8 ทริคเลือกพริกหวานสีเขียว ดูยังไงดี แบบไหนสดใหม่ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล พริกที่ไม่เผ็ดและพริกที่ผู้เขียนทานได้มากสุดต่อครั้ง ที่รู้ตอนนี้มีเพียงพริกหวานเท่านั้นค่ะ โดยพริกหวานสีเขียวเป็นชนิดที่ผู้เขียนเห็นวางขายบ่อยที่สุด อีกทั้งพริกสีนี้ดึงดูดให้ผู้เขียนสนใจและหาโอกาสซื้อมาทำอาหารบ้างตามโอกาส ซึ่งมักนำมาหั่นใส่สลัดผักค่ะ แต่ถ้าบางครั้งพริกชนิดนี้เหลือมากพอ เราสามารถนำมาผัดหรือย่างได้นะคะ ที่ก็ให้ความอร่อยได้แบบไม่จำเจที่แตกต่างออกไป แต่ความอร่อยของพริกหวานสีเขียวจะเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นกอง ถ้าคุณผู้อ่านสามารถเลือกซื้อพริกหวานชนิดนี้แบบสดใหม่มาได้นะคะ เพราะคุณภาพของพริกหวานสีเขียวส่งผลต่อรสชาติที่เราจะได้รับค่ะ ดังนั้นเพื่อไม่ให้พลาดตอนไปซื้อพริกหวานสีเขียวที่ตลาด เรามารู้เกี่ยวกับวิธีเลือกพริกหวานสีเขียวกันดีกว่าค่ะ ที่ในบทความนี้จะมีมาให้ทั้งหมดด้วยกัน 8 ข้อ ส่วนจะมีวิธีการอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น อ่านต่อกันเลยดีกว่า ดังนี้ 1. ดูผิวสัมผัส การเลือกพริกหวานสีเขียวที่สดใหม่โดยดูจากผิวสัมผัสเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณได้พริกหวานที่มีคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุดในการนำไปประกอบอาหาร และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ผิวสัมผัสเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกพริกหวานสีเขียวที่สดใหม่ เพราะมันบ่งบอกถึงความสดและคุณภาพภายในของพริกหวานได้เป็นอย่างดีค่ะ เมื่อใช้มือลูบผิวพริกหวาน จะรู้สึกถึงความเรียบเนียน ไม่ขรุขระ หรือมีจุดนูนๆ ซึ่งเป็นสัญญาณของความเสียหายหรือการเริ่มเน่าเสีย ผิวที่เรียบเนียนจะมีสีเขียวสดใสสม่ำเสมอทั่วทั้งผล ผิวที่เรียบเนียนบ่งบอกว่าพริกหวานสีเขียวยังคงมีความชุ่มชื้นอยู่ภายใน และยังไม่ถูกทำลายจากแรงกระแทกหรือการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสมค่ะ ผิวของพริกหวานสีเขียวที่สดใหม่จะมีความมันวาวเล็กน้อย ดูสดใสและน่ารับประทาน โดยความมันวาวนี้เกิดจากไขมันธรรมชาติที่เคลือบอยู่บนผิว ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำและรักษาความสด ผิวที่เหี่ยวแสดงว่าพริกหวานสูญเสียน้ำ และเริ่มแห้ง ผิวที่เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล เป็นสัญญาณของการเน่าเสีย 2. สังเกตสี สีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของพริกหวานสีเขียวค่ะ การสังเกตสีอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณผู้อ่านเลือกซื้อพริกหวานชนิดนี้ที่มีคุณภาพได้อย่างแม่นยำ สีเขียวสดใส บ่งบอกว่าพริกหวานยังคงมีความสดใหม่ และมีคลอโรฟิลล์อยู่ในปริมาณที่สูง โดยพริกหวานสีเขียวที่น่าซื้อควรมีสีเขียวจะดูมีชีวิตชีวา ไม่ซีดจาง หรือมีสีเหลืองปนค่ะ สีเขียวของพริกหวานควรมีความสม่ำเสมอทั่วทั้งผล ไม่มีส่วนที่สีเข้มหรืออ่อนกว่าส่วนอื่นๆ และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ สีซีดจาง: พริกหวานที่สีซีดจาง แสดงว่าเริ่มสูญเสียความสดใหม่และคลอโรฟิลล์ สีเหลือง: จุดเหลืองบนผิวพริกหวานบ่งบอกว่าพริกหวานเริ่มสุกเกินไป หรืออาจเน่าเสีย สีน้ำตาล: สีน้ำตาลมักเกิดจากการบาดเจ็บหรือการเน่าเสีย 3. ตรวจสอบขนาด นอกจากสีและผิวสัมผัสแล้ว ขนาดและรูปทรงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของพริกหวานสีเขียวค่ะ การเลือกพริกหวานสีเขียวที่มีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้พริกหวานชนิดนี้ที่มีรสชาติอร่อยและเนื้อแน่นได้ พริกหวานสีเขียวที่มีรูปทรงสมมาตร คือ พริกหวานที่มีรูปร่างกลมหรือสี่เหลี่ยมที่สมส่วน เนื่องจากพริกหวานสีเขียวที่มีรูปทรงสมมาตรมักจะมีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ และมีโอกาสที่จะมีเนื้อแน่นและรสชาติหวานอร่อยมากกว่าพริกหวานที่มีรูปทรงผิดปกติค่ะ โดยขนาดที่พอเหมาะ ได้แก่ ไม่เล็กเกินไป: พริกหวานที่เล็กเกินไป อาจมีเมล็ดเยอะและเนื้อน้อย ไม่ใหญ่เกินไป: พริกหวานที่ใหญ่เกินไป อาจมีโอกาสที่ภายในจะเน่าเสียได้ง่าย ขนาดที่เหมาะสม: พริกหวานที่มีขนาดกลาง จะมีเนื้อเยอะและรสชาติหวานอร่อยค่ะ ดังนั้นให้ลองเปรียบเทียบขนาดและรูปทรงของพริกหวานแต่ละผล เพื่อเลือกผลที่มีขนาดและรูปทรงที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาพริกหวานสีเขียวที่มีขนาดเท่ากัน แต่หนักกว่า อาจมีเนื้อแน่นกว่านะคะ ควรหลีกเลี่ยงการซื้อพริกหวานที่มีส่วนที่บุบหรือมีรอยแผลค่ะ 4. กดดูความแข็ง การกดตรวจสอบความแข็งของพริกหวานสีเขียวเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการประเมินความสดใหม่ค่ะ เมื่อกดเบาๆ ที่ผิวพริกหวาน จะรู้สึกถึงความตึงและแข็ง ซึ่งบ่งบอกว่าภายในผลยังคงสดใหม่และมีน้ำหนัก โดยความแน่นของเนื้อเกิดจากเซลล์ภายในพริกหวานชนิดนี้ที่ยังคงแข็งแรงและอิ่มน้ำ พริกหวานสีเขียวที่ไม่สดใหม่ เมื่อกดเบาๆ จะรู้สึกว่าเนื้อนิ่ม เละ หรือมีรอยบุบง่าย เนื้อที่นิ่มเละเกิดจากการที่เซลล์ภายในพริกหวานสีเขียวเริ่มเสื่อมสภาพและสูญเสียน้ำ ดังนั้นควรกดตรวจสอบหลายๆ จุดทั่วผล เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อมีความแข็งทั่วถึง และให้ลองเปรียบเทียบความแข็งของพริกหวานสีเขียวแต่ละผล เพื่อเลือกผลที่มีเนื้อแน่นที่สุดค่ะ 5. ใช้การดมกลิ่น กลิ่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของพริกหวานสีเขียวค่ะ การดมกลิ่นจะช่วยให้เราแยกแยะได้ว่า พริกหวานสีเขียวที่เราเลือกมานั้นพร้อมที่จะนำไปประกอบอาหารหรือไม่ พริกหวานสีเขียวที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเกิดจากสารระเหยที่ปล่อยออกมาจากเนื้อพริกหวาน กลิ่นจะหอมสดชื่น ไม่ฉุน หรือมีกลิ่นเหม็น ส่วนพริกหวานสีเขียวที่เริ่มเน่าเสียหรือเสียหาย จะมีกลิ่นเหม็น หรือมีกลิ่นผิดปกติ เช่น กลิ่นเปรี้ยว กลิ่นเน่า โดยกลิ่นเหม็นนี้เกิดจากกระบวนการย่อยสลายของเนื้อพริกหวานค่ะ ถ้ามีกลิ่นฉุนอาจบ่งบอกว่าพริกหวานถูกฉีดสารเคมีเพื่อให้ดูสดใหม่ ในขณะที่กลิ่นอับอาจเกิดจากการเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธี หรือพริกหวานสีเขียวสัมผัสกับความชื้น และกลิ่นเหม็นดินอาจเกิดจากการปนเปื้อนของดินหรือสิ่งสกปรก 6. สังเกตที่ก้าน การตรวจสอบก้านพริกหวานเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการประเมินความสดใหม่ของพริกหวานสีเขียวค่ะ ก้านของพริกหวานที่สดใหม่จะมีสีเขียวสดใส ไม่เหี่ยวเฉา และไม่เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล ก้านที่สดใหม่บ่งบอกว่าพริกหวานสีเขียวยังคงได้รับน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอ ก้านของพริกหวานควรติดแน่นกับผล ไม่หลุดล่อนง่าย เมื่อดึงเบาๆ ก้านจะไม่หลุดออกมา ก้านที่ติดแน่นบ่งบอกว่าพริกหวานยังคงมีความสดใหม่ และไม่ได้ถูกเก็บไว้นานเกินไป ก้านที่เหี่ยวเฉาบ่งบอกว่าพริกหวานเริ่มสูญเสียน้ำและความสด ก้านที่เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล แสดงว่าพริกหวานเริ่มเน่าเสีย ก้านที่หลุดง่ายบ่งบอกว่าพริกหวานถูกเก็บไว้นานเกินไป หรือได้รับความกระทบกระเทือน และเคล็ดลับในการตรวจสอบก้านของพริกหวานสีเขียว มีดังนี้ ดึงเบาๆ: ดึงก้านเบาๆ เพื่อตรวจสอบความแข็งแรง สังเกตสี: เปรียบเทียบสีของก้านกับสีของผลพริกหวาน ตรวจสอบรอยช้ำ: ตรวจสอบว่าก้านมีรอยช้ำหรือรอยแตกหรือไม่ 7. สังเกตรอยตำหนิ นอกจากการตรวจสอบสี ขนาด รูปทรง ความแข็ง และกลิ่นแล้ว การสังเกตรอยตำหนิบนผิวของพริกหวานสีเขียวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันค่ะ เพราะรอยตำหนิต่างๆ บ่งบอกถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเนื้อในของพริกหวานได้ พริกหวานที่สดใหม่จะไม่มีรอยช้ำ รอยเขียว หรือรอยบุบ ซึ่งเกิดจากแรงกระแทกหรือการบีบอัด รอยช้ำจะทำให้เนื้อภายในเน่าเสียได้เร็วขึ้น และส่งผลต่อรสชาติ ผิวของพริกหวานสีเขียวควรเรียบเนียน ไม่มีรอยขีดข่วน หรือรอยแผล รอยขีดข่วนเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าทำลายเนื้อในได้ง่าย รอยด่างสีน้ำตาลหรือสีดำ อาจเป็นสัญญาณของการเน่าเสีย รอยแตกบนผิวพริกหวาน จะทำให้เชื้อโรคเข้าทำลายได้ง่าย ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีรอยกัดของแมลง หรือรูเล็กๆ บนผิวพริกหวานสีเขียวค่ะ โดยต้องตรวจสอบทุกด้านของพริกหวาน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยตำหนิใดๆ และเปรียบเทียบกับพริกหวานสีเขียวผลอื่นๆ เพื่อหาผลที่สมบูรณ์ที่สุดค่ะ 8. เลือกซื้อพริกหวานสีเขียวตามฤดูกาล การเลือกซื้อพริกหวานสีเขียวตามฤดูกาลเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับประทานพริกหวานที่มีรสชาติอร่อยที่สุด เพราะพืชที่ปลูกในฤดูกาลมักจะได้รับแสงแดดและน้ำฝนที่เพียงพอ ทำให้พริกหวานสีเขียวมีรสชาติหวานฉ่ำและมีกลิ่นหอมเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ พริกหวานที่ปลูกในท้องถิ่นยังช่วยลดการขนส่งระยะไกล ทำให้พริกหวานสดใหม่และมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า และวิธีสังเกตตามฤดูกาล ได้แก่ พริกหวานสีเขียวที่ปลูกในฤดูกาลมักจะมีราคาที่ถูกกว่า เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตที่มาก เลือกซื้อพริกหวานจากตลาดสดหรือฟาร์มเกษตรกรโดยตรง จะได้พริกหวานสีเขียวที่สดใหม่กว่า ก็จบแล้วค่ะ กับเคล็ดลับที่จำเป็นสำหรับเลือกพริกหวานสีเขียว หากอยากได้ผลที่สดใหม่ ก็ไม่ควรหลีกเลี่ยงที่จะนำเคล็ดลับในบทความนี้ไปใช้นะคะ พริกหวานสีเขียวสีสดใส เขียวทั่วทั้งผล ที่กดดูแล้วไม่นิ่มเละ คือลักษณะของพริกหวานสีเขียวที่ผู้เขียวเลือกตลอดค่ะ โดยการจะได้พริกหวานสีเขียวแบบนั้นได้ ก็เกิดจากที่ผู้เขียนได้สังเกตที่ผิวของพริกหวานสีเขียว และกดดูที่ผิวค่ะ อย่างไรก็ตามหากคุณผู้อ่านมีแหล่งเลือกซื้อพริกชนิดนี้ที่น่าเชื่อถือได้ นี่ก็เป็นแนวทางที่สามารถช่วยทำให้ได้พริกหวานสีเขียวสดใหม่ได้เช่นเดียวกันค่ะ ยังไงนั้นก็อย่าลืมนำเคล็ดลับข้ออื่นๆ ไปใช้ควบคู่กันด้วย ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Engin Akyurt จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/lAgwekXorprA https://food.trueid.net/detail/m2PLZm9RNLg2 https://food.trueid.net/detail/oAO3LbJ4xLBA เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !