ช่วงนี้หากเดินผ่านตลาดสดก็จะเห็นเจ้าลูกกลม ๆ เขียว ๆ ม่วง ๆ มีวางขายค่อนข้างเยอะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม หลาย ๆ คน อาจจะรู้จักแต่หลาย ๆ คน อาจจะไม่เคยทาน หรือบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักเลยก็มีค่ะ ผู้เขียนรู้จักแอปเปิ้ลสตาร์ครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อน มีแม่ของเพื่อนเอามาให้ทาน เขาเรียก "แอปเปิ้ลเมือง" บ้างก็เรียกว่า แอปเปิ้ลหนัง, หมากน้ำนม, ลูกนมวัว, แอปเปิ้ลละมุด, บักน้ำนม, บักยาง, แอปเปิ้ล น้ำหรือแอปเปิ้ลป่า ซึ่งชื่อเรียกก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ทางภาคเหนือจะเรียก แอปเปิ้ลเมือง, แอปเปิ้ลหนัง และหมากน้ำนมค่ะ แอปเปิ้ลสตาร์เป็นผลไม้โบราณที่หาทานยากค่ะ แอปเปิ้ลสตาร์ไม่ใช่ผลไม้ของไทยเรานะคะ ถิ่นกำเนิดของแอปเปิ้ลสตาร์อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสค่ะ แอปเปิ้ลสตาร์ถูกนำเข้ามาปลูกที่ประเทศลาวช่วงที่ประเทศลาวตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส แต่ปัจจุบันกลายเป็นพืชพื้นเมืองของไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและกัมพูชาค่ะ ลักษณะของแอปเปิ้ลสตาร์จะมีลูกกลม ๆ เปลือกค่อนข้างหนามีหลายสายพันธุ์ทั้งพันธุ์เปลือกสีเขียว สีเหลือง สีม่วงแดง พันธุ์เปลือกเขียวเนื้อขาว และพันธุ์เปลือกม่วงเนื้อสีขาวม่วง ส่วนที่ผู้เขียนเคยเห็นและเคยทานจะเป็นพันธุ์เปลือกเขียวเนื้อขาว และพันธุ์เปลือกม่วงเนื้อสีขาวม่วงค่ะ เมล็ดจะมีลักษณะแบนดำมันวาว 1 ผลจะมีเมล็ดประมาณ 1 - 5 เมล็ด ผลสุกที่สามารถทานได้ก็จะมีสีม่วงเข้มเกือบดำแบบนี้ค่ะ เนื้อของแอปเปิ้ลสตาร์ เนื้อสีขาวหรือสีขาวอมม่วง (ผู้เขียนชอบแบบอมม่วงมากกว่าค่ะ สีม่วงน่าจะช่วยบำรุงสายตาได้มากกว่าค่ะ) มีเนื้อเยื่อสีขาวใสหุ้มเมล็ดอยู่ (ลักษณะคล้ายกับเนื้อของมังคุดค่ะ) ส่วนวิธีทานก็ผ่าครึ่งก่อนแล้วก็ทานเนื้อ สีขาวสีม่วงด้านในค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนเมื่อได้ลองทานครั้งแรกคิดว่าคล้ายกับน้อยหน่าค่ะ แต่เนื้อของแอปเปิ้ลสตาร์จะเนียนกว่านุ่มลิ้นมากกว่ารสชาติจะหวานนิด ๆ ค่ะ ทานแล้วจะเลอะเทอะปากนิดนึง เพราะแอปเปิ้ล สตาร์จะมีน้ำสีขาวขุ่น ผู้เขียนจึงใช้ช้อนตักทานค่ะ น้ำสีขาวขุ่นรสชาติหวานนิด ๆ ทานแล้วชื่นใจดีค่ะ ประโยชน์ของแอปเปิ้ลสตาร์ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยดับกระหายและแก้ร้อนใน ส่วนเปลือกของแอปเปิ้ลสตาร์จะนำมาต้มเป็นยาบำรุงร่างกาย ยาชูกำลังและยาแก้ไอค่ะ แอปเปิ้ลสตาร์เป็นผลไม้หาทานยากค่ะ 1 ปีจะได้ทานแค่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนมีนาคมหรือช่วงต้น ๆ เดือนเมษายนก็ยังมีขายอยู่บ้างค่ะ ราคาค่อนข้างสูงค่ะเพราะหาทานยาก 1 กิโลกรัมราคา 50 - 80 บาทค่ะ เครดิตภาพ : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน