองถูกหลายสูตรหลายขนานก่อนที่จะประสบความสำเร็จได้ แต่หากคิดจะปลูกก็ลองศึกษาจากปราชญ์ชาวบ้านที่เขาประสบผลสำเร็จก็น่าจะพอช่วยได้ ถึงแม้จะมีผักหวานป่านอกฤดูกาลออกมาให้ได้รับประทานกันแต่เหล่านักขิมก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผักหวานป่าตามฤดูกาลนั้นรสชาติดีกว่าผักหวานป่านอกฤดูกาลอยู่ดี แบบนี้ใครที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลองต้องไปหามารับประทานกันแล้วล่ะ จะได้รู้รสชาติอาหารป่าที่หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงนะจ๊ะนักชิมทั้งหลาย เครดิตภาพปก เทพ สุวรรณ ผู้เขียน เครดิตภาพ เทพ สุวรรณ ผู้เขียน