ภาพปกจากpixabay เมนูอาหารพื้นบ้านในแต่ละภาคของไทยล้วนแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งความแตกต่างนี้มาจากวัตถุดิบ ความเชื่อ ภูมิประเทศ และภูมิอากาศ เป็นต้น ภาพจากunsplash อาหารพื้นบ้านเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดองค์ความรู้จากอดีตสู่ปัจจุบันผ่านสถาบันครอบครับเป็นหลัก ทำให้หลายเมนูมีความแตกต่างกันแม้จะอยู่ในพื้นที่เดียวกันก็ตาม ดังนั้นบทความนี้จะกล่าวถึง เมนูเด็ดของคนอีสานโบราณที่ได้รับความนิยมและยอมรับในวงกว้างมิได้จำกัดเพียงคนอีสานเท่านั้น ข้าวจี่ทาไข่ ภาพโดยผู้เขียน เมนูเด็ดเมนูนี้จะมีขึ้นหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวเหนียวใหม่ ซึ่งข้าวเหนียวใหม่นี้จะมีความนุ่มหอมเป็นอย่างมาก ประกอบกับในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวใหม่เป็นฤดูหนาว คนอีสานสมัยก่อนมักจะล้อมวงก่อไฟผิง ระหว่างผิงไฟทุกคนจะนำเอาข้าวเหนียวนึ่งใส่กระติบมาด้วย โดยนำมาปั้นเป็นทรงรี ทรงไข่ เสียบด้วยไม้ไผ่โรยเกลือเพียงนิดแล้วย่างไฟแรงให้ข้าวและเกลือจนขึ้นดาน (จับตัวแข็ง) ภาพจากunsplash จากนั้นจึงนำมาทาไข่ที่ถูกตีให้ไข่แดงและไข่ขาวผสมเป็นเนื้อเดียวกันเมื่อทาทั่วแล้วจึงนำไปย่างไฟ ในปัจจุบันเมนูข้าวจี่ถูกประยุกต์ให้หอมอร่อยยิ่งขึ้นด้วยการนำเอาข้าวเหนียวไปมูนกะทิก่อนย่างไฟ ส่วนไข่ที่ใช้ทานั้นก็จะตีฟองให้ฟูแล้วนำข้าวไปชุบฟองไข่แทนการทา ส่วนความอร่อยเด็ดของเมนูนี้คือความหอม มัน เค็มของไข่ และความกรอบนอกนุ่มในของข้าวเหนียวใหม่ที่ถูกย่างบนไฟร้อน ส้มตำ ภาพจากpixabay คงไม่มีใครไม่รู้จักเมนูนี้ ส้มตำในอดีตนั้นจะไม่ใส่มะเขือเทศไม่ใส่มะนาว แต่จะใช้มะเขือส้ม(มะเขือเทศพื้นบ้าน คนอีสานส่วนใหญ่เรียกมะเขือเครือ)และหมากเว่อ (มะนาวยักษ์)แทน ในส่วนเส้นมะละกอนั้นก็ใช้การสับและฝานแทนการขูด ซึ่งข้อดีของการสับแบบนี้จะทำให้ได้เส้นที่กรอบ เส้นไม่เละ ปลาร้าที่นำมาปรุงก็จะใช้ปลาร้าน้ำใสที่ได้จากการหมักปลากกระดี่ ภาพจากpixabay ในปัจจุบันความนิยมในการรับประทานส้มตำได้ขยายวงไปทุกพื้นที่ ส้มตำในแบบดั้งเดิมก็ถูกนำมาประยุกต์ปรับเปลี่ยนเป็นตำชนิดต่าง ๆ เช่นตำทะเล ตำผลไม้ ตำข้าวโพด เป็นต้น แต่หัวใจหลักของการตำทุกชนิดคือรสชาติที่อร่อยเด็ดครบรส ทั้งเปรี้ยว หวาน และเค็มของส้มตำนั่นเอง ไส้กรอกอีสาน ภาพจากpixabay แต่เดิมการทำไส้กรอกมีจุดประสงค์เพื่อถนอมอาหารให้เก็บไว้กินได้นานขึ้น โดยช่วงแรกไส้กรอกอีสานนั้นถูกทำขึ้นจากเนื้อวัว โดยใช้ตับอ่อนและน้ำดีของวัวเป็นตัวหมักเนื้อเรียกว่าหม่ำ ความนิยมนี้เกิดขึ้นในหมู่นายฮ้อยผู้ค้าขายวัวควายที่เดินทางลงกรุงเทพสมัยก่อน ต่อมาจึงค่อยเปลี่ยนเป็นเนื้อหมู กระบวนการทำไส้กรอกหมูนี้คล้ายกับการทำส้มหมูที่นำเอาเนื้อหมูบดมาคั้นกับข้าวเหนียวและกระเทียมจนเนื้อเปลี่ยนสีจึงบรรจุลงห่อ หากทำเป็นส้มหมูจะบรรจุใส่ใบตอง แต่หากทำเป็นไส้กรอกจะยัดลงในเยื่อลำไส้ของหมูแทน ไส้กรอกอีสานนี้หากเก็บไว้นานจะมีรสเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ สามารถนำมาทอดหรือย่างกินกับข้าวเหนียวโดยมีพริกสดและกระเทียมเป็นเครื่องเคียง ภาพจากpixabay ในปัจจุบันการทำไส้กรอกนี้มีการใช้จุลินทรีจากสถาบันวิจัยต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สะอาดปลอดภัย และมีคุณภาพสูง ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งรสชาติเปรี้ยว หวาน มัน ที่เป็นเอกลักษณ์ของไส้กรอกอีสาน ทำให้ผู้ที่ลองชิมแล้วต้องติดใจในความอร่อย ไม่ว่าเข็มนาฬิกาจะหมุนวงวัฏแห่งกาลเวลาให้ผ่านไปนานเท่าใด แต่เมนูเด็ดของคนอีสานนี้จะได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะนอกจากเอกลักษณ์ทางรสชาติเฉพาะตัวของอาหารเหล่านี้แล้ว ความกระตือรือร้นในการปรับตัว ความริเริ่มสร้างสรรค์ และความเปิดกว้างรับวิทยาการสมัยใหม่ของคนอีสานนั้น เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้อาหารอีสานได้รับความนิยมตลอดไป