9 ลำดับหยิบของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ป้องกันเสี่ยงอาหารปนเปื้อน มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ทุกครั้งที่เราไปซุปเปอร์มาร์เก็ต หลายคนอาจมองว่าเป็นแค่การเลือกซื้อของเข้าบ้านตามปกติ แต่ในความจริงแล้วการช้อปปิ้งแต่ละครั้งเกี่ยวข้องกับสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหารโดยตรง ที่หลายคนยังมองภาพไม่ออกค่ะ และรู้ไหมคะว่าหากเราเลือกผิดลำดับหรือหยิบของโดยไม่ระวัง อาจทำให้อาหารสดปนเปื้อน หรือเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าที่ควร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังเป็นบ่อเกิดของการปนเปื้อนที่เรามองไม่เห็น ดังนั้นการใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการหยิบของ จึงเป็นเหมือนการสร้างเกราะป้องกันด้านสุขอนามัยให้กับทุกคนในครอบครัวค่ะ โดยสิ่งที่หลายคนมักมองข้ามอีกคือ ความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ เช่น การหยิบอาหารแช่แข็งไว้ตั้งแต่ต้นแล้วปล่อยให้ละลาย การวางเนื้อสดไว้บนผักในรถเข็น หรือการแวะทำธุระอื่นๆ หลังจากซื้อของสดเสร็จแล้ว ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้แม้จะดูเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้ว คือ ช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้จุลินทรีย์ปนเปื้อนเข้าสู่อาหารได้ง่าย หากเราเรียนรู้ลำดับขั้นตอนการหยิบของอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้มากนะคะ และทำให้การไปซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ใช่แค่การซื้อของ แต่เป็นการลงทุนด้านสุขอนามัยที่คุ้มค่าในทุกครั้งค่ะ และต่อไปนี้คือสิ่งที่เราควรทำทุกครั้งเวลาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตนะคะ 1. เริ่มจากของใช้ในบ้านหรือของแห้ง เวลาที่เราเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต สิ่งแรกที่ควรทำคือเริ่มหยิบของใช้ในบ้านหรืออาหารแห้งก่อนค่ะ เช่น กระดาษชำระ ผงซักฟอก ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือขนมขบเคี้ยว เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่เสี่ยงต่อการเน่าเสียหรือปนเปื้อน แม้จะอยู่ในรถเข็นนานๆ ก็ยังปลอดภัย การเลือกหยิบของแห้งก่อนจะช่วยให้การจัดเรียงในรถเข็นเป็นระเบียบ ไม่ปะปนกับของสดที่ต้องการอุณหภูมิแช่เย็น และยังเป็นการ ป้องกันไม่ให้ของสดสัมผัสสิ่งปนเปื้อนจากภายนอก นอกจากนี้ของใช้ในบ้านและของแห้งมักมีบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท จึงเหมาะที่สุดที่จะจัดการในลำดับต้นๆ ของการช้อปปิ้ง เพื่อเว้นพื้นที่และเวลาไว้สำหรับอาหารสดในช่วงท้าย การหยิบสิ่งเหล่านี้ก่อนทำให้เรามีเวลาเลือกอย่างละเอียด ทั้งตรวจสอบฉลาก วันหมดอายุ และบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์ โดยไม่ต้องรีบเร่งเหมือนตอนเลือกของสด การเริ่มจากของใช้และอาหารแห้ง เป็นการวางรากฐานของการซื้อที่ถูกสุขลักษณะ ช่วยลดความเสี่ยง และยังทำให้ขั้นตอนต่อไปเป็นระบบระเบียบมากขึ้นนะคะ 2. ต่อด้วยของบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท หลังจากที่เราเลือกซื้อของใช้ในบ้านหรือของแห้งเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อมาที่เหมาะสมคือ หยิบของที่มีบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทค่ะ เช่น น้ำมันพืช น้ำปลา ซอสปรุงรส นมกล่อง UHT หรืออาหารกระป๋องต่างๆ เพราะกลุ่มสินค้านี้มักจะมีอายุการเก็บรักษายาวนานและไม่ต้องพึ่งความเย็นมากนัก จึงไม่เสี่ยงหากถูกวางไว้ในรถเข็นนานกว่าอาหารสด การหยิบของกลุ่มนี้ในลำดับต้นๆ ของการช้อปปิ้ง ยังช่วยให้การจัดเรียงของในรถเข็นเป็นระบบมากขึ้น เพราะสามารถวางทับซ้อนกันได้โดยไม่ทำให้สินค้าเสียหาย การทำเช่นนี้ยังเปิดโอกาสให้เรามีเวลา ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ ฉลาก และคุณภาพได้อย่างละเอียด โดยไม่ต้องรีบเร่งเหมือนตอนอยู่โซนแช่เย็นหรือแช่แข็งค่ะ เมื่อเลือกของบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ทุกครั้ง กล่องต้องไม่บุบ กระป๋องไม่เป็นสนิม หรือฝาไม่บวม และถุงพลาสติกต้องไม่ฉีกขาด เพราะแม้ความเสียหายเพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นทางให้สิ่งปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและความชื้นเข้าไปปนเปื้อนได้ การสังเกตวันผลิตและวันหมดอายุอย่างละเอียดก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ห้ามมองข้าม เนื่องจากสินค้าหลายชนิดมักถูกวางปนกันทั้งล็อตเก่าและล็อตใหม่ การใส่ใจในรายละเอียดนี้จะทำให้เราได้สินค้าที่ปลอดภัยและเก็บได้นานขึ้น ที่สำคัญคือเมื่อถึงเวลานำกลับบ้าน สินค้ากลุ่มนี้สามารถวางในชั้นเก็บหรือห้องครัวได้เลย โดยไม่ต้องรีบจัดการทันทีเหมือนของสด จึงถือเป็นการสร้างรากฐานให้การช้อปปิ้งอย่างมีลำดับ ที่เป็นระบบปลอดภัยและได้มาตรฐานสุขาภิบาลอาหารค่ะ 3. ไปโซนผักผลไม้ เมื่อจัดการเลือกของใช้ในบ้านและของที่บรรจุภัณฑ์ปิดสนิทเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการไปยังโซนผักผลไม้สดค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุดิบที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบในการเลือกมากที่สุด ผักผลไม้ที่ดีควรมีลักษณะ สด กรอบ และสีสันเป็นธรรมชาติ โดยผักใบเขียวต้องไม่เหี่ยวหรือเหลือง ส่วนผลไม้ไม่ควรมีรอยช้ำหรือเริ่มเน่าเสีย การเลือกผักผลไม้ที่มีคุณภาพดีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อสารตกค้างและการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ได้ นอกจากนี้ควรใส่ถุงพลาสติกหรือถุงตาข่ายแยกแต่ละชนิดเอาไว้ เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับของสดประเภทเนื้อสัตว์ที่จะเลือกต่อไปนะคะ และสิ่งที่ควรใส่ใจเพิ่มเติมอีกคือ หลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีหยดน้ำเกาะมากเกินไป เพราะความชื้นเป็นตัวเร่งให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตเร็วขึ้น ควรเลือกซื้อผักผลไม้ที่หมุนเวียนใหม่อยู่เสมอ และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบที่มีการบรรจุสะอาดในถุงหรือกล่องพลาสติกเจาะรูระบายอากาศ เพราะจะช่วยลดการปนเปื้อนจากการสัมผัสระหว่างขนส่ง การตรวจสอบฉลากหรือสัญลักษณ์แหล่งผลิต ก็เป็นอีกปัจจัยที่บอกได้ถึงความปลอดภัยและมาตรฐานการเกษตร เมื่อเราหยิบผักผลไม้ไว้ในรถเข็นแล้วควรจัดวาง ไว้ด้านบนสุดเสมอ เพื่อไม่ให้ถูกกดทับจนช้ำ และยังคงคุณภาพความสดไปจนถึงเวลานำกลับบ้านค่ะ 4. เลือกอาหารแห้งเย็น เช่น นมสด โยเกิร์ต เนย หลังจากเลือกผักผลไม้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหยิบอาหารแห้งเย็น อย่างเช่น นมสด โยเกิร์ต เนย หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ต้องแช่เย็นค่ะ เพราะว่าสินค้ากลุ่มนี้แม้ต้องการการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ แต่ยังสามารถทนอยู่ในรถเข็นได้ระยะหนึ่งโดยไม่เสื่อมคุณภาพ การเลือกหยิบในลำดับนี้ถือว่าเหมาะสม เพราะไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนง่ายเหมือนเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเล ควรตรวจสอบอุณหภูมิของตู้แช่ว่าทำงานปกติและยังเย็นสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ถูกเก็บรักษาตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร ในขณะเลือกควรตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุอย่างละเอียด เพราะผลิตภัณฑ์จากนมมักมีอายุสั้น หากเลือกที่ใกล้หมดอายุอาจเสี่ยงต่อการเสียเร็วภายในบ้าน นอกจากนี้ควรตรวจสอบลักษณะบรรจุภัณฑ์ให้ครบถ้วน เช่น กล่องนมต้องไม่บวม ฝาโยเกิร์ตไม่โป่ง และเนยไม่ควรมีคราบน้ำมันแยกตัว การใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าอาหารแห้งเย็นที่ซื้อกลับมานั้น สะอาด สดใหม่ และปลอดภัยต่อการบริโภค อีกทั้งยังคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้เต็มที่เมื่อเก็บในตู้เย็นที่บ้านค่ะ 5. เนื้อสัตว์สด เมื่อเลือกอาหารแห้งเย็นเสร็จแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการหยิบเนื้อสัตว์สด ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ หรือเนื้อวัว เพราะอาหารกลุ่มนี้เน่าเสียง่ายและเป็นตัวกลางของจุลินทรีย์ได้ดี จึงควรหยิบในลำดับท้ายๆ ของการซื้อ เพื่อคงความสดให้นานที่สุด โดยเนื้อสัตว์ที่ดีควรมีสีตามธรรมชาติ เช่น เนื้อหมูสีชมพูอ่อน ไก่สีชมพูซีด และเนื้อวัวสีแดงสด ไม่มีจุดคล้ำหรือสีเขียวปน นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่า ตู้แช่เย็นยังคงทำงานปกติ มีความเย็นสม่ำเสมอ และเนื้อถูกจัดเก็บในภาชนะปิดสนิท ไม่สัมผัสโดยตรงกับอากาศ ขณะเลือกซื้อควรใส่ใจเรื่องบรรจุภัณฑ์และความสะอาด หากเป็นเนื้อที่บรรจุในถาด ควรปิดด้วยฟิล์มหุ้มแน่น ไม่มีน้ำเลือดไหลออกมาเลอะถุงหรือรถเข็น ส่วนถ้าเป็นการซื้อแบบตัก ควรขอให้พนักงานใช้ถุงใหม่สะอาดทุกครั้ง และใส่ถุงแยกจากของประเภทอื่นเพื่อป้องกันการปนเปื้อน เนื้อสัตว์สดที่เลือกแล้วควรวางไว้ในรถเข็นชั้นล่างสุด และไม่ควรให้สัมผัสผักผลไม้หรืออาหารแห้ง เพื่อรักษาความสะอาดค่ะ เมื่อกลับถึงบ้านต้องรีบเก็บเข้าตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งทันที เนื่องจากเนื้อสดเป็นอาหารที่เสี่ยงต่อจุลินทรีย์สูง การจัดการอย่างถูกลำดับจะช่วยให้ปลอดภัยต่อสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัวนะคะ 6. อาหารทะเล หลังจากเลือกเนื้อสัตว์สดแล้ว ลำดับถัดไปที่ควรหยิบคืออาหารทะเล เช่น ปลา กุ้ง ปู หรือหอย เพราะเป็นวัตถุดิบที่บอบบางและเน่าเสียง่ายกว่าเนื้อสัตว์ หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป มักจะเกิดกลิ่นคาวแรงและเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสูง การเลือกอาหารทะเลต้องดูว่าตู้แช่เย็นยังทำงานปกติ อุณหภูมิเย็นสม่ำเสมอ และจัดเก็บอยู่บนชั้นน้ำแข็งสะอาดหรือในถาดปิดสนิท ควรเลือกปลาที่ตาใส เหงือกแดงสด เนื้อแน่น กุ้งที่หัวไม่ดำ เปลือกใสแข็งแรง และหอยที่เปลือกปิดสนิทไม่เปิดออก เพราะสิ่งเหล่านี้คือสัญญาณของความสดและความปลอดภัยในการบริโภคค่ะ เมื่อเลือกซื้อแล้วควรบรรจุอาหารทะเลในถุงแยกเฉพาะ และมัดปากถุงให้แน่น เพื่อลดการรั่วซึมของน้ำหรือน้ำแข็งละลายที่จะไหลไปปนเปื้อนอาหารอื่นๆ การจัดวางในรถเข็นควรอยู่ด้านล่างสุดร่วมกับเนื้อสัตว์สด และไม่ควรให้สัมผัสโดยตรงกับผักหรืออาหารที่พร้อมกินทันที นอกจากนี้ควรตรวจสอบวันบรรจุและวันที่ควรบริโภคก่อนเสมอ เพราะอาหารทะเลมีอายุสั้น เมื่อกลับถึงบ้านต้องรีบแช่ตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งทันทีเพื่อคงคุณภาพ การจัดการลำดับการหยิบเช่นนี้ จะช่วยให้อาหารทะเลยังคงความสด สะอาด และปลอดภัยต่อสุขอนามัยนะคะ 7. อาหารแช่แข็ง ในขั้นตอนสุดท้ายของการเลือกซื้อของ เราควรหยิบอาหารแช่แข็งค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม ผักแช่แข็ง เนื้อสัตว์แช่แข็ง หรืออาหารพร้อมทาน เพราะเป็นสินค้าที่ต้องรักษาอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง หากหยิบเร็วเกินไปจะทำให้อาหารละลายบางส่วนและเสี่ยงต่อการเสื่อมคุณภาพ ซึ่งอาหารแช่แข็งที่ดีควรมีพื้นผิวเรียบเนียน ไม่จับตัวเป็นก้อนน้ำแข็งหนา และบรรจุภัณฑ์ต้องปิดสนิท ไม่มีรอยขาดหรือฝ้าขาวมากเกินไป เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณว่า อาหารเคยละลายแล้วถูกแช่แข็งซ้ำ ซึ่งส่งผลต่อทั้ง ความปลอดภัยและรสชาติของอาหารนะคะ เมื่อหยิบอาหารแช่แข็งแล้วควรรีบตรงไปชำระเงินทันที ไม่ควรเดินเลือกของเพิ่มเติมเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ความเย็นของอาหารลดลง ระหว่างการชำระเงินควรแยกถุงอาหารแช่แข็งออกจากของสดและของแห้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนหรือการละลายจนไปสัมผัสอาหารชนิดอื่น หลังจากกลับถึงบ้านต้องรีบเก็บเข้าช่องแช่แข็งทันที และควรจัดเรียงให้เหมาะสมเพื่อให้อากาศเย็นหมุนเวียนได้ทั่วถึงค่ะ การใส่ใจลำดับการหยิบและการเก็บรักษาเช่นนี้ จะช่วยให้อาหารแช่แข็งยังคงคุณภาพและปลอดภัยต่อสุขอนามัย ที่พร้อมรับประทานได้อย่างมั่นใจนะคะ 8. ตรวจสอบและชำระเงิน เมื่อเลือกซื้ออาหารครบทุกโซนแล้ว ขั้นตอนสำคัญก่อนออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ต คือ การตรวจสอบสินค้าอย่างรอบคอบ ควรตรวจดูว่ามีสินค้าชำรุดหรือบรรจุภัณฑ์เสียหายปะปนมาหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบอีกครั้งว่า วันผลิตและวันหมดอายุอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย ไม่ใกล้หมดอายุเกินไป การทบทวนตรงจุดนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่จะนำอาหารที่เสื่อมคุณภาพกลับบ้านโดยไม่ตั้งใจ และยังเป็นการยืนยันว่าเราได้เลือกสินค้าตามลำดับที่ปลอดภัยแล้ว ขณะเข้าคิวชำระเงินควรจัดแยกสินค้าอย่างชัดเจน โดยของสดและอาหารแช่แข็งควรอยู่ถุงหนึ่ง ส่วนของแห้งและของใช้ในบ้านควรอยู่ถุงอีกชุด เพื่อลดโอกาสการปนเปื้อนระหว่างขนส่งกลับบ้านนะคะ หากซื้อของเยอะควรบอกพนักงานให้ช่วยแยกบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สะดวกต่อการจัดเก็บเมื่อถึงบ้าน หลังจากชำระเงินแล้วควรรีบนำของขึ้นรถและมุ่งหน้ากลับทันที โดยเฉพาะในกรณีที่มีอาหารสดหรืออาหารแช่แข็ง การจัดการเช่นนี้ถือเป็นด่านสุดท้ายที่ช่วยคงคุณภาพ และรักษามาตรฐานสุขาภิบาลอาหารได้ครบวงจรค่ะ 9. รีบกลับบ้านและเก็บทันที หลังจากชำระเงินเสร็จแล้ว สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือการรีบกลับบ้านโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะหากมีการซื้ออาหารสดและอาหารแช่แข็ง เพราะวัตถุดิบเหล่านี้เสื่อมคุณภาพได้ง่าย เมื่ออยู่นอกสภาพแวดล้อมที่ควบคุมความเย็น ระหว่างการขนกลับควรจัดวางถุงอาหารให้เป็นระเบียบ ของสดควรอยู่ถุงแยกและไม่ทับของที่บอบบางอย่างผักผลไม้ หากใช้รถยนต์ ควรเลี่ยงการวางไว้ในที่โดนแดดจัดหรืออุณหภูมิสูงเกินไป เพราะจะเร่งการเน่าเสียได้เร็วยิ่งขึ้นนะคะ เมื่อถึงบ้านแล้วควรรีบเก็บอาหารสดและอาหารแช่แข็งเข้าตู้เย็นทันที ก่อนที่จะจัดการของแห้งหรือของใช้อื่นๆ โดยอาหารแช่แข็งควรเก็บในช่องแช่แข็งทันที เพื่อคงอุณหภูมิ ส่วนเนื้อสัตว์สดและอาหารทะเลควรเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา เพื่อรักษาความสด ผักผลไม้ควรล้างและเก็บในช่องผักแยกต่างหากในภาชนะสะอาด ซึ่งการจัดการเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้ คุณภาพของอาหารคงอยู่เต็มที่ แต่ยังเป็นการรักษามาตรฐานสุขาภิบาลอาหารให้ปลอดภัยต่อการบริโภคของทั้งครอบครัวค่ะ ก็จบแล้วค่ะ พอจะมองภาพออกไหมคะ? ซึ่งจากแนวทางข้างต้นถ้าจะสรุปให้ง่ายขึ้นนั้น หลักคิดง่ายๆ ของการไปซุปเปอร์มาร์เก็ต คือ วางลำดับการหยิบของอย่างมีระบบ โดยเริ่มจากของใช้ในบ้านและของแห้ง → ของบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท → ผักผลไม้ → ของแห้งเย็น เช่น นม เนย โยเกิร์ต → เนื้อสัตว์สด → อาหารทะเล → อาหารแช่แข็ง และจบด้วยการตรวจสอบเพื่อชำระเงิน แล้วให้รีบกลับบ้าน ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้เราป้องกันการปนเปื้อน ลดความเสี่ยงจาจุลินทรีย์ และรักษาคุณภาพอาหารได้ดีที่สุด ซึ่งที่สำคัญคือทำให้การซื้อของเป็นกิจวัตรที่ง่ายต่อการทำซ้ำและยึดถือได้จริงในชีวิตประจำวัน สำหรับสิ่งที่ควรนำไปใช้จริงทันที คือ การจัดการเวลาค่ะ หากรู้ว่าจะมีธุระก่อนเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต เราควรไปทำธุระให้เสร็จก่อน แล้วค่อยแวะซื้อของเป็นลำดับสุดท้าย เพื่อไม่ให้อาหารสดและอาหารแช่แข็งต้องอยู่ในรถนานเกินไป ส่วนถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปทำธุระหลังซื้อของ ควรเตรียมกระติกน้ำแข็งหรือถุงเก็บความเย็นไปด้วย เพื่อใส่อาหารแช่แข็งและเนื้อสัตว์ไว้ชั่วคราว วิธีนี้จะช่วยยืดอายุความสดใหม่และป้องกันการเสื่อมคุณภาพของอาหารได้เป็นอย่างดีนะคะ ที่โดยสรุปแล้วการไปซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ปลอดภัยและได้สุขอนามัยที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกของที่สดใหม่ แต่คือการจัดลำดับ คิดเผื่อเวลา และเตรียมวิธีเก็บรักษา เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบเก็บของสดเข้าตู้เย็นทันที จากนั้นจึงค่อยจัดการของแห้งหรือของใช้อื่นๆ โดยแนวทางข้างต้นไม่เพียงแต่ทำให้ครอบครัวได้อาหารที่สะอาดปลอดภัย แต่ยังช่วยลดการสูญเสียอาหารจากการเก็บผิดวิธี เป็นการดูแลสุขอนามัยและประหยัดค่าใช้จ่ายไปพร้อมกันในชีวิตประจำวันค่ะ เพราะผู้เขียนก็ได้นำเคล็ดลับต่างๆ ในบทความนี้ไปใช้เหมือนกันค่ะ โดยในตอนหลังมาตอนที่ได้ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้น มักไม่ได้ไปซื้อของใช้ในบ้าน เพราะส่วนมากเลือกซื้อจากร้านค้าใกล้บ้านและสั่งออนไลน์ สถานการณ์เลยง่ายขึ้นค่ะ ก็แค่เดินไปที่โซนอาหารสดเลย ที่ต่อจากนั้นก็จะเรียงลำดับการเลือกซื้อตามที่ผู้เขียนได้พูดไว้ข้างต้นค่ะ โดยอาหารแช่แข็งจะเป็นสิ่งสุดท้าย และกลับบ้านทันทีไม่แวะที่ไหนค่ะ เพราะอาหารเป็นสื่อของความเจ็บป่วยในคนเราได้ ยังไงนั้นอย่าลืมนำเทคนิคตามสำดับขั้นตอนในบทความนี้ไปใช้นะคะ และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #วิธีซื้อวัตถุดิบทำอาหาร #ซุปเปอร์มาร์เก็ต #ความปลอดภัยในอาหาร #FoodSafety เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Aleksandarlittlewolf จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-7 โดยผู้เขียน และภาพที่ 8 โดย Freepik จาก FREEPIK เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 ชนิดอาหาร ที่ควรเก็บในช่องแช่แข็งทันที หลังซื้อกลับมาบ้าน 10 พฤติกรรมในครัว ทำให้จุลินทรีย์สะสมแบบไม่รู้ตัว ที่ควรรู้! 10 เช็กลิสต์ก่อนซื้อวัตถุดิบสด มาทำอาหารที่บ้าน เลือกยังไงดี หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !