What to eat in London กินอะไร ในลอนดอน สวัสดีค่ะนักชิมทั้งหลาย ช่วงนี้อาจจะดูเหงา ๆ หน่อยนะคะ กับสถานการณ์โรคระบาดที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น หลาย ๆ ท่านก็ Work From Home กัน กักตัวทำอาหารทานกันเองที่บ้าน ก็ได้แต่ภาวนาให้โรคบ้านี้หายไปเร็ว ๆ อยากให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขและใช้ชีวิตกันอย่างปกติ ...... เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเยือนลอนดอน ประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก เราได้ทำการเขียนบทความสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไว้แล้ว วันนี้จึงอยากนำเสนออาหารการกินของชาว Londoner กันบ้างค่ะ คนส่วนใหญ่ที่นั่นเค้านิยมทานอะไร ไปชมกันเลยค่ะ เราจะเริ่มรีวิวการกินตั้งแต่บนเครื่องเลยค่ะ ทริปนี้เราเดินทางกับสายการบิน Royal Brunei Airline สายการบินแห่งชาติประเทศบรูไน สายการบินแขก มีการสวดก่อนบิน อันนี้ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอ ในส่วนของอาหารบนเครื่องเราพอจะเดาได้ว่าอาหารจะรสชาติประมาณไหน ไปชมหน้าตาอาหารค่ะ หน้าตาอาหารประมาณนี้เลยค่ะ จะมีให้เลือกระหว่างไก่กับเนื้อ ตอนขากลับมีเนื้อแกะด้วย แต่เราไม่ทานเนื้อ เราจึงมีตัวเลือกแค่ไก่อย่างเดียว อาหารออกแนวจืด เลี่ยน และมีกลิ่นเครื่องเทศค่ะ อันนี้ต้องทำใจนะคะ ความเห็นส่วนตัวนะคะ อาหารไม่ถูกปากเท่าไหร่ แต่ต้องทานเพื่อความอยู่รอด ในภาพจะเป็นไก่กับซอสครีมอะไรสักอย่าง รสชาติเลี่ยน ๆ ผักต่าง ๆ และมันบดพอทานได้ ตามมาด้วยพายสตรอว์เบอร์รี่ กับสลัด เฉย ๆ ทานไม่หมด ส่วนเครื่องดื่มก็ตามมาตรฐานทั่วไป ชา กาแฟ โคล่า น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำเปล่า วันแรกที่ไปถึงอังกฤษค่ะ เราเดินทางไปเที่ยวเมืองบาธ เป็นเมืองเล็ก ๆ เราจึงเลือกทานอะไรง่าย ๆ นั่นก็คือ Subway ค่ะ ชาว Londoner ส่วนใหญ่นิยมทานอะไรที่ง่าย ๆ สะดวก รวดเร็ว ไม่มีมากับข้าว 4-5 อย่างแบบคนไทย เราจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับที่นั่น มื้อแรกในอังกฤษเราจึงเลือกทาน Subway ส่วนตัวคิดว่าเหมือนทานที่เมืองไทย เราสั่งเป็น Chicken Teriyaki อร่อยดี วิธีการสั่งก็เหมือนที่ไทย จะเอา Long หรือ Half เอาขนมปังแบบไหน มีให้เลือกที่หน้าตู้เลย เลือกซอส เลือกผัก เลือกเนื้อ จะเพิ่มชีสอะไรก็สั่งไปได้เลย หากพูดไม่ถูกก็ชี้อย่างเดียว พนักงานเค้าช่วยเหลือเราเต็มที่ รับอาหารคิดเงิน จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ น่าจะประมาณ 200-300 บาท เป็นเงินไทยค่ะ รอดตายมื้อแรก อิ่มแล้วก็เดินเล่นต่อ เดินไปเดินมาเจอร้านนี้ซะงั้น ลองสักหน่อย เป็นร้านเล็ก ๆ ขายเบียร์ Guinness เบียร์ดำ หรือเรียกว่า สเตาต์ (Stout) เป็นเบียร์ประจำชาติของไอร์แลนด์ และนิยมมากในลอนดอน และ ไอร์แลนด์ เราก็ไม่ใช่สายกินเบียร์เท่าไหร่ แต่ลองแล้วนุ่ม หอม ละมุมลิ้นบอกไม่ถูก รู้สึกติดใจมาก จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ไม่แพง ราคาถูกมาก สายดื่มต้องไม่พลาด มาค่ะ เราจะพาทุกท่านไปชม English Breakfast แท้ ๆ กันค่ะ อาหารเช้าแบบ British Style ทริปนี้เราได้พักที่โรงแรม Holiday Inn Express Croydon London เป็นเวลา 4 คืน คุณเชื่อไหมคะ ว่าอาหารเช้าของทางโรงแรมเหมือนเดิมทุกวัน ไม่มีเปลี่ยนแม้แต่อย่างเดียว อย่างที่บอกไปไกด์เคยบอกว่าคนอังกฤษนิยมทานอะไรง่าย ๆ เร็ว ๆ ไม่ยุ่งยาก ในภาพจะเป็นไส้กรอกหมู เบคอน (เบคอนเค็มมาก ๆ ) ไส้กรอกรสชาติไม่เหมือนบ้านเรานะคะ เนื้อไม่แน่น จะออกแนวร่วน ๆ หน่อย และมีความเค็ม ก็พอทานได้ บีบซอสมะเขือเทศมาเข้ากันได้ดี อันนี้จะเป็น Scrambled Eggs หรือที่บ้านเราเรียกว่าไข่กวนนั่นเอง ไข่ร่วน ๆ รสชาติทั่วไป พอทานได้ จืด ๆ รสชาติอาจไม่ถูกปากคนไทย แต่คงอร่อยสำหรับคนที่นั่น ส่วนผสมน่าจะมีแค่ ไข่ นม เนยจืด เกลือ อันนี้มันคือถั่วอบในซอสมะเขือ ส่วนตัวไม่ได้ลองตักมาทาน ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ แต่ English Breakfast แท้ ๆ ต้องมีถั่วนี้มาเป็นเครื่องเคียง รอดตายเพราะพวกขนมปังเลยค่ะ อร่อยมาก ขนมปังปิ้ง พร้อมด้วยเนย นูเทลล่า แยมส้ม แยมสตรอว์เบอร์รี่ แยมแอพริคอต มีให้เลือกเยอะมาก ซีเรียลต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมี ชา กาแฟสด น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล ผลไม้ นมสด ต่าง ๆ มากมาย ในส่วนนี้จะหลากหลายหน่อยค่ะ เราก็เลือกทานในสิ่งที่เราชอบ หากวันรุ่งขึ้นใครเบื่อ ๆ ก็เอามาม่าที่เตรียมมาจากเมืองไทยลงมาใส่น้ำร้อน ก็อร่อยไปอีกแบบ English Breakfast ก็จะหน้าตาประมาณนี้แหละค่ะ และมีแบบนี้ทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีโจ๊ก ไม่มีข้าวต้มแบบบ้านเรานะคะ อิ่มจากอาหารเช้าที่โรงแรม เราไปเดินหาของแปลก ๆ กินกันบ้างค่ะ เราได้ไปเดินเล่นที่ตลาด Borough Market เป็นตลาดขายของสดและอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในลอนดอน เรามุ่งหน้าไปที่ร้าน Richard Oyster ร้านหอยนางรมชื่อดัง อยากจะลองชิมมานานแล้ว อยากรู้ว่าจะเหมือนหอยนางรมที่ไทยไหม ได้มาแล้ว เราสั่ง Large Size มาเลยค่ะ ราคาประมาณ 2.99 ปอนด์ ให้เค้าเปิดให้เลยพร้อมทาน ตอนแรกทานไม่เป็นเลยถามพี่คนขายว่า How to eat it? คนขายก็แนะนำให้บีบเลม่อน ใส่ซอส และมีไวน์ขาว แล้วกระดกเข้าปากเลยค่ะ ซดน้ำเข้าไปด้วย ลองแล้วติดใจเลยค่ะ หอยนางรมหวาน สด มีความเปรี้ยวของซอสนิด ๆ อร่อยมากจนอยากสั่งกินอีกตัว สดชื่นมาก เด็ดจริง เห็นลุงฝรั่งข้าง ๆ สั่งหลายตัวมาก กินอย่างเอร็ดอร่อย เรายังอยู่ที่ Borough Market ไปซื้ออันนี้มาลอง เอาจริง ๆ ไม่รู้เลยว่ามันเรียกว่าอะไร เห็นว่าเป็นหอยแมลงภู่แล้วน่ากินเลยจัดมา เกินคาดมาก อร่อยเลยทีเดียว ตัว chips สด ๆ ร้อน ๆ โรยเกลือนิด ๆ อร่อยมาก หอยแมลงภู่สด หวาน ตัวครีมเหมือนจะเป็นซอสอะไรสักอย่าง เอาเป็นว่ามันอร่อยมาก จัดเรียบไม่เหลือ เห็นหลายโต๊ะก็สั่งเจ้าเมนูนี้ ราคาไม่แน่ใจ น่าจะประมาณ 250-300 บาท ประมาณนี้ ค่ะ มาลอนดอนเมนูนี้ต้องไม่พลาด นั่นก็คือ ไก่ย่าง nando's หนึ่งในร้านอาหารที่เป็น Signature ของประเทศอังกฤษเลยก็ว่าได้ เมนูเด็ดของที่นี่จะเน้นไปที่ไก่ย่าง สั่งได้เลยแบบทั้งตัว ครึ่งตัว หรือเป็นชิ้น ตามภาพ เราเลือกไก่แล้วก็มาเลือกเครื่องเคียง แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยค่ะ มีทั้ง Chips สลัด ขนมปัง มันบด เราเลือกข้าวผัด Spicy กับข้าวโพดมาค่ะ ซอสมีให้เลือกประมาณ 10 ระดับความเผ็ด ส่วนตัว อร่อยค่ะ ไก่ คือ ไก่ย่างดี ๆ นี่แหละถึงแม้ว่าจะไม่มีกลิ่นเครื่องสมุนไพรเหมือนที่ไทย แต่รวม ๆ อร่อยใช้ได้ ตัวข้าวมีความเผ็ดตามสไตล์คนไทยกินกับไก่เข้ากันได้ดี ลงตัว ราคาประมาณ 10-15 ปอนด์ บรรยากาศภายในร้าน ไก่ย่าง nando's วิธีการสั่งไก่ เดินเข้าไปในร้านจะมีพนักงานพาไปนั่งที่โต๊ะ ดูเมนูที่โต๊ะ จำหมายเลขโต๊ะแล้วไป Order ที่เค้าน์เตอร์ หากสั่งเครื่องดื่มจ่ายเงินแล้วพนักงานจะให้แก้วมาเติมน้ำรีฟิลเอง เมื่อ Order เรียบร้อยนั่งรอที่โต๊ะจะมีพนักงานมาเสิร์ฟ วันนี้เพื่อน ๆ ที่ไปด้วยอยากทาน Buffet อาหารจีนค่ะ เราจึงเลือกไปทานที่ร้าน HongKong Buffet ย่าน Chinatown ร้านนี้เป็น Buffet อาหารแบบราดแกง ไม่จำกัดเวลาค่ะ หน้าตาประมาณนี้เลยค่ะ มื้อนี้จัดกันหนักเลยค่ะ อาหารอร่อย รู้สึกมีพลังที่ได้ทานข้าว เพราะที่นั่นหาข้าวทานยากมาก อาหารก็จะเป็นไก่ย่าง ซุปต่าง ๆ ผัดผัก กุ้งหวาน มีหลากหลาย เป็นมื้อที่รู้สึกว่าทานได้เยอะมาก ลืมบอกไปว่านอกจากอาหารแล้วยังมีผลไม้ เค้ก ขนมหวานต่าง ๆ ราคา Buffet คนละ 11 ปอนด์/400 บาท + ไม่รวมน้ำ ถือว่าคุ้มค่าค่ะ มาจบกันที่ไฮไลท์สำหรับคนที่มาลอนดอนต้องมากิน นั่นก็คือ เป็ด Four Seasons ในตำนานนั่นเอง ต้องบอกก่อนว่าเป็ดร้าน Four Seasons นั้น ไม่ได้อยู่ในโรงแรมหรือภัตราคารใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นร้านอาหารจีนเล็ก ๆ มีหลายสาขาในลอนดอน วันนี้พวกเราไปทานที่สาขา Wardour Street Branch ภายในร้านก็ตามสไตล์ร้านอาหารจีนมีโต๊ะกลม ๆ บรรยากาศภายในร้านจะเล็ก ๆ แคบ ๆ ไม่ใหญ่ ตอนที่พวกเราไปทานคนน้อยมาก ไม่รู้ว่าช่วงโควิด-19 หรือไม่ และแล้ว........ ในที่สุดเป็ดย่างในตำนานที่เราบินข้ามน้ำข้ามประเทศมาเพื่อจะมาชิมสักครั้ง ก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว เราเลือสั่งเมนูที่ทางร้านแนะนำ แต่แน่นอนที่ขาดไม่ได้คือเป็ดย่างนั่นเอง เราสั่งแบบครึ่งตัว ตามมาด้วยหมูกรอบ ผัดไก่เม็ดมะม่วง ผัดหมี่สิงคโปร์ ซุปซีฟู้ด และข้าวเปล่า เรามาเริ่มชิมเป็ดย่างกันก่อน คำแรกร้องอื้อหือ คือมันอร่อยมาก สมคำร่ำรือ หนังเป็ดกรอบ เนื้อเป็ดชุ่มฉ่ำ น้ำซอสออกเค็ม ๆ แต่อร่อย เป็ดชิ้นใหญ่ แต่นุ่ม ละมุน มีความฉ่ำของซอส ทานกับข้าวสวย อร่อยจนหยุดไม่ได้ เข้าใจแล้วว่าทำไมเป็นเป็ดย่างในตำนานแห่งเมืองลอนดอน มาต่อกันที่หมูกรอบ ชิ้นใหญ่โตเหลือเกินจ้า ลองทานเปล่า ๆ แบบไม่จิ้มอะไรเลยก็อร่อย หมูกรอบมีรสชาติเค็ม ๆ อยู่ในตัว หนังกรอบ หมูนุ่มไม่เหนียว คืออร่อยอ่ะ หมูกรอบทำได้ดีงามมาก ไม่ผิดหวัง ในส่วนของจานอื่น ๆ ก็อร่อยทุกอย่างเลย หมี่ผัดสิงคโปร์ กับไก่ผัดเม็ดมะม่วง สองจานนี้ไม่จืดนะคะ เผ็ดเลยค่ะ ถูกปากคนไทยแน่นอน ส่วนซุปก็หอม ซดน้ำร้อน ๆ เข้ากันได้ดี วัตถุดิบเค้าดีจริงค่ะ มื้อนี้ให้ 10/10 ไปเลย ทานคาวเสร็จมีส้มตบท้ายให้ด้วย เริ่ดมาก มื้อนี้เสียหายไปประมาณ 90 กว่า ปอนด์ ประมาณ 3,600-4,000 บาทค่ะ แต่คุ้ม นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่ออีก 2 อย่างได้แก่ Fish &Chips กับ Burger&Lobster แต่เราได้แอบทาน Fish&Chips ของเพื่อนไปนิดนึง ก็เป็นรสชาติที่เราคุ้นเคย ไม่ได้มีอะไรพิเศษ มันก็คือมันฝรั่งทอดกับปลาชุบแป้งทอดแค่นั้นค่ะ ในส่วนของ Burger&Lobster ยังไม่ได้ลองค่ะ เสียดายมาก เพื่อนที่ไปด้วยไม่มีใครทานเป็นเพื่อนสักคน แล้วเราจะกลับไปตะลุยกินอีกครั้งที่ลอนดอน ....... เมื่อโควิด-19 ได้หายไปจากโลกนี้ สวัสดี ภาพประกอบโดยนักเขียนทั้งหมด