ผักกาดนกเขา เป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ไม่ต้องปลูกก็ขึ้นเอง จึงถูกเรียกว่าผักกาดนกเขา ประมาณนกคาบมาปลูกให้ พืชชนิดนี้แม้มีชื่อ ‘ผัก’ นำหน้า ทว่าหลายคนมองเป็นวัชพืช พบเห็นได้บ่อยในพื้นที่ร้างโล่ง พื้นที่ว่างเปล่า ไร่ สวน บางครั้งแอบมาขึ้นในกระถางไม้ดอกไม้ประดับริมบ้าน ผักกาดนกเขา ชอบแดดจัด ๆ ใบมนคล้ายเงี่ยงใบหอก ขอบหยัก ตอนยังหนุ่ม ๆ ใบค่อนข้างอวบใหญ่ แต่เมื่อแก่เริ่มออกดอกใบจะเล็กแกร็น เนื่องจากสารอาหารถูกส่งไปเลี้ยงช่อดอก เพื่อให้สูงชะลูด ดอกมีลักษณะพิเศษ คือ ออกที่ปลายช่อ เป็นกะเปาะ เมื่อแก่ได้ที่จะแตกออก เผยให้เห็นเมล็ดยาวเรียว ตรงปลายมีเส้นไยสีขาวจำนวนมากติดอยู่ ข้อดีของเส้นสีขาวนี้ เมื่อโดนลมพัดมันจะล่องลอยไปได้ไกล ตกลงตรงไหนก็งอกตรงนั้น นี่เองที่ถูกเรียกว่านกเขาปลูก ส่วนชื่อลิ้นปี่เอย หางปลาช่อนเอย ก็น่าจะมาจากลักษณะใบ ผักชนิดนี้แม้ขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกษตรกรหลายคน นำมาปลูกขาย เพราะดูแลง่าย ทนทาน เนื่องจากเมื่อออกดอกแล้ว ใบของผักกาดนกเขาจะลีบเล็ก จึงนิยมเก็บมารับประทานตอนที่ยังไม่ออกดอก สำหรับรสชาติ จืด เนื้อสัมผัสกรอบ ฉ่ำเย็น มีกลิ่นหอมจาง ๆ บางคนบอกว่ากลิ่นนี้ไม่หอม ออกจะเหม็นเขียวด้วยซ้ำ ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมครับ แต่ส่วนมากเห็นตรงกันว่าหอม ตัวผู้เขียนเองเมื่อครั้งยังเรียนชั้นประถมศึกษา ไม่แตะเอาเสียเลยเจ้าผักกาดนกเขานี่ เพราะรู้สึกว่าเหม็นเขียว แต่น้องชายกลับบอกว่าหอม กระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่นั่นแหละผู้เขียนถึงได้ชอบกิน ผักกาดนกเขานิยมนำมากินสด ภาคใต้มักนำมาจิ้มน้ำพริก หรือบูดู แกล้มขนมจีน ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสานนิยมใช้เป็นผักเคียงลาบ ส้มตำ ไม่ว่าจะกินกับอะไร ก็เจริญอาหาร จุดอ่อนของผักกาดนกเขาอย่างหนึ่ง คือ เมื่อเด็ดมาแล้วจะเหี่ยวไว ผู้เขียนจึงแก้ปัญหาโดยการแช่น้ำเอาไว้ ซึ่งก็ช่วยได้มาก ภาพประกอบโดย ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !