ขนมถังแตกขนมไทยโบราณ ขนมไทยโบราณแสนอร่อย "พิซซ่าหน้ามะพร้าว" คืออีกหนึ่งฉายาที่คุณตาคุณยายของผู้ชอบเรียกชื่อนี้ให้ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ถังแตกเป็นคำอุปมาของไทยที่แปลว่าเงินหมดจึงเป็นคำที่หลายท่านคิดว่าไม่เป็นมงคล ปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนชื่อให้เป็นศิริมงคลจากขนมถังแตกมาเป็น ขนมเงิน คือไส้มะพร้าว ขนมทอง คือไส้ฝอยทอง กันแล้วนะคะรู้กันหรือยังเอ่ย? ที่มาของชื่อขนมนี้มาจากนักพนันในสมัยก่อนชอบซื้อรับประทานหลังเล่นพนันย่านสนามมวยใหญ่ ๆ ในกรุงเทพเมื่อนักพนันเล่นแพ้ไม่มีเงินซื้อข้าว จนต้องซื้อขนมชนิดนี้ที่คนไทยเชื้อสายจีนนิยมนำมาขายในราคาถูกถือว่าอิ่มแทนข้าวไปมื้อหนึ่งไทยเพราะสมัยก่อนแผ่นแป้งจะใหญ่กว่าปัจจุบันมันไส้ก็เยอะจนชวนให้ลิ้มลอง เหมือนพิซซ่าแบบฉบับไทยไหมคะ? ปกติจะเสริฟในรูปแบบลักษณะพับตัวขนมครึ่งวงกลมแต่เมื่อคลี่ออกมาก็จะเป็นดั่งภาพด้านบนค่ะด้านในเป็นไส้มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย คลุกด้วยน้ำตาลทรายขาวและผสมงาขาวคั่วหรืองาดำคั่วหอม ๆ ก็ได้ค่ะ จะมีรสชาติหวาน มัน เค็ม หอมกลิ่นแป้งมะพร้าวและงา เมื่อสังเกตดูก็เหมือนเครปสุด ๆ ไปเลยแต่ขนมถังแตกดั่งเดิมแป้งจะต้องหนามากและนุ่มฟู ผู้เขียนแนะนำให้รับประทานตอนขนมถังแตกกำลังร้อน ๆ จะหอมอร่อยมากกว่าตอนความร้อนหายไปค่ะ ดูไปก็เหมือนทาโก้ของประเทศเม็กซิโกและทั้งคู่นี้ก็เป็นสตรีทฟู้ดได้เหมือนกันซะด้วยค่ะ สู่ชื่อและการประยุกต์ไส้แบบใหม่เป็น ขนมเงินขนมทอง ปกติขนมจะพับครึ่งพร้อมรับประทานแต่ผู้เขียนกลัวทุกท่านไม่เห็นลักษณะของไส้ด้านในเลยแอบคลี่ให้ดูว่าในปัจจุบันมีไส้ที่หลากหลายไม่ใช่เพียงแค่มะพร้าว (ขออภัยที่ไส้ครีมที่ถูกกดทับจากการพับไม่สวยด้วยค่ะ) แต่ยังมีไส้มะพร้าวขูดสีสันสดใสผัดให้เค็ม ขนมฝอยทองสีต่าง ๆ เนื้อครีมสีขาวหวานและการผสมหลาย ๆ อย่างรวมกันในหนึ่งชิ้นคล้ายกับไส้ของขนมเบื้อง เห็นแบบนี้ราคาทุกท่านสามารถจับต้องได้ง่ายเพียงชิ้นละ 20 - 25 บาท ปัจจุบันตามตลาดนัดทั่วไป ตลาดตามช่วงเทศกาลประจำปีเป็นที่นิยมอย่างมากในแถวจังหวัดภาคกลางโดยเฉพาะเขตปริมณฑลจะเห็นได้ง่ายบนเตาที่ส่งกลิ่นหอมในร้านขนมถังแตกที่นิยมทำสดบนเตาชิ้นต่อชิ้นให้หอมร้อนเมื่อลูกค้ารับไป เมื่อมีโอกาสทุกท่านอย่าลืมอุดหนุนลองชิมกันดูว่าจะถูกปากกันแค่ไหน (แต่ส่วนตัวผู้เขียนชอบอร่อยดีค่ะ) มาช่วยกันอนุรักษ์ขนมไทยไปด้วยกันนะคะ ภาพประกอบบทความ โดย ผู้เขียน(Moona K)