มีใครชอบกินปลานิลบ้างไหมคะ? ส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบกินปลานิลมากๆ เพราะรู้สึกว่าเนื้อปลานิลมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อมีรสหวานนุ่ม กินง่าย ไม่เหม็นคาว นอกไปจากนี้เรายังสามารถเอาปลานิลมาใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปลานิลต้ม แกงส้มปลานิล ปลานิลทอด ปลานิลย่าง กินอร่อยได้ทุกเมนู วันนี้เลยอยากชวนเพื่อนๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับปลานิล ปลานิลจิตรลดา ประโยชน์ที่น่าสนใจของปลานิล พร้อมสูตรแกงส้มปลานิลฉบับชาวใต้ปลานิลจิตรลดา พันธุ์ปลาพระราชทานปลานิล หรือ ปลานิลจิตรลดา เป็นพันธุ์ปลาที่มีจุดกำเนิดในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ.2508 โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตได้น้อมเกล้าถวายพันธุ์ปลา Nile tilapia จำนวน 50 ตัว แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลี้ยงปลาไว้ในบ่อที่สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตและทรงพระราชทานชื่อของปลาชนิดนี้ว่า “ปลานิล” ต่อมาภายในปี พ.ศ. 2509 จึงพระราชทานพันธุ์ปลาชนิดนี้จำนวน 10,000 ตัวให้แก่กรมประมงเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนเป็นการต่อไป ในเวลาถัดมาปลานิลได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพันธุ์ปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ออกลูกดก ให้เนื้อเยอะและมีรสชาติที่อร่อย ปลานิลจึงกลายมาเป็นเนื้อปลาโปรตีนสูงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากปลานิลหากมองเผินๆ จะมีลักษณะคล้ายกับปลาหมอเทศ แต่ตัวจะใหญ่กว่าปลาหมอเทศและช่วงปากสั้นกว่า อีกหนึ่งจุดสังเกตของปลานิลคือจะมีเกล็ด 4 แถวตรงช่วงแก้มปลาและจะมีลายพาดขวางลำตัวประมาณ 9-10 แถบ คุณค่าทางสารอาหารของปลานิล 1 ตัว ให้พลังงานประมาณ 130-150 kcalโปรตีน 26 กรัมไขมัน 3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0 กรัมนอกไปจากสารอาหารหลักแล้วนั้น เนื้อปลานิลยังอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่จำเป็นอีกมากมาย ทั้งกรดไขมันดี โพแทสเซียม วิตามินเอ วิตามินอี ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ไนอะซิน ฯลฯ 5 ประโยชน์สุดล้ำของปลานิลจิตรลดาปลานิลเป็นแหล่งของลีนโปรตีน (Lean Protein) หรือเรียกง่ายๆ ว่าโปรตีนไขมันต่ำ ในปลานิล 1 ตัวให้โปรตีนมากถึง 26 กรัม ซึ่งนับเป็นปริมาณเกือบ 50% ของปริมาณโปรตีนโดยเฉลี่ยที่ควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งโปรตีนเป็นสารอาหารจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับทุกๆ ระบบภายในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีพละกำลังพร้อมใช้อยู่เสมอ ปลานิลเป็นแหล่งของกรดไขมันดี โอเมก้า 3 ไม่ต้องกินปลาทะเลน้ำลึกราคาแพงๆ อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า เพราะปรานิลก็อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่นเดียวกัน ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีบทบาทสำคัญช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้อีกด้วยเนื้อปลานิลเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ทานได้ทุกเพศทุกวัย ไม่เหมือนแหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ฯลฯ ที่จะมีเส้นใยเนื้อที่เหนียว เคี้ยวยาก ย่อยยาก เนื้อปลานิลนั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายและดูดซึมได้ง่าย เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดีปลานิลช่วยบำรุงหัวใจ เพราะเนื้อปลานิลมีโพแทสเซียมสูงมาก (ปลานิล 100 กรัม มีโพแทสเซียมมากถึง 300 มิลลิกรัม) ซึ่งโพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการยืดและหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติปลานิลอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เพราะในเนื้อปลานิลเป็นแหล่งของซิลิเนียม ซึ่งสารชนิดนี้มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันและลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งได้ สูตรแกงส้มปลานิลฉบับชาวใต้แกงส้มปลานิลเป็นแกงที่บ้านเราทำบ่อยมากๆ เพราะแกงง่าย กินง่าย ได้โปรตีนเน้นๆ และรสชาติอร่อย วัตถุดิบที่ใช้และขั้นตอนการปรุงก็ไม่ยากวัตถุดิบแกงส้มปลานิล เนื้อปลานิลครึ่งตัว หั่นเป็นชิ้นพอเหมาะ (ล้างทำความสะอาดด้วยเกลือเม็ด)เครื่องแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะกะปิ 2 ช้อนโต๊ะน้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะน้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะเผือกหัวเล็ก 1 หัว หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หรืออาจเปลี่ยนเป็นผักอื่นๆ ตามชอบ วิธีการปรุงแกงส้มปลานิลใช้หม้อขนาดกลาง เติมน้ำประมาณ 1/3 ของหม้อ (ปริมาณน้ำกะตามชอบได้เลยค่ะ แต่ถ้าใส่น้ำเยอะต้องปรับเพิ่มเครื่องแกงและกะปิตามไปด้วย) จากนั้นใส่เครื่องแกงและกะปิลงไป ตั้งจนน้ำเดือดดี คนให้เครื่องแกงและกะปิละลายจนหมด ไม่เกาะเป็นก้อนจากนั้นให้เอาเผือกที่เราปอกเปลือกและหั่นเอาไว้ลงไปต้มในน้ำแกง รอประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้เผือกนิ่ม หากเพื่อนๆ ใช้ผักชนิดอื่นที่เนื้อนิ่ม เช่น หน่อไม้ สับปะรด ฯลฯ สามารถใส่หลังเนื้อปลาได้เพราะผักพวกนี้จะสุกง่ายกว่า ช่วงที่ต้มเผือกห้ามใส่พวกน้ำมะนาวหรือน้ำมะขามเปียกลงไปนะคะเพราะความเปรี้ยวจะไปรัดผิวด้านนอกของเผือก ทำให้เผือกไม่นิ่ม เวลากินจะแข็งไม่อร่อยค่ะหลังต้มจนเผือกนิ่มลงแล้ว ให้ใส่เนื้อปลานิลลงไป (อย่าลืมล้างปลาด้วยเกลือเม็ดสัก 1-2 น้ำ เพื่อช่วยลดกลิ่นคาวและล้างเอาคราบเลือดต่างๆ ออกไปจนหมด ทำให้น้ำแกงส้มสีใส ไม่ขุ่น) ตั้งไฟกลางต่อรอจนเนื้อปลาสุก ในช่วงที่ใส่เนื้อปลาลงไปในหม้อไม่แนะนำให้คนนะคะเพราะจะทำให้น้ำแกงคาว ให้ใช้การหย่อนเนื้อปลาลงไปในน้ำแกงทีละชิ้นแล้วค่อยๆ ใช้ทัพพีกดเนื้อปลาลงไปใส่น้ำปลาลงไปคนจนเข้ากันดี พอเผือกนิ่มดีและเนื้อปลาสุกทั่วกันแล้วให้ใส่น้ำมะนาวลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วปิดไฟ คนเบาๆ ให้น้ำมะนาวกระจายไปทั่วหม้อเป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟทั้งนี้หากเพื่อนๆ จะใส่น้ำมะขามเปียกหรือน้ำตาลก็ปรับเพิ่มได้ตามใจชอบเลยค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาปลาอร่อยๆ เนื้อหวานนุ่ม ทำอาหารได้หลากหลายแนะนำปลานิลจิตรลดาเพราะหาซื้อง่าย ราคาไม่แพงมาก เอามาแกงส้มด้วยสูตรของเราก็ง่ายดาย หรือจะเอามานึ่งซีอิ๊ว เอามาทอดหรือทำปลานิลย่างเกลือก็อร่อยเด็ดทุกเมนูอย่างแน่นอนภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย Stopboxstudio จาก canva แต่งด้วย canvaภาพในเนื้อหา ภาพที่1 โดย Kindel Media จาก pexels ภาพที่2 โดย topntp26 จาก freepik ภาพที่3 โดย Ivan Negru's Images จาก canva / ภาพที่4-6 โดย ผู้เขียนห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป