สวัสดีคะเพื่อน ๆ วันนี้จะขอเอาใจผู้ที่หลงรักการดื่มกาแฟ แต่ไม่ใช่กาแฟทั่วไป วันนี้จะพามาลองชิมกาแฟขี้ช้าง ซึ่งเป็นกาแฟที่ต้องใช้เวลาผลิต หายากและราคาแพงที่สุด วันนี้ขอพาแวะชิมกาแฟขี้ช้าง ณ ศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำ ตำบลนาข่า อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ตามมาดูกันเลยคะ ตามมาดูศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำกันเถอะ ทริปนี้ เริ่มต้นด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ผ่านเส้นทางตำบลกำพี้ - นาข่า - วาปีปทุม - นาดูน ซึ่งเป็นเส้นทางข้ามอำเภอบรบือ วาปีปทุม และพระธาตุนาดูน เส้นทางนี้ผ่านทุ่งนาและหลายหมู่บ้าน เส้นทางคดเคี้ยว ใช้เวลา 45 นาที ภาพโดยผู้เขียน ศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำ อยู่ด้านซ้ายมือของถนน ซึ่งมีประตูไม้สัก และป้ายแสดงชื่อศูนย์ดังกล่าวใหญ่ชัดเจนมาก เมื่อถึงจุดหมาย จะมีจุดจอดรถได้ประมาณ 20 คัน เมื่อลงรถ จะมีพนักงานคอยต้อนรับยิ้มแย้ม แจ่มใส อัธยาศัยดี ทำหน้าที่แนะนำสถานที่และกิจกรรมต่าง ๆ ในศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำ ภาพโดยผู้เขียน พนักงานต้อนรับเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัว และประวัติความเป็นมา เริ่มต้นจาก หลวงปู่ครูบาธรรมมุนีเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์แห่งนี้ และมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินแห่งนี้ให้สร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมและศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยในจังหวัดมหาสารคาม โดยศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำ ได้ช่วยเหลือช้างไทยทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยและได้รับการดูแลที่ดี โดยมีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนประมาณหนึ่งแสนบาท นี่จึงเป็นที่มาในการผลิตกาแฟขี้ช้าง เพื่อนำมาเป็นทุนทรัพย์ในการช่วยเหลือช้างไทย ภาพโดยผู้เขียน โซนแรก คือ สถานที่ปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่ ซึ่งก่อสร้างด้วยอิฐปูน มีพระพุทธรูปจำนวนมากประดิษฐานทั้ง 4 ทิศ และเจดีย์อยู่ด้านหลัง ความรู้สึกที่เห็นครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นกับสถาปัตกรรรมเป็นอย่างมาก ภาพโดยผู้เขียน โซนที่สอง คือ ปางช้าง ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี ศึกษาและเรียนรู้ธรรมชาติของช้า โดยช้างทุกเชือกได้รับการอุปการะมามากกว่า 20 เชือก โดยควาญช้างแนะนำว่า ส่วนใหญ่จะเป็นช้างเพศผู้ ช้างงา และช้างตกมัน เวลาเข้าเยี่ยมชมต้องไม่เสียงดัง และไม่ควรฉีดน้ำหอม เนื่องจากจะทำให้ช้างเหล่านี้ตกใจและอาจวิ่งออกมาทำร้ายนักท่องเที่ยวได้ ภาพโดยผู้เขียน โซนที่สาม คือ โซนสั่งอาหาร เครื่องดื่มและกาแฟขี้ช้าง พนักงานผู้ชงกาแฟ เล่าให้ฟังถึงประวัติของการผลิตกาแฟขี้ช้าง เริ่มต้นด้วยการลองผิดลองถูกในการทำกาแฟขี้ช้างอยู่ประมาณ 2 ปี ค้นหาขั้นตอนการผลิตเพื่อขจัดปัญหาเรื่องกลิ่น กระทั่งค้นพบสมุนไพรที่ช้างสามารถกินได้ ดีต่อสุขภาพ และทำให้ขี้ช้างมีกลิ่นเฉพาะ จากนั้นได้นำผลผลิตมาพัฒนาสูตรที่ทานง่าย และได้รับรองมาตรฐานคุณภาพ ซึ่งกรรมวิธีในการทำค่อนข้างยาก ผลผลิตค่อนข้างน้อย และราคาแพง จึงเป็นที่ต้องการของตลาดส่งออกในประเทศจีน ไต้หวัด สิงคโปร์ อีกด้วย ภาพโดยผู้เขียน บรรยากาศในร้านกาแฟ มีทั้งเมนูกาแฟขี้ช้าง เครื่องดื่มชา กาแฟ ชาเขียว โกโก้ สมูทตี้ผลไม้ และอาหารทานเล่น ร้านนี้แอร์เย็นสบาย ที่นั่งรับรองลูกค้าเพียงพอ มีทั้งตัวอย่างเมล็ดกาแฟขี้ช้าง อุปกรณ์การทำกาแฟจำลอง ประวัติความเป็นมาของการผลิตกาแฟขี้ช้าง และเครื่องบด เครื่องชงกาแฟจำลอง พนักงานในร้านยิ้มแย้ม แจ่มใส บริการดี และยังมีมุมให้ถ่ายรูปเช็คอินอวดเพื่อน ๆ ลงไอจีอีกด้วย ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน เมนูแนะนำของที่นี่ คือ "กาแฟขี้ช้าง" มีทั้งกาแฟช้างเอสเพรสโซ กาแฟช้างริสเทรสโต กาฟช้างอเมริกาโน กาแฟขี้ช้างลาเต้ และกาแฟขี้ช้างคาปูชิโน ราคาเริ่มต้นที่ 400-500 บาท ซึ่งกลิ่นของกาแฟชนิดนี้มีกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวน้อยกว่ากาแฟทั่วไป โดยที่นี่มีบริการให้ชิมฟรีคนละ 1 แก้ว รสชาติเข้มขมอมเปรี้ยว รู้สึกมีกลิ่นและรสชาติที่ไม่เคยดื่มมาก่อน และมีเมล็ดกาแฟขี้ช้างแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมและเลือกซื้อกลับบ้านกันอีกด้วย ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน จบลงไปแล้วกับการพาทัวร์ศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำแห่งเดียวในจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นทั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ศูนย์ปฏิบัติธรรม และแหล่งผลิตและจำหน่ายกาแฟขี้ช้าง ซึ่งเป็นกาแฟที่มีราคาแพง หาทานยาก และเป็นการส่งเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจจากมูลค่าการส่งออกกาแฟขี้ช้างไปยังต่างประเทศ อีกทั้งการบริการดี ประทับใจทุกระดับแบบนี้ หาไม่ได้จากที่ไหน อย่าลืมมาเยี่ยมชมกันเยอะ ๆ นะคะ การเดินทางมาศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำ - ที่อยู่ : บริษัท ช้างทองคำ ( ประเทศไทย ) จำกัด บ้านเลขที่ 212 ม.1 ต.นาข่า อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม 44120 - เวลาเปิด-ปิด : 08.00 -19.00 น. - FB : https://www.facebook.com/changthongkhum212 - พิกัด GPS : 15°48'35.9"N 103°12'07.6"E - Google maps : https://goo.gl/maps/ci55nnxqnu5bBeXZ7 - เบอร์โทร : 043 -706572