สเต็กเนื้อ ถือได้ว่าเป็น 1 ในเมนูที่ทรงคุณค่าและราคาสูง แต่กระนั้น เนื้อส่วนใหญ่ที่เราได้มีโอกาสทาน จะเป็นเนื้อนำเข้ามากกว่า ส่วนเนื้อวัวไทยคุณภาพดีๆ นั้นก็หาทานได้ยากเช่นกัน แต่เมื่อเราลองค้นหาร้านเนื้อที่ขายเฉพาะเนื้อไทยจริงๆ ก็มาเจอกับร้าน “เนื้อคู่” ที่ทำให้เราได้รู้จักคำว่า พรีเมี่ยม ที่แท้ทรูร้านเล็กๆ ที่นำบ้านเดี่ยวมาเปิดเป็นร้านอาหารสำหรับคนรักเนื้อโดยเฉพาะ และต้องเป็น “เนื้อไทย” เท่านั้น อยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 สามารถจอดรถได้ที่บริเวณริมถนนหน้าร้าน การมาทานร้านนี้แนะนำว่าให้โทรจองก่อน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ลูกค้าจะแน่นเป็นพิเศษ การ Walk in ไปในช่วงวันหยุดจึงไม่ค่อยอยากจะแนะนำสักเท่าไรที่นั่งในร้านจะมีอยู่ด้วยกัน 2 โซน เป็น Indoor และ Outdoor ซึ่ง Indoor จะเต็มก่อนใครเลย ส่วน Outdoor จะมีความอบอ้าวนิดนึงในช่วงนี้ แต่ที่ร้านก็ยังมีบริการพัดลมไอน้ำให้ทุกจุดเช่นกันในส่วนของเมนูอาหารสามารถสแกนผ่าน QR Code โดยประเภทอาหารหลักๆ จะเป็นสเต็กคัดส่วนพิเศษต่างๆ ที่คิดราคาตามน้ำหนัก หากอยากทานหรือจะลองแบบไหนเป็นพิเศษ สามารถสอบถามกับพนักงานได้ทันที นอกจากนี้ยังมีเมนูซิกเนเจอร์ต่างๆ เช่นข้าวผัดมันเนื้อ สลัด และอื่นๆ ไปจนถึงของหวาน ที่แต่ละเมนูเองก็น่าสั่งมาลองมากๆ เช่นกัน แนะนำว่าให้สอบถามกับพนักงานตอนสั่งว่าช่วงนี้มีเมนูพิเศษอะไรเป็นพิเศษเพิ่มเติมเริ่มต้นกันด้วยเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่น กับ Honey Citrus Soda หรือเมนูเลมอนดองน้ำผึ้งโซดา ราคา 79 บาท รสชาติลงตัวกำลังดี ตัวเลมอนไม่ได้ทำให้รู้สึกเปรี้ยวจนเกินไป น้ำผึ้งเองมีความหอมเฉพาะตัวเข้ากับเลมอนได้เป็นอย่างดี มีความซ่าๆ จากโซดาที่ผสมลงไปด้วย เหมาะกับการเปิดต่อมรับรส และทานแก้เลี่ยนเป็นอย่างดีจานแรกเรียกน้ำย่อยสักหน่อยจากเมนู Mashed Potato ราคา 75 บาท หน้าตาอาจจะดูไม่แตกต่างจากร้านอื่นๆ สักเท่าไร แต่รสชาติถือว่าดีกว่าที่คิด ตัวครีมที่ราดด้านบนมันบด จะให้รสชาติคล้ายๆกับมายองเนส แต่ละมุนกว่า พอทานตัดกับมันบดเข้ากันได้ดี ตัวมันบดเองเนื้อเนียน มีความชุ่มฉ่ำ ทานแล้วไม่รู้สึกแห้ง ลองเอามาปาดกับเนื้อสเต็กและทานพร้อมก็เข้ากันได้ดีทีเดียวต่อกันด้วยเมนูพิเศษประจำช่วงนี้อย่าง สลัดมะม่วงน้ำดอกไม้ ราคา 199 บาท เสิร์ฟมาในชามใบโต ที่ครึ่งนึงเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ที่ผ่าออกมาเป็นทรงลูกเต๋า และอีกครึ่งหนึ่งเป็นสลัดผลไม้และผักนานาชนิด พร้อมกับธัญพืชอย่างลูกเกด และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ตัวผักส่วนใหญ่หน้าตาดูขมๆ แต่พอเจอน้ำสลัดที่เบสมาจากเสาวรสและมะม่วง ที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและออกเปรี้ยวๆกับจานนี้ ทำให้ทานแล้วไม่รู้สึกขมแต่อย่างใด บาลานซ์รสชาติของมะม่วงและน้ำสลัดได้ดีทีเดียวมาทานร้านเนื้อทั้งทีจะไม่ทานข้าวผัดมันเนื้อก็กระไรอยู่ จึงสั่ง ข้าวผัดมันเนื้อคู่ ราคา 350 บาท มาลองทานกันดู หน้าตาดูดีมาก ด้านล่างสุดเป็นข้าวหอมมะลิ ที่นำไปผัดกับมันเนื้อกรอบๆ ที่ยังทานได้จริงๆ ไม่แข็งโป๊กเหมือนบางร้านที่เคยเจอ ต้นหอมซอย และกระเทียมเจียว โปะด้วยเนื้อส่วนสันนอกหรือ Striploin ที่ด้านนอกย่างจนเกรียมแต่เนื้อด้านในยังสีชมพู ตกแต่งด้วยไข่ดอง เวลาทานให้คลุกทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วค่อยตักทาน ตัวข้าวมีความหอมกระทะอยู่พอสมควร กระเทียมเจียวเพิ่ม Texture กรุบกรอบ ไข่ดองเพิ่มความหวาน ส่วนเนื้อมีความนุ่มแบบออกแรงเคี้ยวหน่อยๆ ยังมีให้น้ำจิ้มแจ่ว และพริกน้ำปลามาทานกับเนื้อด้วย แนะนำว่าจิ้มแจ่วอร่อยสุด โดยรวมถือว่าเหมาะแก่การสั่งเป็นอย่างยิ่งและจานหลักในวันนี้ทั้งทีต้องสั่งตัว Top ของร้านกับเมนู Dry Age 45 Days Striploin ราคา 1957 บาทกับน้ำหนัก 340 กรัม โดยเป็นวัวลูกผสมไทย-วากิวที่ผ่านการขุนด้วยอาหารข้นถึง 18 เดือนด้วยกัน และยังมีการ Dry Age อีก 45 วันเพื่อให้รสชาติที่เข้มข้น ย่างแบบ Medium Rare เสิร์ฟมาพร้อมกับ เกลือหิมาลายัน พริกไทย แตงกวาดอง หน้าตาดูเรียบง่ายแต่รสชาติเข้มข้นมาก เนื้อไม่เหนียวอย่างที่คิด ออกจะนุ่มด้วยซ้ำ จิ้มกับเกลือจะช่วยดึงรสชาติออกมาให้ชัดยิ่งขึ้น หรือจะลองนำไปจิ้มกับจิ้มแจ่วก็เข้ากันได้ดีเช่นกัน ถือได้เป็นตัว Top ที่ควรค่าแก่การลองจริงๆหลังจากจบจานของคาวไปแล้ว ที่ร้านเองยังมีของหวานเสิร์ฟให้ฟรีต่างหาก โดยวันนี้เสิร์ฟเป็นวุ้นบ๊วยที่ให้รสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ ตัดกับของคาวได้เป็นอย่างดีรสชาติอาหารโดยรวมถือว่าดีมาก โดยเฉพาะเมนูจานหลักอย่าง Striploin อร่อยไม่แพ้ร้านเนื้อดังหลายๆ ร้านเลย ส่วนที่ประทับใจยังมีข้าวผัดมันเนื้อ ที่ทำให้รู้ว่าการทานมันเนื้อกรอบๆ ได้นี่เป็นอะไรที่สุดยอดมาก และมันบดเองก็ให้รสสัมผัสที่ดีเช่นกัน แทบไม่มีอะไรจะติ ส่วนการบริการอาจจะล่าช้าสักนิด เนื่องจากพนักงานที่อยู่หน้า Front มีแค่ 2 คนเท่านั้น ถ้าใครอาศัยอยู่ย่านนี้ หรืออยากเปลี่ยนมาทานร้านใหม่ๆ ดูบ้าง อยากให้มาลองร้านนี้เป็นอย่างยิ่ง ร้านเนื้อคู่ Butchery & Eateryที่อยู่: 385 ซอย จรัญสนิทวงศ์ 13 กรุงเทพฯเวลาเปิดปิด: 12:00 - 21:00 น. เปิดทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ #ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน#ภาพเมนูอาหารโดยทางร้าน#บทความดังกล่าวถูกเรียบเรียงและแต่งขึ้นโดยนักเขียนเองทั้งหมด#สเต็ก #เนื้อวากิว #เนื้อไทยพรีเมี่ยม #สลัดหิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !