9 เคล็ดลับเลือกต้นหอม สดใหม่ น่าซื้อ มาทำอาหาร | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การเลือกต้นหอมสดใหม่เป็นสิ่งสำคัญมากในการทำอาหาร เพราะความสดใหม่นั้น จะช่วยให้ได้รสชาติของอาหารอร่อยและทำให้อาหารน่ารับประทานยิ่งขึ้นค่ะ เราจึงเห็นว่าคนทำอาหารส่วนมากจะให้ความสำคัญในการเลือกวัตถุดิบก่อนเสมอ ที่ผู้ช่วยหรือคนในบ้านก็มีส่วนช่วยได้ ด้วยการเลือกต้นหอมสดใหม่ด้วยเคล็ดลับดีๆ ในบทความนี้ค่ะ ที่รับรอว่าอ่านจบมองเห็นภาพและนำไปใช้ได้อย่างมืออาชีพแน่นอน ต่อให้จะเพิ่งเคยตลาดครั้งแรกก็ตาม ดังนั้นลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูนะคะ 1. ดูที่ส่วนหัว ส่วนหัวของต้นหอมเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการเลือกซื้อต้นหอมสดใหม่ค่ะ เพราะส่วนหัวเป็นส่วนที่บ่งบอกถึงความสดและคุณภาพของต้นหอมได้เป็นอย่างดี ส่วนหัวของต้นหอมที่ดีควรมีความแน่น ไม่หลวม เมื่อกดเบาๆ จะรู้สึกได้ถึงความแข็งแรง ไม่ยุบตัว ซึ่งแสดงว่าต้นหอมยังสดใหม่และมีน้ำหนัก ผิวของส่วนหัวควรเรียบเนียน ไม่ขรุขระ หรือมีรอยช้ำ รอยบุบ เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าต้นหอมเริ่มเน่าเสีย สีของส่วนหัวควรเป็นสีขาวอมเขียว หรือสีขาวอมเหลืองอ่อนๆ สีที่สม่ำเสมอทั่วทั้งหัว และไม่มีรอยด่างดำ ที่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีรอยเน่า หรือรอยเปียกชื้นบริเวณส่วนหัว เพราะจะทำให้ต้นหอมเสียรสชาติและมีกลิ่นเหม็นค่ะ 2. ดูที่ราก การสังเกตรากเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการเลือกซื้อต้นหอมค่ะ เพราะว่ารากของต้นหอมจะบ่งบอกถึงความสดใหม่และอายุของต้นหอม โดยรากของต้นหอมที่ดีควรติดแน่นกับลำต้น ไม่หลุดล่อนง่าย เมื่อดึงเบาๆ รากจะไม่ขาดออกจากลำต้น รากควรมีความยาวพอสมควร ไม่สั้นเกินไป และไม่ยาวจนเกินไป รากที่ยาวพอสมควรจะบ่งบอกว่าต้นหอมมีระบบรากที่แข็งแรง สีของรากควรเป็นสีขาวอมเหลือง หรือสีขาวอมชมพูอ่อนๆ สีที่สม่ำเสมอทั่วทั้งราก และไม่มีรอยด่างดำ 3. สัมผัสความแข็งแรง ลำต้นของต้นหอมสามารถบ่งบอกความสดใหม่ของต้นหอมได้ค่ะ เนื่องจากลำต้นที่แข็งแรงจะบ่งบอกถึงคุณภาพของต้นหอม ปกติลำต้นควรมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป และไม่นิ่มจนเกินไป ลำต้นที่ยืดหยุ่นจะบ่งบอกว่าต้นหอมยังสดใหม่ ผิวของลำต้นควรเรียบเนียน ไม่ขรุขระ หรือมีรอยช้ำ รอยบุบ เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าต้นหอมเริ่มเน่าเสีย ควรเลือกต้นหอมที่มีลำต้นมีความชุ่มชื้นเล็กน้อย ไม่แห้งกรอบ หรือเน่าเปื่อย ลำต้นที่ชุ่มชื้นจะช่วยให้ต้นหอมสดใหม่ได้นานขึ้นค่ะ ลำต้นที่แข็งแรงจะช่วยให้ต้นหอมคงความกรอบเมื่อนำไปประกอบอาหาร ตลอดจนลำต้นที่แข็งแรงและยืดหยุ่นบ่งบอกว่าต้นหอมเพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และยังคงความสดอยู่ 4. สังเกตสี สีของใบต้นหอมเป็นตัวบ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของต้นหอมได้เป็นอย่างดีค่ะ ใบที่สีเขียวสดใสจะบ่งบอกว่าต้นหอมได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและยังคงความสดใหม่ โดยสิ่งที่ควรสังเกตในใบของต้นหอม ได้แก่ สีเขียวสดใส: ใบของต้นหอมที่ดีควรมีสีเขียวสดใสทั่วทั้งใบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนโคนหรือปลายใบ ไม่มีสีเหลือง: ใบที่เริ่มเหลืองแสดงว่าต้นหอมเริ่มแก่หรืออาจได้รับความเสียหายจากการเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธี ไม่มีจุดด่างๆ: ใบที่ไม่มีจุดด่างดำหรือรอยช้ำแสดงว่าต้นหอมไม่มีโรคและแมลงรบกวน ใบเรียบเนียน: ใบควรเรียบเนียน ไม่ขรุขระ หรือมีรอยฉีกขาด ใบมีความมันวาว: ใบที่ยังคงความมันวาวแสดงว่าต้นหอมยังคงความสดใหม่ 5. ดมกลิ่น การดมกลิ่นเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณผู้อ่านเลือกซื้อต้นหอมสดใหม่ได้ค่ะ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของต้นหอมนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพ และสิ่งที่ควรสังเกตเมื่อดมกลิ่นของต้นหอม เช่น กลิ่นหอมฉุน: ต้นหอมสดจะมีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว ซึ่งเป็นกลิ่นที่เราคุ้นเคยกันดี ไม่มีกลิ่น: หากต้นหอมไม่มีกลิ่นเลย แสดงว่าต้นหอมอาจจะไม่สดใหม่ หรืออาจจะเก็บไว้นานจนกลิ่นจางหายไป กลิ่นเหม็น: หากต้นหอมมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นเน่า แสดงว่าต้นหอมเน่าเสียแล้ว ไม่ควรนำมาบริโภค กลิ่นผิดปกติ: หากกลิ่นของต้นหอมผิดปกติไปจากกลิ่นต้นหอมทั่วไป อาจเป็นเพราะต้นหอมได้รับการปนเปื้อนจากสารเคมี หรือสารอื่นๆ 6. ดูความยาวของใบ ความยาวของใบต้นหอมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของต้นหอมค่ะ ใบที่ยาวและสมบูรณ์จะบ่งบอกว่าต้นหอมเจริญเติบโตได้ดีและได้รับสารอาหารเพียงพอ ใบของต้นหอมที่ดีควรมีความยาวพอสมควร ไม่สั้นเกินไป และไม่ยาวจนเกินไป ใบที่ยาวเกินไปอาจจะแก่เกินไป ใบควรมีความสมบูรณ์ ไม่ขาด ไม่ฉีกขาด และไม่มีรอยแหว่ง ปลายใบควรมีสีเขียวสดใส ไม่เหลือง ไม่แห้งกรอบ และไม่มีรอยไหม้ ใบควรมีความหนาพอสมควร ไม่บางจนเกินไป ใบที่หนาจะบ่งบอกว่าต้นหอมแข็งแรง 7. ตรวจสอบความชื้น ความชื้นของต้นหอมเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่และอายุของต้นหอมค่ะ หากต้นหอมมีความชื้นมากเกินไป อาจทำให้เกิดเชื้อราและเน่าเสียได้ แต่หากแห้งเกินไป ก็จะทำให้ต้นหอมเหี่ยวเฉาและสูญเสียความสด โดยใบและลำต้นของต้นหอมที่ดีควรมีความชื้นเล็กน้อย สัมผัสแล้วรู้สึกเย็น หากใบและลำต้นเปียกชุ่มเกินไป แสดงว่าต้นหอมอาจเก็บมาจากที่ชื้น หรือเก็บไว้ในที่อับชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ หากใบและลำต้นแห้งกรอบ แสดงว่าต้นหอมขาดน้ำและสูญเสียความสด รากของต้นหอมควรมีความชื้นเล็กน้อย ไม่แห้งกรอบ และไม่เน่าเปื่อย 8. หลีกเลี่ยงต้นหอมที่มีรอยช้ำ รอยช้ำหรือรอยแตกบนต้นหอมเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าต้นหอมนั้นได้รับความเสียหาย และอาจนำไปสู่การเน่าเสียได้ง่าย เพราะรอยช้ำจะเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อภายในได้ง่ายขึ้น ทำให้ต้นหอมเสียคุณภาพและไม่เหมาะแก่การนำไปประกอบอาหาร และสิ่งที่ควรสังเกตเมื่อตรวจสอบรอยช้ำบนต้นหอม มีดังนี้ รอยช้ำสีม่วงหรือน้ำตาล: รอยช้ำเหล่านี้มักจะเกิดจากการกระแทกหรือการบีบอัด ซึ่งจะทำให้เนื้อเยื่อภายในเสียหายและอาจเน่าเสียได้ในที่สุด รอยแตก: รอยแตกบนใบหรือลำต้นของต้นหอมจะทำให้เชื้อราหรือแบคทีเรียเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อได้ง่ายขึ้น รอยแผลเปิด: แผลเปิดใดๆ บนต้นหอม เช่น รอยขีดข่วนหรือรอยฉีกขาด ล้วนเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าไปทำลายได้ทั้งสิ้นค่ะ 9. เลือกต้นหอมที่มีขนาดพอเหมาะ การเลือกต้นหอมให้มีขนาดพอเหมาะนั้นสำคัญมากค่ะ เพราะจะช่วยให้คุณผู้อ่านใช้ต้นหอมได้อย่างคุ้มค่า ไม่เหลือทิ้ง และยังช่วยให้คุณผู้อ่านเก็บรักษาต้นหอมที่เหลือได้อย่างถูกวิธีอีกด้วย โดยสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกขนาดของต้นหอม ได้แก่ ปริมาณที่ต้องการใช้: ประเมินปริมาณต้นหอมที่คุณจะนำไปใช้ประกอบอาหารในแต่ละมื้อ หรือแต่ละครั้งที่ทำอาหาร ขนาดของหัว: ต้นหอมมีหลายขนาด ตั้งแต่หัวเล็กไปจนถึงหัวใหญ่ เลือกขนาดที่เหมาะสมกับปริมาณที่ต้องการใช้ จำนวนใบ: พิจารณาจำนวนใบของต้นหอม หากต้องการใบเยอะ ก็ควรเลือกต้นหอมที่มีใบดก สูตรอาหาร: ตรวจสอบสูตรอาหารที่คุณผู้อ่านจะทำ เพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณต้นหอมที่เลือกนั้นเพียงพอ และเหตุผลที่ควรเลือกขนาดต้นหอมให้พอเหมาะก็เพราะว่า ประหยัด: ไม่ต้องซื้อต้นหอมมากเกินไป และทำให้ไม่ต้องทิ้ง สดใหม่: ต้นหอมที่ซื้อมาใช้แค่พอดีมักสดใหม่ค่ะ ในขณะที่หากมีต้นหอมเหลือ แล้วไม่สามารถเก็บรักษาได้อย่างถูกวิธี แบบนี้จะทำให้ต้นหอมของเราลดคุณภาพลงนะคะ ควบคุมรสชาติ: การใช้ปริมาณต้นหอมที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณผู้อ่านควบคุมรสชาติของอาหารได้ดีขึ้นค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับเคล็ดลับสำหรับเลือกต้นหอมสดใหม่มาทำอาหาร ไม่ยากเกินไปใช่ไหมคะ? โดยเคล็ดลับทั้งหมดนั้น ผู้เขียนเองก็ได้นำมาใช้ในชีวิตจริงเหมือนกันค่ะ ที่มักซื้อต้นหอมจากร้านที่ไว้ใจได้ ใบต้นหอมต้องเขียวสดใส ปลายใบไม่แห้งกรอบ และลำต้นแข็งแรงค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านอย่าลืมนำเทคนิคดีๆ ข้างต้นไปใช้บ้างนะคะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/RLlkmRpZPRPy https://food.trueid.net/detail/boG0mV7N90RM https://food.trueid.net/detail/mOZZWl9N73LO เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !