มีคนไปตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ Pantip โดยชื่อผู้ใช้ว่า "Sambal" กระทู้ได้พูดถึงชื่อเมนูอาหารสุดแปลก จนเจ้าของกระทู้งง และต้องการสอบถาม เนื้อความว่า "คือเราไปกินข้าวที่ร้านแห่งหนึ่ง ก็สั่งข้าวคลุกปลาทู แล้วพนักงานส่งออเดอร์ต่อ เรียก ข้าวแมว 1 จาน สักพักเพื่อนอีกคนมาถามย้ำ ข้าวแมวใช่ไหม ไม่ใช่ข้าวหมา.. เราก็ เอ๊ย... พอข้าวมาเสริฟ เราก็ถามว่า ข้าวแมวเหรอคะ - พนักงานตอบ ค่ะ - เราถามอีกว่า แล้วมีข้าวหมาด้วยเหรอคะ - พนักงานตอบ ค่ะ ข้าวหมาก็คือ ข้าวหมูทอดกระเทียม - เราก็เป็นคนที่ชอบทั้งหมา และแมวนะ แต่มาเรียกในร้านอาหาร มันดูแปลก ระคายหูไปหน่อยล่ะมั้ง" จากนั้นก็มีคนเข้ามาตอบปัญหา หรือไขข้อสงสัยให้กับเจ้าของกระทู้มากมาย เลยทำให้ฉุดคิดว่า เราต้องมานำเสนอบทความนี้ให้ผู้อ่านได้ติดตามกัน แล้วจริง ๆ ข้าวแมว เอาไว้ให้แมวกินหรอ หรือมันเป็นยังไง แล้วทำไมมันถึงเป็นที่นิยมในหมู่คน ผู้เขียนขออธิบายว่าแท้จริงแล้ว ข้าวแมว ไม่ได้เป็นอาหารแมวหรืออาหารคนแต่ทั้งคน ทั้งแมว ก็ทานได้จ้า เพราะมันก็คือเมนู "ข้าวคลุกปลาทู" นั่นเองค่ะ ความที่มันได้เป็นชื่อข้าวแมว เพราะมีลักษณะของการเอาปลาทูมาคลุกข้าว แล้วให้แมวทาน ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะทำให้ลูกหลานทาน ผู้เขียนเองเคยลิ้มลองฝีมือของคุณย่า ที่ท่านเคยทำข้าวแมวให้ทานตอนเรียนประถมศึกษาจนได้มาเรียนมัธยม เมนูทำง่าย จะได้ไปโรงเรียนทันเวลา อีกทั้งทางบ้านก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมาก การใช้อาหารร่วมกันระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง จึงไม่หนีกันไปไหน โดยคุณย่าจะทำข้าวคลุกปลาทู จากนั้นท่านจะแบ่งให้เราทานครึ่งหนึ่งแล้วนำไปให้แมวครึ่งหนึ่ง ท่านบอกว่า รีบ ๆ ทานแข่งกับแมวนะ ถ้าเราแพ้แมว แสดงว่าเราไม่เก่ง ช่วงนั้นเรารู้สึกสนุกกับการรับประทานอาหารมาก และเมนูนี้ยังทำให้เรารักสัตว์เลี้ยงและเติบโตมากับเมนูนี้ บทความวันนี้จึงอยากจะมาแชร์เมนูนี้ให้กับทุก ๆ คนได้ลองไปทำทานกัน เพราะมันอร่อยจริง ๆ เอาสูตรจากคุณย่ามาให้ได้ทาน อ่ะ ๆ ! ไม่รอช้า ไปหาสมุดอะไรมาจดเพื่อนำไปทำตามกันได้เลย วัตถุดิบประกอบไปด้วย 1.ปลาทูเข่ง หรือปลาทูนึ่ง 2-3 ตัว แล้วแต่ชอบ 2.ข้าวสวย ใครชอบข้าวแบบไหนก็เลือกตามความชอบ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรรี่ เป็นต้น 3.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำมันสำหรับทอดปลาทู 5.พริกขี้หนู 5-8 เม็ด (สามารถใส่ได้ตามแต่ชอบเผ็ดมากหรือน้อย) 6.แตงกวา (แช่เย็นด้วยจะอร่อย) 7.ผักชี 1 กำ 8.หอมแดงซอย 1-2 หัว สำหรับวิธีการทำ มาดูขั้นตอนกันเลย 1. เริ่มแรก เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม โดยเริ่มจากการนำปลาทูไปทอด หรือ ถ้าใครจะนำไปย่างถ่านก็ได้ ตามแต่ความชอบ จากนั้นนำข้าวไปหุงให้สุก ซึ่งการหุงข้าวต้องใช้เวลา เพราะหากท่านใช้ข้าวที่ไม่ใช่ข้าวเจ้าทั่วไป ก็ต้องกะเวลาและน้ำสำหรับการหุงให้พอดี เพื่อไม่ให้ข้าวแข็ง จะทำให้รับประทานไม่อร่อย 2. นำปลาทูที่ปรุงสุก พร้อมกับข้าวที่เราชอบมาคลุกรวมกัน เพื่อให้ความหอมของปลาทูและข้าวเข้ากัน กลมกล่อมอย่างลงตัว 3. เติมน้ำปลา 1ช้อนโต๊ะ เคล็ดลับของหลวงนีคือ น้ำปลา นี่แหละค่ะ เพราะจะช่วยชูรสของข้าวและปลาทู ตัวปลาทูเอง ความเค็มจะไม่เค็มมาก ทำให้เวลาคลุกข้าว รสชาติจะหายไป การเติมน้ำปลานิดหน่อย เพิ่มความหอมและกลมกล่อมสุด ๆ เลย จากนั้นเมื่อผสมข้าว ปลาทู และน้ำปลา ทั่ว ๆ แล้ว ก็พักข้าวไว้เพื่อให้รสชาติซึมเข้าข้าว 4.เตรียมเครื่องเคียง เริ่มจากหอมแดงซอย พริกขี้หนูหั่นฝอย ซึ่งใครชอบความเผ็ด ก็สามารถใส่ได้ตามความต้องการ แต่ระวังนะ ถ้าเผ็ดมากไปก็จะไม่ได้รสชาติของปลาทู เพราะฉะนั้น เผ็ดกำลังดี หรือ จะกัดพริกตามก็จะได้อรรถรสการรับประทานอีกแบบ 5.นำมะม่วงมาสับหยาบ ๆ มะม่วงที่ใช้จะเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ที่ยังดิบ เพื่อความความเปรี้ยวจี๊ด ในการรับประทานเป็นเครื่องเคียง 6.เตรียมมะนาว สำหรับใส่เพิ่มเข้าไป กรณีชอบความเปรี้ยวหน่อยๆในข้าว แต่หากใครจะรับประทานคู่กับมะม่วงอยู่แล้วไม่ใส่มะนาวลงไปก็ได้ อันนี้ก็อยู่ที่ความชอบของท่านผู้อ่านจะเอาไปดัดแปลงอีกที แต่หากเราใส่มะนาวไป ก็จะมีความรู้สึกเหมือนทานยำปลาทู แต่เปลี่ยนจากขนมจีนเป็นข้าวนั่นเอง 7.เมื่อเตรียมเครื่องเคียงเรียบร้อย ก็ทำการจัดจานให้น่ารับประทาน สูตรหลวงนีจะมีผักให้เลือกทานเยอะแยะไปหมด แค่ในตัวข้าวแมวเองก็มีทั้งหอมแดง พริกขี้หนู และมะม่วง เสริมทัพด้วย ผักชี แตงกวา ทำให้เมนูลงตัวขึ้น เพราะเมื่อทานข้าวแมวแล้ว หากรู้สึกว่ารสชาติเผ็ดเกินไป หรือต้องการตัดเลี่ยน ผักเหล่านี้ช่วยได้มาก เป็นไงล่ะคะ ท่านผู้อ่านท้องร้องเลยใช่ไหม? แอบได้ยินเสียงท้องร้อง อิอิ > คุณย่าบอกว่าอาหารแมวนี้ ทำให้เรารู้จักคุณค่าของอาหารนะ เพราะชิ้นส่วนของปลาทู สามารถให้ทั้งคน ทั้งแมวอิ่ม ประหยัดเงินเลี้ยงดูทั้งคนทั้งแมวได้เยอะเลย ผู้เขียนจึงอยากจะสะท้อนให้เห็นว่า คนสมัยก่อนการจะมีข้าวรับประทานต้องประหยัดกันมาก ๆ ยายบอกว่า ปลาทู 1ตัว กินได้ 1อาทิตย์ ซึ่งเมนูข้าวแมวนี้ ทำให้เราเห็นความเป็นอยู่ของคนในอดีต การดัดแปลงเศษเนื้อปลา มาคลุกข้าว ทำให้ประหยัดอาหารได้เยอะขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวใหญ่ อาหารจะมีเพียงพอสำหรับทุกคนในบ้าน แถมรสชาติยังอร่อยมาก ๆ ด้วยนะ ผู้เขียนหวังว่า ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง หรือในขณะที่ผู้เขียนกำลังเขียนนี้ ประเทศไทยเกิดโรคระบาด COVID-19 การจะประหยัดค่าใช้จ่ายด้านอาหาร ลองเอาเมนูข้าวแมวไปลองทำดู เผื่อจะช่วยให้ผู้อ่านลดค่าใช้จ่ายได้เยอะขึ้น วันนี้ขอฝากการรีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน เดี๋ยวรอบหน้าจะมารีวิวอะไรต่อ ฝากติดตามนะคะ เรื่องและภาพโดย หลวงนี Picture and Story by Luang Nee