9 ทริคเลือกพุทราสามรส แบบไหนดีอร่อย เก็บมาสดใหม่ น่าซื้อมาก มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ถึงแม้ว่าพุทราสามรสจะเป็นผลไม้ที่มีเปลือกบางและมักล้างง่าย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านสุขอนามัยหากเลือกหรือเก็บรักษาไม่ถูกต้องค่ะ เพราะพุทราที่มีรอยช้ำหรือรอยแมลงกัดสามารถเป็นจุดสะสมของสิ่งปนเปื้อนได้ง่าย เมื่อเก็บไว้ในสภาพที่อับชื้น จุลินทรีย์อาจเติบโตจนทำให้ผลเน่าเสียเร็วกว่าปกติ ซึ่งการกินพุทราที่เริ่มเน่าแม้เพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดความเจ็บป่วยจากอาหารเป็นสื่อได้ นอกจากนี้หากพุทราผ่านการเก็บรักษานานเกินไป รสชาติจะเปลี่ยน เนื้ออาจนิ่มและความหวานอาจกลายเป็นรสหมัก ซึ่งไม่เพียงทำให้เสียอรรถรส แต่ยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ค่ะ และอีกปัจจัยที่ทำให้พุทราสามรสมีความเสี่ยง คือ กระบวนการจัดจำหน่าย บางครั้งพุทราถูกขนส่งโดยไม่มีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้ผลเสื่อมสภาพระหว่างทาง นอกจากนี้การวางขายในที่ที่ไม่สะอาดหรือมีแมลงวันตอม ก็เป็นแหล่งปนเปื้อนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้การเลือกพุทราอย่างระมัดระวังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่เพียงแต่เพื่อให้ได้ผลที่รสชาติดี แต่เพื่อป้องกันปัญหาสุขอนามัยในระยะสั้นและยาวค่ะ และต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการเลือกก่อนซื้อนะคะ 1. สังเกตผิวพุทราให้เรียบเนียนและเงา คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การสังเกตผิวของพุทราสามรสเป็นขั้นตอนแรกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผิวที่เรียบเนียนบ่งบอกถึงความสดและการเก็บเกี่ยวที่ระมัดระวัง พุทราที่ผิวสวยจะไม่มีรอยถลอก รอยช้ำ หรือรอยกดที่เกิดจากการขนส่ง หากผิวมีความมันเงาเล็กน้อย ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าพุทรายังมีความชุ่มน้ำ เนื้อกรอบและแน่น เมื่อนำมากัดจะได้สัมผัสกรุบกรอบเต็มคำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพุทราสามรสที่หลายคนชื่นชอบ การสังเกตด้วยตาเพียงอย่างเดียวในตอนแรกนี้ ก็ช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้ผลที่เนื้อเละหรือมีรสชาติไม่สม่ำเสมอได้ค่ะ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงผลที่มีรอยขีดข่วน จุดดำ หรือผิวที่ดูเหี่ยว เพราะบ่งบอกว่าพุทราอาจเริ่มเสียความสดหรือผ่านการเก็บไว้นาน เพราะผลที่มีตำหนิเล็กน้อยอาจทำให้เนื้อด้านในเน่าเสียเร็ว และยังเป็นจุดที่จุลินทรีย์สามารถเติบโตได้ง่าย การเลือกผิวที่สมบูรณ์ยังทำให้เก็บรักษาได้นานขึ้น และคงรสชาติที่หวานกรอบได้ดี เหมาะกับคนที่ซื้อไปแล้วไม่ได้กินทันที หรืออยากเก็บไว้กินต่ออีก 2-3 วันโดยที่คุณภาพยังดีเหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่ค่ะ 2. เลือกผลที่มีสีเขียวสดหรือเขียวอมเหลืองสม่ำเสมอ ทุกคนรู้ไหมว่า สีของพุทราสามรสเป็นตัวบ่งบอกความสุกและรสชาติที่แม่นยำที่สุด การเลือกผลที่มีสีเขียวสดทั่วทั้งผล เหมาะกับคนที่ชอบความกรอบแน่นและรสหวานอมเปรี้ยวค่ะ เพราะผลที่ยังเขียวสดมักเก็บมาไม่นาน เนื้อยังแน่นกรอบเต็มที่ หากเราต้องการรสหวานมากขึ้น ควรเลือกผลที่มีสีเขียวอมเหลืองสม่ำเสมอทั้งผล เพราะสีนี้บ่งบอกว่าพุทรากำลังสุกพอดี รสชาติหวานกรอบกำลังดี ไม่เละหรือเปรี้ยวจนเกินไป ควรสังเกตให้ละเอียดว่าผลนั้นมีสีสม่ำเสมอทั่วทั้งลูก ไม่เป็นรอยปื้นเหลืองหรือมีสีน้ำตาลปน เพราะนั่นคือสัญญาณว่าพุทราเริ่มสุกงอมและอาจเนื้อนิ่มหรือรสชาติแปรเปลี่ยน การเลือกสีที่สม่ำเสมอทำให้เรามั่นใจได้ว่าเมื่อกัดเข้าไปในแต่ละคำ รสชาติจะคงที่ทั้งผล ไม่เจอความฝาดหรือความเปรี้ยวที่ไม่สมดุล ช่วยให้กินเพลินและเก็บไว้กินต่อได้อีก 1-2 วันโดยไม่เสียรสค่ะ 3. สังเกตความตึงของผิวผล การสังเกตความตึงของผิวพุทราเป็นหนึ่งในเทคนิค ที่ช่วยให้ได้ผลที่ทั้งสดและอร่อยค่ะ ผิวพุทราที่ดีจะดูตึงสวย เรียบเนียน ไม่มีรอยย่นหรือรอยยุบ และมักมีความเงาเล็กน้อยซึ่งบ่งบอกถึงความชุ่มน้ำภายใน เมื่อสัมผัสด้วยตาจะรู้สึกว่าผลแน่นเต็ม ไม่เหี่ยวหรือดูเหมือนน้ำในผลระเหยไปแล้ว พุทราที่ผิวยังตึงแบบนี้จะให้รสชาติกรอบ กัดแล้วได้เสียงกรุบที่หลายคนชอบ อีกทั้งยังมีรสชาติที่หวานกลมกล่อมไม่ฝาด ความตึงของผิวจึงเป็นสัญญาณสำคัญว่า ผลนั้นยังเก็บมาไม่นานและเหมาะสำหรับการรับประทาน ถ้าพบว่าผิวเริ่มเหี่ยวหรือมีรอยย่น แสดงว่าพุทราสูญเสียน้ำไปมาก ทำให้เนื้อด้านในแห้งและแข็ง เมื่อกัดอาจไม่กรอบหรือมีรสชาติเปลี่ยนไป การเลือกผลที่ผิวตึงไม่เพียงแต่ช่วยให้เราได้รสชาติอร่อยเต็มที่ แต่ยังทำให้เก็บได้นานขึ้น หากต้องซื้อมาเก็บไว้ในตู้เย็น การเลือกผลที่ผิวแน่นจะทำให้พุทรายังคงความกรอบได้นานอีก 2-3 วัน สำหรับคนที่ไม่ถนัดเลือก แนะนำให้ใช้มือบีบผลเบาๆ เพื่อตรวจสอบความแน่นร่วมด้วย ถ้าผลเด้งกลับทันทีและไม่ยุบติดอยู่ แปลว่ายังสดและควรซื้อค่ะ 4. ลองใช้มือบีบเบาๆ เพื่อทดสอบความแน่น หลายคนยังไม่รู้ว่า การใช้มือบีบเบาๆ เป็นวิธีที่ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า พุทราสามรสยังสดและมีเนื้อกรอบแน่นอยู่จริง เพียงหยิบผลขึ้นมาแล้วออกแรงกดเล็กน้อยด้วยปลายนิ้ว ถ้าพุทรามีความแน่นและเด้งกลับได้ดี แสดงว่าผลนั้นสดใหม่ เนื้อยังเต็มและฉ่ำน้ำ เหมาะสำหรับการรับประทานในทันที แต่ถ้ารู้สึกว่ายวบหรือนิ่มเกินไป แสดงว่าพุทราเริ่มสุกงอม เนื้อด้านในอาจเละหรือมีรสหวานจนขาดความกรอบ ความนุ่มเกินไปอาจทำให้พุทราเสียง่าย และเก็บต่อไม่ได้นาน วิธีบีบเบาๆ นี้ยังช่วยคัดแยกผลที่อาจมีปัญหาภายใน แม้ว่าผิวภายนอกจะดูสวยก็ตาม เพราะบางครั้งพุทราที่ผ่านการกระแทกอาจนิ่มเฉพาะจุด การทดสอบด้วยมือจึงทำให้เรารู้ได้ก่อนซื้อว่าผลไหนยังดีอยู่ เทคนิคนี้เหมาะกับคนที่อยากซื้อพุทราไปเก็บต่อ 1–2 วัน โดยเลือกผลที่แน่นกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้พุทรายังคงความกรอบในวันที่จะนำมารับประทาน การบีบควรทำอย่างเบามือเพื่อไม่ทำให้ผลช้ำหรือเสียหายค่ะ 5. เลือกผลที่ขนาดใกล้เคียงกัน การเลือกพุทราสามรสที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้การกินสนุกและได้รสชาติสม่ำเสมอ เพราะผลที่โตใกล้กันมักสุกในระดับเดียวกัน เมื่อรับประทานจะได้ความกรอบและรสชาติหวานเปรี้ยวคล้ายกันทุกคำ ไม่เจอผลที่หวานเกินหรือนิ่มเกินสลับกับผลที่ยังดิบอยู่ นอกจากนี้การเลือกผลที่มีขนาดพอดีมือยังช่วยให้กัดกินได้สะดวก ไม่ต้องหั่นหรือแบ่งมากนัก จึงเหมาะสำหรับทำเป็นของว่างหรือใส่ถุงไปกินนอกบ้าน การเลือกผลที่ใกล้เคียงกันยังทำให้การเก็บรักษาง่ายขึ้น เพราะผลจะสุกหรือเปลี่ยนสภาพไปพร้อมๆ กัน ทำให้วางแผนการกินได้ง่าย ไม่เกิดปัญหาบางผลสุกเร็วและเน่าก่อนที่เราจะกินหมด สำหรับคนที่ซื้อพุทรามาทีละเยอะ วิธีนี้ช่วยลดการสูญเสียได้มาก เพราะเราจะสามารถคัดกินได้ทีละชุด โดยไม่ต้องกังวลว่าบางผลจะเสียเร็วจนต้องทิ้งค่ะ 6. ดมกลิ่นเพื่อตรวจสอบความสด ถึงแม้พุทราสามรสจะไม่มีกลิ่นแรงเหมือนผลไม้อื่นๆ แต่กลิ่นก็เป็นตัวบ่งบอกความสดได้อย่างดี ผลที่เพิ่งเก็บใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตามธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสดชื่นสะอาด ถ้าดมแล้วไม่มีกลิ่นผิดปกติ เช่น กลิ่นหมัก กลิ่นเปรี้ยว หรือกลิ่นแอลกอฮอล์ นั่นคือสัญญาณว่าพุทรายังอยู่ในสภาพดีและพร้อมรับประทาน วิธีนี้ง่ายและช่วยเพิ่มความมั่นใจได้โดยไม่ต้องผ่าให้เสียหาย ถ้าพบว่ากลิ่นเริ่มเปรี้ยวหรือมีกลิ่นหมัก ควรหลีกเลี่ยงทันทีเพราะบ่งบอกว่าพุทราเริ่มบูดหรือหมักตามธรรมชาติแล้ว ผลแบบนี้เนื้อมักนิ่มและรสชาติเปลี่ยนจนไม่อร่อย กลิ่นจึงเป็นอีกด่านสำหรับตรวจสอบที่ทำได้เร็ว โดยไม่ต้องใช้สายตาเพียงอย่างเดียว เหมาะมากเมื่อซื้อในตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีให้เลือกจำนวนมาก ซึ่งการดมกลิ่นทีละผลช่วยทำให้เราคัดได้เฉพาะผลที่ดีที่สุดกลับบ้านค่ะ 7. ตรวจดูขั้วผลว่าติดแน่นและยังสด ขั้วของพุทราสามรสถือเป็นจุดสำคัญที่ใช้ตรวจสอบความสดได้ดีมากค่ะ ขั้วที่สมบูรณ์ควรมีสีเขียวสดหรือเขียวอมเหลืองอ่อนๆ ดูชุ่มน้ำ ไม่แห้งกรอบ และยังติดแน่นกับผล ถ้าขั้วยังมีสีสดแสดงว่าพุทราถูกเก็บมาไม่นาน เนื้อภายในจึงยังเต็มไปด้วยน้ำและมีความกรอบชุ่มฉ่ำ ลองใช้มือจับขั้วแล้วดึงเบาๆ หากขั้วยังแน่นไม่หลุดง่าย นั่นคือผลที่อยู่ในสภาพดี แต่ถ้าขั้วหลุดออกง่ายหรือแห้งกรอบจนเปราะแตก นั่นเป็นสัญญาณว่าพุทราอาจเก็บไว้นานหลายวันจนความสดลดลงแล้ว การให้ความสำคัญกับขั้วผลยังช่วยให้เราเลือกพุทราที่เก็บรักษาได้นานกว่า เพราะขั้วที่ติดแน่นทำหน้าที่เหมือนฝาปิดธรรมชาติ ป้องกันการระเหยของความชื้นและชะลอการเน่าเสีย หากเราซื้อพุทราไปเก็บในตู้เย็น การเลือกผลที่มีขั้วสดจะช่วยคงรสชาติหวานกรอบได้นานอีกหลายวัน นอกจากนี้ควรจัดวางพุทราโดยให้ขั้วหงายขึ้น เพื่อป้องกันน้ำหรือความชื้นค้างอยู่รอบขั้วซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อรา ซึ่งเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ นี้เหมาะมากสำหรับคนที่ซื้อครั้งละเยอะและอยากเก็บให้ได้นานที่สุดค่ะ 8. ตรวจสอบรอยแมลงกัดหรือรอยตำหนิเล็กๆ รอยแมลงกัดหรือรอยตำหนิเล็กๆ บนผิวพุทรา เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะแม้จะดูเล็กน้อยแต่สามารถทำให้ผลเน่าเสียได้รวดเร็ว โดยจุดเหล่านี้มักเป็นทางเข้าของจุลินทรีย์ที่ทำให้เนื้อด้านในเริ่มเสีย โดยที่ตาเปล่าอาจยังไม่เห็น หากเก็บไว้ต่อเพียงวันหรือสองวัน อาจเกิดจุดสีน้ำตาลหรือเนื้อเละจนต้องทิ้งทั้งผล ดังนั้นการตรวจรอบๆ ผลก่อนซื้อจึงสำคัญมาก การสังเกตให้ดีตั้งแต่ตอนเลือกจะช่วยให้เราได้ผลที่สะอาดและสดใหม่ เหมาะกับการกินสดหรือนำไปทำอาหาร นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงผลที่มีตำหนิยังช่วยให้เก็บรักษาได้นานขึ้น เพราะไม่มีจุดที่ความชื้นและเชื้อโรคจะสะสม ทำให้พุทราอยู่ในสภาพกรอบได้นานกว่า การเลือกผลที่ผิวเรียบสมบูรณ์ยังช่วยให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากรอยแมลงกัดบางชนิดอาจเป็นรอยที่เหลือสารคัดหลั่งหรือแม้กระทั่งไข่ของแมลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรปนเปื้อนในอาหาร และเคล็ดลับง่ายๆ คือให้หมุนผลให้รอบตัวใต้แสงสว่างหรือแสงธรรมชาติ จะช่วยให้มองเห็นตำหนิเล็กๆ ได้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ 9. เลือกปริมาณให้พอดีต่อการกิน การเลือกซื้อพุทราสามรสในปริมาณที่พอดี เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้เราได้รสชาติสดใหม่ทุกครั้งที่กินค่ะ ควรกะปริมาณตามจำนวนคนในบ้านและความถี่ที่เราตั้งใจจะกินพุทรา เช่น ถ้าซื้อให้กินเล่นในครอบครัวเล็กๆ ควรเลือกเพียงพอสำหรับ 2-3 วัน เพื่อให้พุทรายังคงความกรอบและความหวานที่ดีที่สุดนะคะ หากซื้อเยอะเกินไปแล้วเก็บไว้นาน พุทราจะค่อยๆ สูญเสียน้ำจนเนื้อเริ่มนิ่ม รสชาติเปลี่ยนไป หรือแม้แต่เกิดเชื้อราที่ผิวได้โดยไม่ทันสังเกต การเลือกพอดีต่อการกินจึงช่วยลดทั้งการสูญเสียและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นต้องซื้อปริมาณมาก เช่น ซื้อยกกิโลในช่วงที่ผลผลิตออกมาก ราคาถูก ควรแบ่งใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิดแต่มีรูระบายอากาศเล็กน้อย และเก็บในตู้เย็นชั้นผักเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ พร้อมทั้งแยกผลที่มีรอยช้ำออกมากินก่อน วิธีนี้ช่วยให้ผลที่เหลือเก็บได้นานและไม่เน่าเร็ว ลดการทิ้งอาหารโดยไม่จำเป็น และยังคงได้พุทราที่สดใหม่ทุกครั้งที่หยิบมากินค่ะ ที่โดยสรุปแล้วการเลือกพุทราสามรสที่ดีเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยให้เราได้ผลไม้ที่ทั้งอร่อยและปลอดภัยค่ะ โดยเราควรเริ่มจากการสังเกตผิวที่เรียบเนียนและเงาเล็กน้อย ไม่มีรอยช้ำหรือรอยตำหนิ เพราะผิวคือด่านแรกที่บอกถึงความสด เลือกผลที่มีสีเขียวสดหรือเขียวอมเหลืองสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รสชาติที่กรอบหวานกำลังดี จากนั้นลองใช้มือบีบเบาๆ เพื่อทดสอบความแน่น ผลที่เด้งกลับไม่ยุบแสดงว่ายังสดและเก็บมาไม่นาน อย่าลืมตรวจดูขั้วว่าติดแน่นและยังมีสีสด เพราะขั้วที่สมบูรณ์จะช่วยเก็บความชุ่มชื้นในผลให้นานขึ้นค่ะ นอกจากดูความสวยของผลแล้ว ควรหลีกเลี่ยงพุทราที่มีรอยแมลงกัด รอยช้ำ หรือจุดดำเล็กๆ เพราะรอยเหล่านี้เป็นทางเข้าของเชื้อราและทำให้ผลเสียเร็วขึ้น ลองดมกลิ่นผลเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ถ้ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตามธรรมชาติและไม่มีกลิ่นหมัก แสดงว่าผลยังสดดี การเลือกผลที่ขนาดใกล้เคียงกันก็ช่วยให้รสชาติสม่ำเสมอและสุกพร้อมกันทั้งชุด ทำให้กินเพลินทุกคำ และง่ายต่อการเก็บรักษา นอกจากนี้อย่าลืมเลือกปริมาณที่พอดีต่อการกิน เพื่อป้องกันไม่ให้พุทราสุกเกินหรือเน่าเสียก่อนจะได้กินหมดค่ะ และที่สำคัญที่สุดการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการเลือกพุทรา เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด แต่ยังช่วยให้การเก็บรักษาในบ้านง่ายขึ้น ลดการสูญเสียและช่วยให้เงินที่จ่ายไปคุ้มค่า เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวที่กินประจำและคนที่ซื้อไปฝากผู้อื่น โดยเคล็ดลับข้างต้นทำได้ง่ายแม้คนที่ไม่ถนัดเลือกผลไม้ เพราะเพียงสังเกตไม่กี่จุดก็สามารถเลือกพุทราที่สด กรอบ และปลอดภัยได้ทุกครั้ง ทำให้มั่นใจว่าทุกคำที่กินเต็มไปด้วยความอร่อยและคุณภาพค่ะ ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้ใช้แนวทางต่างๆ ในบทความนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเหมือนกันค่ะ โดยการเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ ซื้อจากเกษตรกรที่ปลูกได้เองหรือคนในพื้นที่นำพุทราจากสวนมาขาย แบบนี้คือตัวเลือกที่ผู้เขียนมองหาประจำค่ะ อีกทั้งการกดเบาๆ การดูสีผิวของผลและการเลือกลูกขนาดกลาง ที่ไม่เล็กจนเกินไปหรือไม่ใหญ่จนเกินไป คืออีกเคล็ดลับที่ผู้เขียนไม่ลืมค่ะ โดยเคล็ดลับทั้งหมดผู้เขียนสามารถประยุกต์ใช้ได้จากแหล่งขายทุกที่ ต่อให้เป็นพุทราสามรสที่แม่ค้านำมาวางขายริมทางก็ตาม แบบนี้ผู้เขียนก็ยังสามารถเลือกพุทราแบบดีและมีคุณภาพได้เหมือนเดิมค่ะ ดังนั้นอย่าลืมนำเทคนิคต่างๆ ไปใช้นะคะ และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #พุทราสามรส #วิธีเลือกผลไม้สด #ความปลอดภัยของอาหาร #FoodSafety เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 ทริคเลือกแอปเปิลกาล่า ซื้อแบบไหนดี สดใหม่ รสชาติกรอบอร่อย 10 เคล็ดลับลดสารเคมีตกค้าง ในผักและผลไม้สด ต้องทำอะไรบ้าง? 9 ทริคเลือกมะกอกฝรั่ง กินจิ้มพริกเกลือ แบบไหนดี กรอบอร่อย หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !