Cover Photo by Ivan Calderon on Unsplash หลายวันมานี้ฉันไล่ดูคลิปใน YouTube มากมาย ว่าด้วยการทำยังไงถึงจะตื่นเช้าตรู่ได้สำเร็จ ไล่ดู Morning Routine ของสาว ๆ ยูทูปเบอร์ทั้งหลาย ยิ่งเกิดแรงบันดาลใจที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรต่อมิอะไรแต่เช้ามืด และหนึ่งใน Morning Routine ที่น่าจะดึงเราจากเตียงขึ้นมาตอนตีห้าได้ นั่นคือการได้ตื่นเช้ามาจิบกาแฟดี ๆ สักแก้วขณะดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูคลิปตื่นเช้า แล้วเลยพาลไหลไปดูวิธีชงกาแฟของสาว ๆ ด้วย ทำให้นึกถึงเจ้าแก้วกดกาแฟหรือที่เรียกว่า French Press ของตัวเองขึ้นมาได้ ร้อยวันพันปีไม่เคยหยิบมาใช้ เพราะเกิดความฝังใจว่าชงกาแฟด้วยเจ้านี่ยังไงก็ไม่เคยได้เรื่อง Photo by Helena Lopes on Unsplash อันที่จริงการชงกาแฟด้วย French Press นั้นง่ายจนไม่รู้จะง่ายยังไง แค่ตักผงกาแฟบดแล้วใส่ลงไปในแก้วชง เทน้ำร้อนลงไป ใช้ช้อนคนเบา ๆ ให้กาแฟเข้ากับน้ำร้อน จากนั้นเอาก้านกดกาแฟปิดไว้ด้านบน ทิ้งไว้ประมาณ 4 นาที เมื่อครบเวลา จึงค่อย ๆ กดก้านนี้ลงไปช้า ๆ จนผงกาแฟถูกกดไปรวมกันใต้ตะแกรง ก็จะได้กาแฟดำเข้มข้นข้างบนที่รินดื่มได้ ไม่เข้มข้นขนาดเอสเพรสโซ่ บางคนบอกว่าแค่อเมริกาโน่สายโหด เช้านี้ฉันหยิบ French Press ออกมาให้โอกาสตัวเองใหม่ ลองทำกาแฟสำหรับยามเช้าให้ตัวเอง แต่ผลก็ยังออกมาเซ็ง ๆ งั้น ๆ ใจหนึ่งคิดว่าหรือเครื่องชงคงไม่ดี วันนี้คงต้องออกไปซื้อยี่ห้อใหม่ แต่อีกใจก็เริ่มสงสัยว่าอาจไม่ใช่ French Press หรอกที่ไม่ดี ที่กาแฟมันออกมาไม่ดีก็น่าจะเพราะคนชงนี่แหละ Photo by Liana Mikah on Unsplash ได้สติดังนั้นก็ตั้งอกตั้งใจ ลองศึกษาจากเหล่ากูรูใน YouTube ใหม่ ว่าฉันทำผิดพลาดอะไร กาแฟจาก French Press ถึงออกมาดีงามไม่ได้สักที ดูไปหลายคลิปจึงได้เกิดพุทธิปัญญา รู้แจ้งว่าตัวเองนั้นทำผิดพลาดมากมายเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พอช่วงบ่ายจึงให้โอกาส French Press เอ๊ย! ให้โอกาสตัวเองใหม่ ปรากฏว่ากาแฟแก้วบ่ายนี้ “ปัง” ขึ้นมาก โชคดีที่ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่ได้แก้ยาก แต่เป็นข้อผิดพลาดระดับทั่วไป ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ฉันขอเอา “ข้อผิดพลาดในการชงกาแฟแบบ French Press ที่บ้าน” มาฝากคุณผู้อ่านเสียเลยดังนี้ Photo by Claudiu Hegedus on Unsplash ใช้น้ำเดือดเกินไป อุณหภูมิของน้ำร้อนที่พอเหมาะอยู่ที่ราว 93 องศาเซลเซียส ถ้าน้ำเดือดร้อนจี๋ควรวางทิ้งไว้สัก 30 วินาทีถึงหนึ่งนาทีเพื่อให้อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือด ใช้กาแฟบดละเอียดเกินไป French Press ออกแบบก้านกดที่มีตะแกรงด้านล่างมา เพื่อดันผงกาแฟลงไปและกันไว้ไม่ให้มันลอยมาปะปนกับน้ำกาแฟ แต่ช่องตะแกรงนี้ไม่ได้ละเอียดแบบฟิลเตอร์ในเครื่องชงกาแฟอื่น ๆ ดังนั้นมันจึงเหมาะกับกาแฟบดหยาบ เม็ดขนาดราวเกลือทะเล หากใช้กาแฟบดละเอียดเกินไป ผงกาแฟอาจลอดตะแกรงขึ้นมาปนกับน้ำกาแฟได้ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่พึงประสงค์ในการดื่ม Photo by Janko Ferlic from Pexels อัตราส่วนกาแฟต่อน้ำไม่พอดี ข้อนี้แหละน่าจะคือความผิดพลาดของฉัน สัดส่วนกาแฟต่อน้ำร้อนที่เหมาะสมนั้น บางกูรูบอกว่า 1: 12 บางคนก็ 1:15 ก็แล้วแต่ว่านักดื่มชอบเข้มหรืออ่อนด้วย คนชงมืออาชีพเขาใช้วิธีชั่งตวงวัด แต่มือสมัครเล่นอย่างเรา ถ้าเอาแบบคร่าว ๆ ง่าย ๆ ใช้อัตราผงกาแฟบดแล้ว 1 ช้อนตวงกาแฟ (เท่ากับ 2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 6 ออนซ์ (3/4 ถ้วย) ลองชงดูว่าออกมาพอดีสำหรับคุณไหม ถ้าไม่ใช่ก็ค่อย ๆ ปรับจนเจอสูตรของตัวเอง เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะถ้าใช้วิธี “กะ ๆ เอา” ทุกครั้ง โอกาสที่จะออกมาพังย่อมสูง ทิ้งกาแฟไว้ใน French Press นานไป อย่าทิ้งกาแฟไว้นานเกิน 4 นาที เพราะยิ่งทิ้งไว้ความขมก็จะเพิ่มขึ้น งานนี้ฉันถึงกับต้องตั้งนาฬิกาจับเวลา เมื่อครบเวลาให้ใช้ก้านกดกดผงกาแฟลงก้นแก้วช้า ๆ เพื่อไม่ให้กากกาแฟตีกลับขึ้นมา จากนั้นให้รินออกมาใส่ถ้วยกาแฟจนหมด ส่วนตัวฉันนำถ้วยกาแฟไปอุ่นร้อน ก่อนรินกาแฟจาก French Press ใส่ลงไป ทำให้ได้กาแฟที่ร้อนกำลังดี Photo by Nik MacMillan on Unsplash เมื่อแก้ความผิดพลาดเหล่านี้ได้ กาแฟจาก French Press ก็ออกมาดีกว่าตอนเช้ามาก ฉันได้กาแฟดำที่เข้มข้นเต็มแน่นเข้าถึงรสชาติ เพราะการใช้ก้านกดทำให้กาแฟยังรักษาน้ำมันตามธรรมชาติไว้ ไม่ถูกซับออกไปเหมือนการใช้กระดาษกรองในเครื่องชงกาแฟอื่น ๆ นี่เองเหตุผลที่แม้เครื่องชงกาแฟจะพัฒนาเทคโนโลยีไปแค่ไหน French Press ก็ยังเป็นวิธีชงกาแฟคลาสสิคที่ไว้ใจได้เสมอ ยืนหยัดอยู่คู่คอกาแฟมายาวนานตั้งแต่ถูกคิดค้นในปี 1929 เรียกว่าอีกไม่กี่ปีก็จะอายุครบร้อยแล้ว! ขอแค่คนชง (ใครไม่รู้) อย่าขี้เกียจเกินไป ทำความเข้าใจเพิ่มอีกสักนิด French press ก็จะผลิตกาแฟถ้วยโปรดให้ทุกเช้า งานนี้เลยไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องชงอันใหม่ แค่ใส่ความตั้งใจเพิ่มลงไปเท่านั้นเอง!